news-details
Business

กรอบบนยังจำกัด แนวรับ 1,128/1,120 

InnovestX คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย มาตรการกำแพงภาษี อาจกระทบเศรษฐกิจสหรัฐอย่างหนัก มองแนวรับที่ 1,128-1,120 จุด แนวต้านที่ 1,148-1,155 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(17 เม.ย.) คาด SET แกว่ง sideways โดยแม้ยังมี momentum เชิงบวกหนุน แต่มอง upside ยังจำกัด จากความกังวล Fed ต่อแนวโน้มเงินเฟ้อและการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐอาจทำให้ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย รวมทั้ง Nvidia ถูกจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ประเมินแนวรับที่ 1,128-1,120 จุด แนวต้านที่ 1,148-1,155 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ประธานเฟดเตือนมาตรการกำแพงภาษีของปธน.ทรัมป์ อาจกระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก จนเฟดตกที่นั่งลำบากที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ทั้งนี้เฟดจะรอความชัดเจนของนโยบายทรัมป์ก่อนตัดสินใจนโยบายการเงิน

• ปธน. ทรัมป์ สั่งสอบสวนการนำเข้าแร่สำคัญเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่อาจนำไปสู่การขึ้นภาษีศุลกากร

• จีนเผย GDP 1Q68 เติบโต 5.4%YoY สูงกว่าตลาดคาด ขณะที่ยอดส่งออก มี.ค. ปรับขึ้น 12.4%YoY แข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 67 จากภาคธุรกิจจีนเร่งส่งออกสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงสหรัฐเก็บภาษีศุลกากร

• Scope สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของยุโรปเตือนว่า สหรัฐอาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ หากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อบั่นทอนความเชื่อมั่นระยะยาวในค่าเงินดอลลาร์หรือหากใช้มาตรการที่รุนแรงยิ่งขึ้น

• ผู้ว่า BOJ ส่งสัญญาณอาจต้องปรับนโยบายการเงินหากมาตรการภาษีนำเข้าของปธน. ทรัมป์ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 515,000 บาร์เรล สูงกว่าตลาดคาด ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าตลาดคาด

• รมว.คลังหารือผู้ว่าธปท. รับมือภาษีทรัมป์ เห็นตรงกันยังไม่สามารถหามาตรการที่เป็นข้อสรุป แต่เตรียมพร้อมเรื่องสภาพคล่องที่อาจกระทบตลาดทุนและผู้ส่งออก พร้อมออกมาตรการและหารือกับ ธปท. ใกล้ชิด

• รมว.คลัง เผยจากการหารือกับ PTT เบื้องต้นถึงแผนนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 1 ล้านตันเศษภายในระยะเวลา 5 ปี มูลค่าราว 600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นส่วนที่ใกล้จะหมดสัญญาซื้อขายจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้ไทยจะพิจารณานำเข้าจากสหรัฐฯ แทน

กลยุทธ์การลงทุน 

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าสหรัฐ รวมทั้งยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐ หลังรัฐบาลไทยเตรียมบินเจรจากับสหรัฐในวันที่ 19-25 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ (17 เม.ย.) มองท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดได้ในระดับนึง โดยหากมีการผ่อนคลายทางการเงินน่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily top picks


ADVANC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากความเป็นหุ้น Defensive ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าน้อย เนื่องจากรายได้ทั้งหมดอ้างอิงในประเทศ คาดกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย 1Q68 คาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง YoY (จากการปรับ package มือถือแบบเติมเงิน) และ QoQ (จากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง) หนุนให้ปี 2568 คาดมีกำไร 38.5 พันลบ. เติบโต 10.5%YoY อีกทั้งมองมีโอกาสเพิ่มกำไรจากการประมูลใบอนุญาตที่กำลังจะมาถึงเป็น upside ต่อราคาเป้าหมาย 


MTC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการปรับตัวลงของ Bond Yield อีกทั้งยังเป็นหุ้น Undervalued โดยปี 2568 คาดกำไรเติบโต 17%YoY ขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 14.6 เท่า คิดเป็น -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีตของบริษัท และน่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX จากมี SETESG ratings ระดับ AAA 

 

 

 

You can share this post!