news-details
Business

VGI โชว์กำไร 501 ล้านบาท พุ่ง 114.4 %

บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (VGI) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชันส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567/68 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ และการขายอยู่ที่ 5,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายรายได้ใกล้เคียงกันกับปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในปีก่อน โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 114.4 % เทียบกับปีก่อน

ธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้อยู่ที่ 2,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีอัตราการใช้สื่ออยู่ที่ 52% เพิ่มขึ้นจาก 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้อยู่ที่ 1,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจาก RCash มีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ตามการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา RCard มีรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร และรายได้ จากการขายบัตรแรบบิทที่สูงขึ้น โดยมียอดบัตรแรบบิทที่เปิดใช้งานอยู่จำนวนทั้งสิ้น 19.6 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และ RCare มีรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนกรมธรรม์ ทั้งสิ้น 234,801 กรมธรรม์ เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ 72% และประกันภัยประเภทอื่น ๆ 28% แต่การเพิ่มขึ้นดังกล่าวถูกหักกลบด้วยรายได้ lead generation ที่ลดลง

ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้อยู่ที่ 1,158 ล้านบาท ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ของ Fanslink ลดลง จากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ลดสัดส่วนการขายสินค้าจากต่างประเทศลง และเน้นการพัฒนา และขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองมากขึ้น เพื่อเพิ่มอัตรากำไร อย่างไรก็ตามการลดลงของรายได้ดังกล่าว ถูกชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจค้าปลีกของ TURTLE

โดยยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales) ของร้าน Turtle เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์อยู่ที่ 64.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 58.2% ซึ่งในเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนร้าน Turtle ทั้งสิ้น 27 ร้าน เพิ่มขึ้นจาก 22 ร้าน ในเดือนมีนาคม 2567

สำหรับเหตุการณ์สำคัญในปี 2567/68 คือการที่บริษัทฯ ได้ออก และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่กลุ่มนักลงทุน 4 ราย โดยได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 13,208 ล้านบาท และได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) (“ROCTEC”) ทั้งหมดที่บริษัทฯ ถือ ให้กับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และได้รับชำระเงินจำนวน 2,191 ล้านบาท ซึ่งการทำธุรกรรมทั้งหมดนี้ได้ส่งผลให้ บริษัทฯ มีเงินทุนเพิ่มขึ้น 15,399 ล้านบาท และทำให้บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น

โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัทฯ มีเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด และสินทรัพย์ทางการเงินระยะสั้นอยู่ที่ 21,395 ล้านบาท คิดเป็น 53.9% ของทรัพย์สินรวม แสดงให้เห็นถึงความพร้อมสำหรับการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่เป้าหมายรายได้ปี 2568/69 อยู่ที่ 6,000 – 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สื่อโฆษณา 40% บริการดิจิทัล 35% ธุรกิจจัดจำหน่าย 25% และตั้งงบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 1.8% ลดลงจาก 2.5% ในปี 2567 โดยเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากหนี้ครัวเรือนสูงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ

ด้านภาพรวมงบโฆษณาอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากสื่อโฆษณานอกบ้านยังเติบโตตามการขยายตัวของเมือง และการใช้งบโฆษณาในประเทศยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาจ้างบริหารการขายสื่อโฆษณากับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PlanB) โดย PlanB จะเป็นผู้ดำเนินการขายและทำการตลาดสื่อโฆษณาของกลุ่ม VGI ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้กับ VGI จากการออกผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาใหม่ ๆ ที่มีเอกลักษณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบริหารต้นทุน ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการปรับตัวสู่ดิจิทัลโซลูชันเพื่อลดความเสี่ยง และด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทฯ จะเดินหน้าหาโอกาสลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจหลัก และที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถแข่งขัน และการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567/68 ในอัตรา 0.013 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ทั้งนี้ การจ่ายปันผลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 กรกฎาคม 2568

You can share this post!