news-details
Business

คาด SET แกว่งผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่นอน

InnovestX  คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีทรัมป์ ประเมินแนวรับ 1,115/1,110 แนวต้าน 1,140-1,145 

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(16เม.ย.) คาด SET แกว่งผันผวน จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีทรัมป์ แม้จะยกเว้นภาษีสมาร์ตโฟน และสินค่าอิเล็กฯ จากจีนแต่ก็เพียงชั่วคราว นอกจากนี้ยังเตรียมใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ายาและเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่ประเด็นในประเทศ วันนี้และพรุ่งนี้ ก.คลัง จะหารือกับ ธปท. รับมือมาตรการภาษี ประเมินแนวรับที่ 1,115-1,110 จุด แนวต้านที่ 1,140-1,145 จุด


ประเด็นสำคัญ


• เมื่อวันศุกร์ (11 เม.ย.) ปธน. ทรัมป์ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนบางประเภท (สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์) อย่างไรก็ดี การยกเว้นจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยสินค้าเหล่านี้อาจเผชิญกับภาษีแยกต่างหากในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

• วันนี้จับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

• จีนสั่งการให้สายการบินต่าง ๆ ในประเทศ งดรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง (Boeing) ล็อตใหม่ เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ประกาศตั้งกำแพงภาษี 145% กับสินค้าจากจีน พร้อมขอให้สายการบินจีนระงับการจัดซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนอากาศยานจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน

• IEA เผยรายงานประจำเดือนฉบับล่าสุดว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 730,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดลงอย่างมากจากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนก่อนที่ 1.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากผลกระทบมาตรการกำแพงภาษีของปธน. ทรัมป์

• โอเปกปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ลง 150,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน สาเหตุหลักของการปรับลดมาจากข้อมูลเศรษฐกิจ 1Q68 และมาตรการเก็บภาษีของสหรัฐ

• รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเผยสัปดาห์ที่ผ่านมา (7-13 เม.ย.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 666,180 คน เพิ่มขึ้น 10.73%WoW จากมาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่ยอดสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-13 เม.ย. 68 รวม 10,738,424 คน เพิ่มขึ้นเพียง 0.94%YoY


กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าสหรัฐ รวมทั้งยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐ หลังรัฐบาลไทยเตรียมบินเจรจากับสหรัฐในวันที่ 19-25 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ (17 เม.ย.) มองท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดได้ในระดับนึง โดยหากมีการผ่อนคลายทางการเงินน่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”


Daily top picks

MTC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการปรับตัวลงของ Bond Yield อีกทั้งยังเป็นหุ้น Undervalued โดยปี 2568 คาดกำไรเติบโต 17%YoY ขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 14.6 เท่า คิดเป็น -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีตของบริษัท และน่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX จากมี SETESG rating ระดับ AAA 


BJC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเป็นหุ้น Domestic Play ซึ่งมีรายได้ภายในประเทศเป็นหลัก ทำให้สามารถต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดี และยังได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย โดย 1Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขาย PER 68F ระดับ 16.7 เท่า (-2SD)  

You can share this post!