Innovestx คาดหุ้นไทยแกว่งตัวในทิศทางลง มองแนวรับสำคัญ 1,185-1,180 ติดตามการประชุมบอร์ดนโยบาย ศก.
บล.อินโนเวทส์ เอกซ์ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(19พ.ค.) คาด SET แกว่งลง แต่มีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ หลังลงมาใกล้แนวรับสำคัญ 1,185/1,180 อย่างไรก็ดี หากหลุดต่ำกว่ามีโอกาสปรับลงได้ต่อเนื่อง และคาดว่าการฟื้นตัวของตลาดยังจำกัดอยู่ที่แนวต้าน 1,205/1,215 เช่นเดียวกับวันก่อน ระยะสั้นเย็นวันนี้ติดตามการประชุมบอร์ดนโยบาย ศก. เพื่อรักษาการเติบโต GDP ไม่น้อยกว่า 2% ส่วนระยะกลางมีความเสี่ยงเพิ่ม หลังจากสหรัฐฯ จะประกาศภาษีนำเข้าใหม่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เจรจาทวิภาคีในอีก 2–3 สัปดาห์
ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์เตรียมให้สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรเองแบบรายประเทศฝ่ายเดียว โดยไม่เจรจาแบบทวิภาคี เนื่องจากมีกว่า 150 ประเทศ พร้อมส่งหนังสือแจ้งคู่ค้าเพื่อบังคับใช้ในอีก 2–3 สัปดาห์
• วันนี้ปัจจัยในประเทศติดตาม GDP 1Q68 และการประชุมบอร์ดนโยบาย ศก. ใช้งบกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.5 แสนลบ. รวมถึงอาจพิจารณายกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 และมีมาตรการอื่น เพื่อรักษาเป้าการเติบโต GDP ไม่ต่ำกว่า 2%
• รมว.คลังกล่าวในงาน Thailand’s Capital Market Forum ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยเปราะบาง กดดันหุ้นลงต่อเนื่อง รัฐเร่งดึง FDI–เปิดทาง IPO ต่างชาติ หวังฟื้นเชื่อมั่นหนุน SET
• Moody’s ปรับลดเครดิตสหรัฐฯ เหลือ Aa1 จาก Aaa จาก หนี้-ขาดดุล ความเสี่ยงการคลังสูง เป็นความเสี่ยงกดดันต้นทุนทางการเงินของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและดอลลาร์อ่อนค่า
• จีน–EU ระงับนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิลชั่วคราวหลังพบไข้หวัดนก HPAI โดยจีนสั่งแบน 60 วัน ประเทศอื่นจำกัดเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มีโอกาสหนุนหุ้นส่งออกไก่ของไทย CPF GFPT
• กระทรวงคลังสหรัฐฯ รายงานจีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลงมาอยู่อันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร
• ติดตามประธานเฟดสาขาหลายท่านจะกล่าวสุนทรพจน์คืนนี้
• กรมธุรกิจพลังงานรายงานการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไทย 3M68 เพิ่ม 1.3%YoY จากดีมานด์น้ำมันเครื่องบิน +15.1% แต่เบนซิน–ดีเซลหดเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวรอหาปัจจัยหนุนใหม่และความคืบหน้าการเจรจากการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังดัชนีได้ปรับตัวขึ้นไปตอบรับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง จนทำให้ SET ปรับขึ้นมายืนเหนือ 1,200 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า 3% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคก่อนเกิดเหตุการณ์ ปธน. ทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศคู่ค้าแล้ว อย่างไรก็ดีหากดัชนีปรับลงหรือพักตัวลงมาที่ระดับ 1,155/1,120-1,100 มองจะเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว หลังประเมินว่าสถานการณ์สงครามการค้าโลกที่เลวร้ายสุดได้ผ่านไปแล้วในแง่ของระดับภาษีที่สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการประกาศข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
daily top picks
CPF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากจีน–EU ระงับนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิล หนุนส่งออกไก่ไทยดีขึ้น ขณะที่แนวโน้ม 2Q68 คาดยังได้ประโยชน์จากราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวดีขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงการจะมีกำไรส่วนเพิ่มจากการถือหุ้นเพิ่ม 24% ใน CPP HK ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกินหุ้นละ 27.00 บาท
TRUE: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากมี Downside จำกัด จากสหรัฐฯ ถูกลดอันดับเครดิต และภาษีการค้าสหรัฐฯ ขณะที่โมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่ง โดย 1Q68 เป็นไตรมาสแรกที่รายงานกำไรสุทธิเป็นบวกครั้งแรก และ 2Q68 กำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมี Upside จากประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ