ตลาดหุ้นไทยยังไม่หลุดจากกับดักความผันผวน เมื่อ บล.เกียรตินาคินภัทร (KKP) ออกรายงานล่าสุด ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2025 ลงเหลือ 1,230 จุด จากเดิมที่ 1,460 จุด สะท้อน “อัพไซด์” เพียง 5% จากระดับปัจจุบัน พร้อมเตือนความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวอาจทำให้ดัชนีร่วงลึกทดสอบ ระดับ 1,000 จุด ในไตรมาส 2 ปีหน้า
KKP ชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตั้งแต่เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า การบริโภคอ่อนแอ การส่งออกที่ถูกท้าทายโดยมาตรการภาษีระหว่างประเทศ ไปจนถึงนโยบายการเงินที่ยังตึงตัว สวนทางกับความคาดหวังของนักลงทุน
ไทยติดกับดัก “ซึมลึก”
KKP ให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทย (ไม่นับภาคท่องเที่ยว) ว่าอยู่ในภาวะ ถดถอยต่อเนื่องถึง 9 ไตรมาส นับตั้งแต่โควิด ขณะที่ EPS และ GDP เติบโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ตอกย้ำว่า “ความอ่อนแอ” เป็นปัจจัยภายใน ไม่ใช่แค่แรงกดดันจากโลกภายนอกเหมือนประเทศอื่น
แม้ตลาดจะดูอ่อนแอ แต่ P/E ของดัชนียังอยู่ที่ 12.2 เท่า สูงกว่าระดับ 10-11 เท่าที่ถือว่า “ถูกจริง” ทำให้ SET ยังมีโอกาสลงต่อจนกว่าจะมีปัจจัยบวกชัดเจน
KKP แนะถือหุ้นปลอดภัย สวนพายุตลาด
จนกว่านโยบายภาครัฐจะชัดเจนและได้ผลจริง KKP แนะนำให้ “เน้นหุ้นปลอดภัย” เป็นหลัก โดยเฉพาะ:
-กลุ่มโรงพยาบาล: BCH, PR9, BDMS, BH — รับมือเศรษฐกิจอ่อนแรงได้ดี
-กลุ่มสื่อสาร: TRUE, ADVANC — ได้แรงหนุนจากการควบรวม
-กลุ่มธนาคารใหญ่: KBANK, SCB — พื้นฐานแข็ง มีเงินปันผลดี
วันที่ต้องจับตา: 30 เม.ย. 2025
KKP มองว่า การประชุม กนง. วันที่ 30 เม.ย. นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยน หากมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือมาตรการเร่งด่วน จะหนุนให้เกิดแรงซื้อใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นเสี่ยงที่เคยถูกขายทิ้ง เช่น:
-หุ้นหนี้สูง: AWC, ERW, IRPC, GPSC
-กลุ่มบริโภค อสังหาฯ และธนาคารขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนยังคงสูง โดยเฉพาะใน ไตรมาส 2/2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องติดตามผลประกอบการ ภาษีการค้า และตัวเลข GDP อย่างใกล้ชิด
ตลาดหุ้นไทยในมุมมองของ KKP ยัง “อ่อนไหว” และ “ยังไม่ถูกพอ” ที่จะเข้าซื้อแบบมั่นใจ นักลงทุนควรเน้นตั้งรับ มากกว่ารุก พร้อมปรับกลยุทธ์ตามภาวะตลาดเพื่อรอดพ้นจากความผันผวนที่ยังอีกยาว