“ไลอ้อน ประเทศไทย” หนุน “ผักโมโรเฮยะ” ราชาแห่งผัก ดันเป็นพืชอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น นำมาพัฒนาสารสกัดวัตถุดิบ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนไทย เล็งขยายพื้นที่การเพาะปลูกเพิ่ม รองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต
นายชูชีพ อภิรักษ์ ผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ไลอ้อน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับพฤติกรรมและช่วงวัยของผู้บริโภค โดยเล็งเห็นความสำคัญของพืชพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดตรีผลาจากสมอไทยและสมอเทศ สารสกัดมะไฟจีน และสารสกัดผักโมโรเฮยะ เป็นต้น โดยดึงประโยชน์จากพืชพื้นถิ่น นำมาพัฒนาสารสกัดจนนำไปสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนไทย ทั้งยังสร้างประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน สิ่งแวดล้อมและสังคม (Sustainable R&D Direction)
“ผักโมโรเฮยะ ถูกขนานนามว่า เป็นพระราชาแห่งผัก ด้วยคุณประโยชน์ที่โดดเด่น มีสารพรีไบโอติกสูง สามารถสกัดนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ไลอ้อนได้ อีกทั้งยังเป็นผักที่เพาะปลูกง่ายมีวงจรการเพาะปลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ไลอ้อน จึงส่งเสริมการเพาะปลูกผักโมโรเฮยะให้กับชุมชน เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับไลอ้อน โดยปัจจุบันมีแปลงสาธิตที่ภาคเหนือ จ.น่าน โดยร่วมมือกับศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ (ศนก.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในการส่งเสริมการปลูก รวมไปถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลในการวิเคราะห์ตรวจสอบเกี่ยวกับค่าของการลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเราพบว่านอกจากจะเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อีกด้วย” นายชูชีพ กล่าว
ด้วยคุณประโยชน์เด่นที่รอบด้านของ “ผักโมโรเฮยะ” ปัจจุบันไลอ้อนได้นำมาพัฒนาผ่านกระบวนการพิเศษในการสกัดจนได้มาซึ่งสารสกัดที่มีคุณภาพ โดยทำการวิจัยและทดสอบอย่างรอบด้าน ผ่านความร่วมมือกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์กรมหาชน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ศนส.) รวมทั้งผ่านมาตรฐานความปลอดภัย OECD จากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) จนได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ที่ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีและปกป้องจากจุลินทรีย์ที่ไม่ดี ได้แก่ ยาสีฟัน Salz King Herb ผลิตภัณฑ์ Shokubutsu Facial gel และ Shower gel ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค การันตีด้วยการคว้ารางวัลด้านนวัตกรรมระดับโลกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และรางวัลผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
นายวิเชียร โฆษิตวัฒน์ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ดูแลแปลงผักโมโรเฮยะ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เล่าถึงการดูแลแปลงผักโมโรเฮยะตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวว่า “ผักโมโรเฮยะเป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ชอบแสงแดด ศัตรูพืชน้อย เมื่อโตเต็มที่ 45 วัน สามารถตัดยอดได้เลย โดยใช้ประโยชน์จากใบสดและตากแห้งนำมาทำเป็นใบชา สำหรับการเก็บเกี่ยวหลังจากตัดประมาณ 30 เซนติเมตร จากยอดลงมา ส่วนที่ตัดจะนำไปแจกจ่ายชุมชนหรือพนักงานในบริษัท เพื่อนำไปประกอบอาหาร โดยสามารถทำอาหารได้หลายรูปแบบ และหลังจากที่ตัดผักโมโรเฮยะไปแล้ว 30 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย
นางรุ่งฤดี พรพัฒนไพโรจน์ ผู้ที่ได้บริโภค “ผักโมโรเฮยะ” กล่าวว่า การอยู่ในชุมชนรอบไลอ้อน ได้เห็นว่าทางไลอ้อนได้ปลูกผักโมโรเฮยะและมีการแจกจ่ายให้กับชุมชน จากที่ได้นำไปรับประทาน รู้สึกชอบ จึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า เป็นผักที่มีประโยชน์เรียกว่า “ราชาผัก” และมีวิตามินมาก ๆ ซึ่งเป็นผักที่สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ผักโมโรเฮยะผัดไข่ แกงส้มผักโมโรเฮยะ แม้กระทั่งลวกจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อย นอกจากการรับประทานผักแล้ว ยังมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ไลอ้อน Salz King Herb ที่มีส่วนผสมของผักโมโรเฮยะ รู้สึกประทับใจในคุณภาพ ลมหายใจสดชื่นและปากสะอาดมาก นอกจากนี้ยังได้ใช้โฟมล้างหน้า Shokubutsu ก็ประทับใจเช่นกัน จึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับผักโมโรเฮยะและอยากให้ทุกคนได้ทดลองใช้
นายเทวินทร์ อินทรสว่าง ผู้ที่ได้บริโภค “ผักโมโรเฮยะ” กล่าวว่า ได้รู้จักผักโมโรเฮยะ จากผลิตภัณฑ์ Salz King Herb และโฟมล้างหน้า หลังจากที่ลองใช้ผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลังจากที่ใช้ยาสีฟัน Salz King Herb รู้สึกปากสะอาดและสดชื่น ในส่วนของตัวโฟมล้างหน้าหน้ารู้สึกสะอาด ไม่มันและไม่แห้ง และเมื่อได้มีโอกาสไปหาซื้อผักโมโรเฮยะนำมาประกอบอาหารแบบง่าย ๆ ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใส่ผักโมโรเฮยะ และนำไปผัดใส่น้ำมัน รู้สึกว่ารสชาติของผักโมโรเฮยะไม่ขม และสามารถทานได้ทุกคนและทุกวัย”
“ผักโมโรเฮยะ” เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนหลายพืชพื้นถิ่น ที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านและเป็นผลผลิตชุมชนของชาวบ้านในประเทศไทย ยังมีพืชพื้นถิ่นอีกจำนวนมากที่สามารถนำมาสกัดเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีพืชพื้นถิ่นใดอีกบ้าง ซึ่งไลอ้อน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการดึงประโยชน์จากพืชพื้นถิ่นทั่วประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน สิ่งแวดล้อมและสังคม”นายเทวินทร์ กล่าวในที่สุด