โคนิก้า มินอลต้าฯเผยภาพรวมตลาดธุรกิจแท่นพิมพ์แข่งดุ คู่แข่งแห่เปิดรุ่นใหม่ต่อเนื่องในเรื่องเทคโนโลยี มั่นใจยังเป็นเบอร์ 1 ในรุ่น Light Production ประกาศเปิดตัว “AccurioPress C84hc” แท่นพิมพ์ดิจิทัลเทคโนโลยีหมึกพิมพ์ High Chroma ที่สามารถรังสรรค์งานพิมพ์สี CMYK ให้มีสีสันสว่างสดใสมากกว่าเดิม พร้อมกางแผนพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำด้วย AI ตอบโจทย์ธุรกิจผลิตสิ่งพิมพ์ ยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั่วไทยและเอเชีย ตั้งเป้าครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ต่อเนื่อง
นางสาวสุธิดา แจ่มฤกษ์แจ้ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและไอที บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสสิเนส โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจแท่นพิมพ์นับวันยิ่งมีการแข่งขันที่สูงอย่างต่อเนื่อง กลุ่มคู่แข่งขันที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันต่างทยอยเปิดตัวแท่นพิมพ์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นภาพชัดเจนมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในเรื่องเทคโนโลยี โดยในแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมาจะเป็นการแก้ไขจุดเล็กๆน้อยๆ เช่นเดียวกับการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ แต่บริษัทฯก็ยังมีความมั่นใจว่ายังเป็นที่ 1 ในรุ่น Light Production
สำหรับในส่วนของบริษัทฯนั้น หลังจากแท่นพิมพ์ดิจิทัลตระกูล High Chroma แท่นพิมพ์สี CMYK แบบพิเศษ (ที่จะมีอักษร hc ต่อท้าย) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ โคนิก้า มินอลต้า ที่สามารถรังสรรค์งานพิมพ์ให้มีคุณภาพสีที่สดใสและจัดจ้าน หรือ Vivid CMYK กว่าชิ้นงานที่พิมพ์ผ่านแท่นพิมพ์สี CMYK ทั่วไป โดยได้เปิดตัวครั้งแรกในไทยในปี 2552 (2009) ภายใต้ชื่อ bizhub Pro C65hc ก็ได้กลายเป็นสินค้าเรือธงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ โคนิก้า มินอลต้า การันตีด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง ประเภทแท่นพิมพ์ดิจิทัลสีระดับเริ่มต้น-ระดับกลางในประเทศไทยและอาเซียน ครอบคลุมตลาด 6 ประเทศในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงยอดขายของแท่นพิมพ์ดิจิทัลรุ่น AccurioPress C83hc ที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวในปี 2562 (2019) เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2561 (2018)
และในปี 2567 แท่นพิมพ์ดิจิทัล hc ได้ก้าวเข้าสู่เจนเนอเรชันที่ 5 กับการประกาศเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด “AccurioPress C84hc” โดยจุดเด่นของ AccurioPress C84hc ประกอบด้วย ระบบงานพิมพ์สีสันที่สดใส จัดจ้าน ตรงตามความคาดหวัง ฉีกกฎเดิม ๆ ของ CMYK ที่มีการปรับแต่งย่านสีฟ้าอ่อน สีเขียว สีชมพู สีม่วง และสีม่วงแดง ให้มีขอบเขตสีที่กว้างไกลกว่าขอบเขตสี CMYK ทั่วไป เพื่อแก้ไขปัญหาสีของไฟล์ออกแบบหรือไฟล์รูปภาพไม่ตรงกับบนหน้าจอ จึงทำให้งานพิมพ์มีคุณภาพ สีสว่างสดใส และเจิดจ้ากว่าที่เคย AccurioPress C84hc ยังมาพร้อม ชุดคอนโทรลเลอร์อัจฉริยะ FIERY IC-317 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ทำให้เสมือนมีสมองกลอัจฉริยะแยกส่วนออกมาเพื่อช่วยในการประมวลผลการทำงาน และปรับแต่งเรื่องคุณภาพงานพิมพ์โดยเฉพาะ ช่วยลดเวลาการทำงานได้หลายเท่าตัว แต่งานพิมพ์ที่ได้รับยังคงมีคุณภาพสูง ยกตัวอย่างเช่น สีผิวที่ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ การไล่ระดับความเข้มของสีที่ใกล้เคียงกับไฟล์ที่มองเห็นบนหน้าจอ หรือเฉดสีเทาที่ดูมีมิติกว่าที่เคย โดยราคาขายอยู่ที่เครื่องละ 1.8-2 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังสามารถควบคุมคุณภาพสีและตรวจสอบคุณภาพงานพิมพ์อัตโนมัติ ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้ทำงานง่าย ลดเวลา และเพิ่มผลผลิตให้มากที่สุด ด้วยระบบ Intelligent Quality Optimizer หรือ IQ-501 ปรับแต่งค่าสีและตำแหน่งพิมพ์ระหว่างการพิมพ์แบบอัตโนมัติ สีตรง คุณภาพมาตรฐาน ตั้งแต่แผ่นแรกจนแผ่นสุดท้าย ชุดตรวจสอบคุณภาพงานพิมพ์อัตโนมัติยังสามารถตรวจสอบคุณภาพงานระหว่างการพิมพ์ และคัดแยกงานพิมพ์ที่ไม่ได้มาตรฐานออกอัตโนมัติ เช่น ชิ้นงานที่มีผงหมึกเปรอะเปื้อน หรือมีเส้นกราฟิกแปลกปลอม และช่วยพิมพ์ชดเชยงานที่เสียให้ใหม่อีกด้วย
“AccurioPress C84hc นับเป็นสูตรสำเร็จครบ จบ ทุกความต้องการในแท่นพิมพ์เดียวที่ โคนิก้า มินอลต้า เตรียมไว้ให้ผู้ประกอบการพิมพ์หรือผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจผลิตสิ่งพิมพ์ได้ง่ายมากขึ้น ใคร ๆ ก็ทำได้ เริ่มได้ โดยไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ด้วยฟังก์ชันของตัวเครื่องที่ใช้งานง่าย สีสันที่จัดจ้าน บวกกับโซลูชันที่มาซัพพอร์ต ไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านสิ่งพิมพ์ ก็สามารถควบคุมเครื่อง ผลิตงานพิมพ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าของเราเชื่อมั่น และไว้วางใจในการเลือกลงทุนแท่นพิมพ์ตระกูล High Chroma อันส่งผลให้ยอดขายของรุ่นนี้พุ่งทะยานแบบก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั่นเอง”นางสาวสุธิดา กล่าว
ทั้งนี้ภายในงานเปิดตัว AccurioPress C84hc โคนิก้า มอลนิต้า ยังได้เผยถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการพิมพ์หันมาเลือกใช้แท่นพิมพ์ตระกูล High Chroma กันเพิ่มขึ้นนั้น มีผลมาจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สั่งซื้อสิ่งพิมพ์ โดยชี้ว่า ความนิยมแท่นพิมพ์รุ่น High Chroma ตีคู่ขนานมากับวิกฤตการแพร่ระบาดทั่วโลก ซึ่งเป็นช่วงที่งานพิมพ์ออนดีมานด์ได้รับความนิยมอย่างมาก อาทิ นามบัตร ฉลากสติกเกอร์ ป้ายห้อยสินค้า โบรชัวร์ ไปจนถึงแพกเกจจิ้ง ที่เจ้าของแบรนด์สินค้าต้องการสร้างความแตกต่างด้วยสีสันและการดีไซน์ และพิมพ์จำนวนน้อย หลาย ๆ แบบ ซึ่งการพิมพ์ด้วยระบบดิจิทัล High Chroma ได้เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัว เนื่องจากการผลิตที่รวดเร็ว ไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ ประกอบกับสีสันที่สดใสมากกว่าที่เคยมีมา
“ปัจจุบันสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญและถูกวางไว้ใน Position ที่เหมาะสม เช่น งานพิมพ์ออนดีมานด์ หรืองานที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะแต่ละลูกค้าที่มากขึ้น เช่น นามบัตรจำนวนน้อย หลากหลายสีสีนและดีไซน์ สะท้อนตัวตน หรือธุรกิจ หรือแพกเกจจิ้งสินค้าที่พยายามจะทำให้ดีไซน์หรือสีสันแตกต่าง ต้องการรูปสินค้าหรือรูปตัวอย่างงานพิมพ์ที่โดดเด่น น่าจดจำ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เราปิดการขายได้มากขึ้น โดยผู้ประกอบการมั่นใจที่จะลงทุนแท่นพิมพ์ High Chroma ที่ไม่เพียงรองรับออเดอร์แบบออนดีมานด์เท่านั้น แต่ยังช่วยทลายข้อจำกัดในการรับงานพิมพ์ดีไซน์สีสันสดใสอีกด้วย” นางสาวสุธิดา กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของแท่นพิมพ์ตระกูล High Chroma ของ โคนิก้า มินอลต้า ปัจจุบันมีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการพิมพ์ และ กลุ่มธุรกิจโรงงาน OEM ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่หันมาเลือกลงทุนแท่นพิมพ์ดิจิทัลเพื่อผลิตฉลากเองภายในโรงงาน เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนได้ค่อนข้างแน่นอน ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย โดยมีเจ้าหน้าที่ของ โคนิก้า มินอลต้า คอยให้คำปรึกษาตั้งแต่การคำนวณ ROI เพื่อเปรียบเทียบระหว่างค่าใช้จ่ายในการสั่งพิมพ์ฉลากแบบเดิมกับการลงทุนแท่นพิมพ์ดิจิตอลเพื่อผลิตฉลากภายในองค์กร แก้ไขปัญหา และอบรมด้านการใช้งานในทุกขั้นตอน ทำให้การตั้งค่าและการทำงานหน้าเครื่องเป็นเรื่องง่าย แม้ไม่เคยใช้งานมาก่อนเลยก็ตาม
สำหรับทิศทางการตลาดในปีนี้ โคนิก้า มินอลต้า ตั้งเป้าจะรักษาแชมป์อันดับ 1 ส่วนแบ่งการตลาดของเซกเมนต์ แท่นพิมพ์ดิจิตอลระดับเริ่มต้น (LPP) ไว้ให้ได้ทุกปี โดยใช้ AccurioPress C84hc สร้างความโดดเด่นในตลาด เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ถึงรอบเปลี่ยนเครื่อง รวมถึงการขยายตลาดสู่ลูกค้าใหม่ และการเจาะเข้ากลุ่มลูกค้าองค์กรให้หันมาผลิตสิ่งพิมพ์แบบ In-house แทนที่จะจ้างผลิตจากภายนอก นอกจากนั้น ยังวางแผนที่จะขยับขึ้นไปเน้นกลุ่มแท่นพิมพ์ดิจิตอลระดับกลาง (MPP) และ แท่นพิมพ์ดิจิตอลกำลังผลิตสูง(HPP) มากขึ้น ด้วยการชูจุดแข็งการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง สร้างความแตกต่างที่ยังไม่มีผู้เล่นหลักในตลาด รวมถึงการสร้างเครือข่าย Ecosystem ให้สามารถส่งงานหลังพิมพ์ไปยังลูกค้าที่ลงทุนแท่นพิมพ์กับ โคนิก้า มินอลต้า ได้
“การเลือกใช้งานแท่นพิมพ์ โคนิก้า มินอลต้า ให้มากกว่าการลงทุน มากกว่าแค่การเป็นคู่ค้า แต่เรามุ่งหมายที่จะสนับสนุนและเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าของเรา ผ่านแคมเปญพิเศษต่าง ๆ ที่ช่วยพัฒนาและต่อยอดธุรกิจ เช่น Konica Minolta Print Partner (KMPP) ลอยัลตี้แคมเปญ ที่มุ่งเน้นการให้มากกว่าการได้รับ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการพิมพ์ที่เลือกลงทุนในแท่นพิมพ์ดิจิทัล โคนิก้า มินอลต้า ตามรุ่นที่กำหนด ทุกการพิมพ์สี ทุกยอดพิมพ์ที่เติบโตขึ้นในทุกๆ เดือน ทุกการลงทุนแท่นพิมพ์ใหม่ จะได้รับแต้มสะสมพิเศษ ที่สามารถนำมาใช้แลกรับของรางวัลได้มากมาย เช่น คอร์สอบรมความรู้ต่าง ๆ กระดาษสติกเกอร์สำหรับแท่นพิมพ์ดิจิทัล เครื่องสนับสนุนการทำงานหลังพิมพ์ หรือแม้แต่แกดเจ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด อีกทั้งเรายังมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอีกด้วย รวมถึงการเพิ่มช่องทางในการแสวงหาลูกค้าผู้ซื้อสิ่งพิมพ์กลุ่มใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้สมาชิกแคมเปญมีออเดอร์หล่อเลี้ยง และมีช่องทางในการทำการตลาดอยู่เสมอ” นางสาวสุธิดา กล่าวในที่สุด
บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสสิเนส โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งบริษัทในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2557 ภายใต้แบรนด์ Konica Minolta ปัจจุบันมีจำนวน 15 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย จำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน แท่นพิมพ์ดิจิตอลเพื่อผู้ประกอบการพิมพ์ แท่นพิมพ์ดิจิตอลระดับอุตสาหกรรม และโซลูชันด้าน IT ครบวงจร รวมถึงกลุ่มสินค้าที่โฟกัสในข่าว หรือแท่นพิมพ์ดิจิตอลสำหรับผู้ประกอบการพิมพ์ โดย โคนิก้า มินอลต้า นับเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดแท่นพิมพ์ดิจิตอลสีที่มีผู้ประกอบการพิมพ์ในไทยไว้วางใจและเลือกใช้งานมากมาย ด้วยชื่อเสียงของแท่นพิมพ์ที่มีคุณภาพและความเสถียรสูง ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ผลิตงานได้ต่อเนื่องยาวนาน ภายใต้คุณภาพงานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ถูกต้อง และได้มาตรฐานทุกชิ้นงาน พร้อมการดูแลอย่างดีโดยทีมซัพพอร์ต และทีมช่างที่คอยให้บริการ ให้คำปรึกษา และช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด