news-details
Business

FPT เผยตลาดโรงงาน-คลังสินค้าให้เช่ายังขยายตัวต่อเนื่อง แม้เผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” พร้อมเปิด 3 กลยุทธ์ดันธุรกิจโตแกร่ง เล็งขายทรัพย์ของ FTREIT มูลค่า 1,000 ล้านบาท และหั่นที่ดินขายอีก 500 ล้านบาทให้ผู้ประกอบการ

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย มองตลาดโรงงาน-คลังสินค้าให้เช่ายังขยายตัวต่อเนื่อง แม้เผชิญความไม่แน่นอนจากภาษีการค้าระหว่างประเทศที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เตรียมแผนสร้างธุรกิจเติบโตมั่นคงผ่าน Sustaining Value Creating Value Unlocking Value ชูจุดแข็งมีสินค้าและบริการครบครันในไทย-อินโด-เวียดนาม ตั้งเป้าปั๊มรายได้โตทะยานกว่า 4,000 ล้านบาท

 

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า ถึงแม้บริษัทฯ จะเจอความท้าทายจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องภาษีการค้าระหว่างประเทศที่กระทบภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์โดยตรง แต่เชื่อมั่นว่าภูมิภาคอาเซียนยังเป็นจุดหมายที่น่าสนใจของนักลงทุน ด้วยปัจจัยความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ และความพร้อมด้านแรงงานที่สนับสนุนภาคการผลิตและการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นประโยชน์จากการย้ายการลงทุนเข้ามาในภูมิภาคนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างยืดหยุ่นและรอบคอบ ตั้งเป้าปีงบการเงิน 2568 (ต.ค.2567-ก.ย.2568) สามารถสร้างรายได้กว่า 4,000 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมที่ 3,447 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 30% ของรายได้รวมใน FPT ขณะเดียวกันกำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในปีบัญชีนี้ จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำได้ในระดับกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งส่วนที่จะหนุนให้งบรวมของ FPT เติบโตได้ตามเป้าหมาย

โดยในปีบัญชี 2568 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมวางเป้าหมายจะส่งมอบพื้นที่ให้เช่าใหม่ 150,000 ตารางเมตร ซึ่งล่าสุดกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมมีมูลค่างานในมือที่จะทยอยส่งมอบในปีนี้แล้วประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมยังมีการเจรจารับงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง หลังยังคงเห็นความต้องการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารจัดการกว่า 3.77 ล้านตารางเมตรอยู่ในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมีแลนด์แบงก์พร้อมในการพัฒนาสินค้าที่หลากหลาย รองรับดีมานด์ทุกรูปแบบของลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นและ ข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด ไม่ว่าลูกค้าจะย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย หรือต้องการขยายการลงทุนต่อเนื่องไปยังอินโดนีเซียหรือเวียดนาม บริษัทฯ พร้อมเป็นกองหนุนที่ร่วมผลักดันการเติบโตทางธุรกิจไปในทุกสเต็ปของลูกค้า” นายพีระพัฒน์ กล่าว

สำหรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “เติบโตอย่างมั่นคงด้วยกลยุทธ์การเน้นคุณค่า ท่ามกลางโลกที่ท้าทาย (Strengthening Growth Through a Value-Focused Strategy in a Challenging Global Landscape) ประกอบด้วย

1.บริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งให้ยั่งยืน (Sustaining Value) บริษัทฯ มีการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงภายใต้ภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลาย โดยบริษัทฯ มีกลยุทธ์การให้เช่าและบริการที่ยืดหยุ่น ทั้งรูปแบบสัญญาเช่าระยะสั้น-ระยะยาวที่ปรับได้ตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด รวมถึงปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์อาคารให้สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบคลังสินค้าและอาคารโรงงาน เพื่อดึงดีมานด์และเพิ่มอัตราการเช่า สอดรับกับสถานการณ์ตลาดที่ดีมานด์โรงงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจากการให้บริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การให้คำปรึกษาถึงบริการหลังการขาย ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าในปีที่ผ่านมาสูงถึง 91%

2.สร้างคุณค่าพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง ด้วยอาคารที่พัฒนาภายใต้มาตรฐาน Frasers Property (Creating Value) บริษัทฯ มีโซลูชันการให้บริการที่รองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ครอบคลุมการจัดหาที่ดินจนถึงการก่อสร้างอาคารอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล ทั้งโรงงานและคลังสินค้าแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) หลากหลายขนาด แบบสร้างความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) แบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function) ตลอดจนการร่วมทุนในการพัฒนาโครงการ ARAYA – The Eastern Gateway ที่พัฒนาเป็นระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ขณะเดียวกัน ยังมุ่งเน้นพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าตามมาตรฐานอาคารเขียว ทั้งอาคารที่พัฒนาขึ้นใหม่และยกระดับอาคารเดิมให้เป็นไปตามมาตรฐาน LEED, EDGE, TREES สอดรับกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ที่ 100% ของอาคารสร้างใหม่ต้องได้รับมาตรฐานอาคารเขียว และ 85% ของสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการต้องได้รับการรับรอง หรืออยู่ระหว่างขอการรับรองมาตรฐานอาคารเขียวภายในปี 2573 รวมถึงมีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและร่วมดูแลชุมชนที่อยู่โดยรอบธุรกิจอีกด้วย

3.ปลดล็อกศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอผ่านการบริหารจัดการทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ (Unlocking Value) บริษัทฯ มุ่งมั่นปลดล็อกคุณค่าพอร์ตโฟลิโอผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการทรัพย์สินในหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับธุรกิจ ทั้งการขายทรัพย์สินที่พัฒนาแล้วให้กับกองทรัสต์ FTREIT ซึ่งเป็นแนวทางที่ร่วมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปด้วยกัน รวมถึงมีการบริหารที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการขายที่ดินที่ไม่ใช่พื้นที่ยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ใช้งานอย่างการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานและคลังสินค้า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินหน้าขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Joint Venture

นอกจากนั้น บริษัทฯ ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและลงทุนด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสิร์ฟโซลูชันใหม่ให้กับลูกค้า และปลดล็อกคุณค่าของทรัพย์สินภายใต้การบริหาร โดยใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพการทำงานและการให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น การติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบการใช้พลังงาน หรือแอปพลิเคชัน FTX ที่ให้การติดต่อด้านงานซ่อมบำรุงระหว่างผู้เช่าและบริษัทเป็นไปอย่างรวดเร็วและไร้รอยต่อ พร้อมทั้งยกระดับการบริหารโลจิสติกส์พาร์คของบริษัทตามแนวคิด Smart & Sustainable Logistics Park

“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยนับเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของอาเซียน เพราะเรามีความครบครันและครบวงจรทั้งสินค้าและบริการที่อยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม เชื่อมั่นว่าสามารถตอบโจทย์ทุกดีมานด์ของนักลงทุนได้อย่างครอบคลุม เป็นจุดแข็งที่ดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมตามกลยุทธ์ - Secure Core, Embrace Future ของบริษัท ซึ่งจะสนับสนุนการสร้างการเติบโตของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยได้ในระยะยาว” นายพีระพัฒน์ กล่าว

นายพีระพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังมีแผนขายสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานเข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนในเดือนสิงหาคม 2568 นี้ และมีแผนขายที่ดินอีก 500 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจอีกด้วย

สำหรับในปีนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และลงทุนในต่างประเทศ (อินโดนีเซีย-เวียดนาม) ประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับใช้ก่อสร้างเพิ่มพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็น 378,000 ตารางเมตร พร้อมตั้งเป้าอัตราเช่าพื้นที่เกิน 90% ซึ่งปัจจุบันอัตราเช่าในประเทศไทย อยู่ที่สัดส่วน 87%, เวียดนาม 80-90% และอินโดนีเซีย 100%

 

###

เกี่ยวกับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีชื่อย่อหลักทรัพย์ “FPT” ปัจจุบันเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทยที่มีแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุม 3 ประเภท ได้แก่ 1) ที่อยู่อาศัย มีโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูง ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมในหลายทำเลและในทุกระดับ 2) อุตสาหกรรม ให้บริการโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าเพื่อเช่า โดยอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ทั่วประเทศไทย รวมถึงในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม 3) พาณิชยกรรม ประกอบด้วยอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ พื้นที่รีเทล และโรงแรม โดยตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ นอกจากนี้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT  อีกทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรม ทั้งนี้ FPT, FTREIT และ GVREIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.co.th

 

เกี่ยวกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด 

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” หรือ “กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้”) เป็นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ (SGX-ST) ซึ่งมีแนวทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทแบบครบวงจร โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 38,900 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568)  สินทรัพย์ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ 5 ประเภทประกอบด้วย พื้นที่เชิงพาณิชยกรรมและบิสซิเนสพาร์ค โรงแรม อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและศูนย์การค้า กลุ่มธุรกิจดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของ และ/หรือเป็นผู้บริหารจัดการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์และโรงแรมใน  20 ประเทศ ทั่วทั้งในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า และน่าจดจำให้แก่ลูกค้า และผู้ถือหุ้น โดยอาศัยความรู้ และความสามารถจากทุกตลาดและภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งมอบคุณค่าในสินทรัพย์ที่หลากหลายที่มีอยู่ ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.com หรือติดตามบริษัทฯ ได้ที่ LinkedIn 

 

You can share this post!