สหฟาร์ม ยกทัพผลิตภัณฑ์ไก่สด ไก่แปรรูป และปลาดุกคุณภาพระดับโลก เข้าร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025: Beyond Food Experience อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตอกย้ำความพร้อมในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโต “2หลัก” (Double-digit growth) ในปี 2568 ท่ามกลางแนวโน้มตลาดโลกที่เอื้ออำนวยและศักยภาพการผลิตที่เข้มแข็ง
ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี และการเงิน บริษัท สหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการค้าโลกในปีนี้เปิดโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเมื่อหนึ่งในผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลกอย่างบราซิลประสบปัญหาการส่งออก ส่งผลให้ความต้องการสินค้า “ไก่ไทย” เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสหฟาร์มนั้นมีกำลังการผลิตส่งออกได้เพียง 1 ล้านตัวเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น เมื่อเทียบกับบราซิล
“สหฟาร์มสามารถปิดออเดอร์ได้รวดเร็วขึ้น รายได้เติบโตชัดเจน พร้อมเดินหน้าขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากถึง 60% ขณะที่เรายังไม่มีความเสี่ยงจากภาษีส่งออก แต่ก็เฝ้าระวังอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน” ดร.จารุวรรณ กล่าว
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญในปีนี้ คือการเปิดตัวแคมเปญใหม่ “Halal With Heart – ฮาลาลด้วยหัวใจในงานงาน “THAIFEX – ANUGA ASIA 2025: Beyond Food Experience” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 ณ บูธ 2-U29 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี พร้อมต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโต “2หลัก” (Double-digit growth) ในปี 2568 ท่ามกลางแนวโน้มตลาดโลกที่เอื้ออำนวยและศักยภาพการผลิตที่เข้มแข็ง จากปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศได้กว่า 30,000 ล้านบาท
ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจหลังสหฟาร์มคว้ารางวัล Prime Minister’s Export Award 2024 สาขา Best Halal โดยแคมเปญนี้เน้นย้ำว่า “ฮาลาล” ของสหฟาร์มไม่ใช่เพียงการผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่คือระบบการผลิตที่ยึดหลักศรัทธา ความเข้าใจ และความรับผิดชอบ โดยมีทีมงานชาวมุสลิมดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด
“เราต้องการให้ทุกคำที่บริโภคคือความมั่นใจ ทั้งในด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และความเคารพในหลักศาสนา ซึ่งในปีนี้ จะมีการขยายตลาดในประเทศไทยให้มากขึ้น ” ดร.จารุวรรณ กล่าว
ภายในงาน THAIFEX ปีนี้ สหฟาร์มยังเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนผ่านการเปิดตัวโครงการ GO Green ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยตลอดปีที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับ WHA Group ดำเนินโครงการพลังงานสะอาด รวม 10 โครงการ ได้แก่ โซลาร์ฟาร์ม, โซลาร์รูฟ และโซลาร์โฟลทติ้ง และอีก 4 โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการ
“เมื่อโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ คาดว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้สูงถึง 30,000 ตันต่อปี และเรายังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางเปลี่ยนการใช้ถ่านหินในโรงงาน มาใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) เพื่อการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวและการเข้าร่วมงาน THAIFEX ปีนี้ นับเป็นครั้งที่สองหลังจากสหฟาร์มออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยการปรากฏตัวเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม มีผู้เข้าชมบูธจำนวนมาก และเกิดการเจรจาทางธุรกิจจริงกับพันธมิตรจากหลากหลายประเทศ “ปีนี้เราจะต่อยอดความสำเร็จ สานสัมพันธ์พันธมิตรเดิม ขยายเครือข่ายใหม่ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพของไทยสู่สายตาโลก” ดร.จารุวรรณ กล่าวในที่สุด