news-details
Business

FPT สวนกระแส ศก.ซบ ครึ่งปีแรกกวาดรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท เผยธุรกิจที่อยู่อาศัยเดินหน้าตามแผนแม้ตลาดไม่สดใส โฟกัสบ้าน-ทาวน์โฮมระดับบน ด้านโรงงาน-คลังสินค้ามาแรง อัตราเช่าเพิ่มทะลุ 90% ออฟฟิศ-รีเทลโตแกร่งต่อเนื่อง

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯเผยครึ่งปีแรกปีงบการเงิน 2568 (ต.ค.2567 - มี.ค. 2568) รายได้แตะ 6,298 ล้านบาท กำไรสุทธิ 550 ล้านบาท ธุรกิจที่อยู่อาศัยจ่อเปิด 4 โครงการใหม่ระดับบน พื้นที่กทม.-ต่างจังหวัด โรงงาน-คลังสินค้าดีมานด์ทะลัก ส่งผลอัตราการเช่าทำ All-Time High ด้านอาคารสำนักงานอาจได้รับอานิสงส์ผู้เช่าให้ความสนใจออฟฟิศเกรดเอคุณภาพสูงในพื้นที่ CBD เพิ่มขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหว


นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568) ถึงแม้บริษัทฯ จะเผชิญหน้ากับความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว เป็นต้น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอซึ่งมีทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้จากการขายและรายได้ประจำ พร้อมด้วยการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ดี
ในรอบ 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้ 6,298 ล้านบาท ลดลง 4.4% และมีกำไรสุทธิ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.9% ขณะที่ผลประกอบการของไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2568 (มกราคม – มีนาคม2568) บริษัทฯ มีรายได้ 3,030 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,754 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและบริการ 836 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 440 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท 
 
-กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เปิดตัว 2 โครงการใหม่รวมมูลค่า 3,450 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม “โคลส รามอินทรา – แฟชั่น”และบ้านระดับลักชัวรีโครงการ “แกรมเมอร์ สาทร” โดยบริษัทฯ ได้แสดงความโดดเด่นในการเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์จากโครงการ“เดอะ แกรนด์ ริเวอร์ฟร้อนท์ ราชพฤกษ์ - พระราม 5” ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED ระดับ Gold ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบการเงิน 2568 (เมษายน – กันยายน 2568) บริษัทฯ เตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และขอนแก่น รวมมูลค่ากว่า 6,300 ล้านบาท ซึ่งสอดรับกับกำลังซื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการลดค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์และค่าจดจำนอง
 
-กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่ย้ายฐานการผลิตมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ผลักดันอัตราการเช่าเฉลี่ยในและต่างประเทศทำAll-Time High ที่ 90% โดยไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2568 (มกราคม – มีนาคม 2568) บริษัทฯ ได้ปิดดีลและเดินหน้าก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของวัตสัน ประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)รองรับการส่งสินค้าไปยังร้านค้าในเครือกว่า 750 สาขาทั่วประเทศ โครงการอยู่ในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (บางพลี 4) จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงได้ส่งมอบศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่ 89,000 ตร.ม. ของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และอาคารคลังสินค้า พื้นที่กว่า 30,000 ตร.ม. ในบินห์เยือง อินดัสเทรียล พาร์ค ประเทศเวียดนาม ให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอีกด้วย

-กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทลสามารถรักษาอัตราการเช่าได้สูงถึง 91% โดยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาและส่งผลมายังประเทศไทยเมื่อปลายเดือนมีนาคม2568 ที่ผ่านมา ทุกอาคารที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบในด้านโครงสร้าง เพราะถูกออกแบบมาให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ผู้เช่าพิจารณาถึงการย้ายมายังอาคารสำนักงานเกรดเอที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะมีมาตรฐานการก่อสร้างและการดูแลรักษาความปลอดภัยในระดับสูง ส่งผลให้อาคารสำนักงานเกรดเอในพื้นที่ CBD เป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจมากกว่าเดิม

You can share this post!