ตามที่ได้มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และแผน Spin Off บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ที่ส่งผลให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัทนั้น
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม พร้อมคณะผู้บริหาร ได้จัดการประชุมนักวิเคราะห์เพื่อรายงานผลประกอบการประจำปี 2567 ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 4,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% และประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นรวมจำนวน 2,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3.6% รวมถึงรายงานแผนกลยุทธ์และทิศทางการเติบโตของบริษัทในปี 2568 และแผนการลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยบริษัทมีแผนการมุ่งขยายใน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก อันประกอบด้วย โลจิสติกส์ โมบิลิตี้ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ แผนเตรียมการออกและเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงโอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกกลุ่มธุรกิจของ WHA ในอนาคต โดยแผนการ IPO ของ WHAID จะช่วยสนับสนุนศักยภาพและความสามารถในการเติบโตของ WHAID ในฐานะ Flagship ในการดำเนินธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม ซึ่งมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับความต้องการที่ดินอุตสาหกรรมในประเทศไทยและในประเทศเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ยังจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ WHA ในการขยายธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งรวมถึงธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจ New S-Curve ได้แก่ ธุรกิจโมบิลิตี้ และธุรกิจดิจิทัล อีกทั้งต่อยอดความสามารถในการพัฒนาและลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ WHA และผู้ถือหุ้นของ WHA ได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ WHA รวมถึงสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
โดยภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP สัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมทั้งหมดของบริษัทใน WHAUP จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 71.59 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAUPนอกจากนี้ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) WHAID จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยบริษัทจะถือหุ้นใน WHAID ทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75.95 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAID ภายหลังการ IPO
แผนการ IPO ของ WHAID และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP ดังกล่าวจึงเป็นไปเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทในทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสให้นักลงทุนในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจของ WHAID ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทย ตลอดจนเศรษฐกิจไทยในภาพรวม