โรงพยาบาลวิมุต ประกาศแผนปี67 ทุ่มงบ 3,200 ล้านบาท ขยายธุรกิจ-รพ.ในเครือ-ศูนย์ Vimut Wellness ต่อเนื่อง ล่าสุดดึงรศ.นพ.อัมพร จงเสรีจิตต์ ผู้ดำเนินการศูนย์ผ่าตัดแก้ไขสายตา ARCS เปิดศูนย์เลสิก สนองไลฟ์สไตล์พฤติกรรมคนยุคใหม่ รับการแข่งขันค่อนข้างสูง มั่นใจนวัตกรรม “FEMTO LDV Z8” เลเซอร์แบบไร้ใบมีด ช่วยให้การมองเห็นมีคุณภาพอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ราคาไม่แรง รองรับลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ 5-11 ราย/วัน ตั้งเป้าตลอดปี 67 มีผู้ที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 1,000 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 20 % ภายใน 1ปี
นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ PSH และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลฯในปี 2567 ว่า ได้เตรียมงบประมาณ 3,200 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต อย่างต่อเนื่อง ด้วยการซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโรงพยาบาลวิมุตแห่งใหม่ บนทำเลสุขุมวิท 54 และปิ่นเกล้า รวมถึงการลงทุนเพิ่มศักยภาพของการบริการด้านสุขภาพในโรงพยาบาลวิมุติ สะพานควาย โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และศูนย์ Vimut Wellness บางนา-วงแหวน
โดยที่จะเริ่มจากการรีแบรนด์โรงพยาบาลเทพธารินทร์ เป็นโรงพยาบาลวิมุตเทพธารินทร์ ในเดือนเมษายน 2567 นี้ เพื่อทำการตสาด และเพิ่มศูนย์เฉพาะทางใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เช่น การเพิ่มศูนย์เลสิก ในโรงพยาบาลวิมุตเทพธารินทร์ เป็นต้น รวมไปถึงแผนภายในระยะเวลา 3-4 ปีที่จะเพิ่มศักยภาพของศูนย์ Vimut Wellness บางนา-วงแหวน และ วัชรพล ในการรองรับการให้บริการ จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 200 เตียง เพิ่มเป็น 600 เตียง รวมไปถึงจะมีการพัฒนาโมเดลโรงแรมในรูปแบบ Wellness และศูนย์เลสิก ที่ซอยสุขุมวิท 18 ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายการให้บริการของโรงพยาบาลวิมุตหลากหลายมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีแผนการลงทุนโรงพยาบาลเฉพาะทางอื่นๆเข้ามาเพิ่มเติม เช่น โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด และโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบสมองและระบบประสาท เป็นต้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ที่ทองหล่อ ที่ใช้งบลงทุน(รวมที่ดินและการก่อสร้าง)จำนวนทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในต้นเดือนเมษายน 2567 นี้ โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง 2 ปี
ล่าลุดได้ดึงรศ.นพ.อัมพร จงเสรีจิตต์ ผู้ดำเนินการศูนย์ผ่าตัดแก้ไขสายตา ARCS มาเปิดศูนย์เลสิก และ ผู้อำนวยการศูนย์เลสิก โรงพยาบาลวิมุต เพื่อเสริมศักยภาพในการต่อยอดการให้บริการโดยใช้นวัตกรรมรักษา และผ่าตัดแก้ไขค่าสายตาไร้ใบมีด ทำให้โรงพยาบาลวิมุต สามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นวัยทำงาน นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการทำเลสิก เพื่อไปสอบในวิชาชีพเฉพาะที่ไม่มีค่าสายตา รวมถึงกลุ่มคนสูงอายุที่ต้องการปรับค่าสายตา และลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ที่มีความต้องการเข้ามาทำเลสิกในประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติของโรงพยาบาลวิมุต จะมีประมาณ 20-30% ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา เมียนมา และลาว โดยสามารถรองรับลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ 5-11 ราย/วัน และตั้งเป้าตลอดปี 2567 จะมีจำนวนผู้ที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 1,000 คน
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยียุคใหม่ และความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการทำเลสิก วงการการผ่าตัดเลสิกทั่วโลกจึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันวิจัย Market Research Future ระบุว่าวงการเลสิกทั่วโลกมีมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตจาก 2.64 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 เป็น 4.08 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2575 โดยมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 5.60% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ (พ.ศ. 2566 - 2575) เพื่อขานรับเทรนด์นี้ โรงพยาบาลวิมุต ได้นำเทคโนโลยี “FEMTO LDV Z8” จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาใช้ที่ศูนย์เลสิก ซึ่งเข้ามาพลิกโฉมการผ่าตัดเลสิกแบบเดิม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย ทำให้ฟื้นตัวได้ไวและมองเห็นได้ชัดเจนอย่างรวดเร็ว
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลวิมุตเดินหน้าเปิดศูนย์เฉพาะทางเพื่อการรักษาโรคยากและซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม ทุกศูนย์ของเราเพียบพร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการมากประสบการณ์และนวัตกรรมขั้นสูงที่ช่วยให้แพทย์สามารถมอบการรักษาที่ปลอดภัยและแม่นยำ สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาระดับสากล ภายใต้บริการที่ใส่ใจและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม โดยศูนย์เลสิกเป็นหนึ่งในศูนย์เฉพาะทางที่ รพ.วิมุต มุ่งมั่นนำเสนอการดูแลสุขภาพตาอย่างเต็มรูปแบบ ให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาสายตามั่นใจได้ว่าการมองเห็นจะกลับมาชัดเจนได้อย่างปลอดภัย โดยคาดว่าหลังจากมีการนำเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 มาใช้ที่ศูนย์เลสิก โรงพยาบาลวิมุต จะทำให้มียอดผู้ใช้บริการ เพิ่มขึ้นอีก 20 % ภายใน 1ปี
ด้าน รศ.นพ.อัมพร จงเสรีจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์เลสิก โรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ปัญหาสายตาถือเป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวัน ตามรายงาน World Report on Vision 2022 ขององค์การอนามัยโลก เผยว่าจากจำนวนผู้บกพร่องทางการมองเห็น 2.2 พันล้านคนในโลก มีประชากรอย่างน้อย 1 พันล้านคนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นระยะใกล้และระยะไกลที่ยังสามารถป้องกันได้หรือยังแก้ไขได้หากมีการตรวจพบอย่างทันท่วงที ทั้งยังเผยอีกว่าปี 2050 (พ.ศ.2593) คาดการณ์ประชากรโลก 50% หรือราว 3.5 พันล้านคน จะเจอปัญหาสายตาสั้น ดังนั้นทุกประเทศต้องเตรียมพร้อมรับปัญหาสายตาของประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ เพราะไลฟ์สไตล์ดิจิทัลยุคใหม่ทำให้เราทุกคนเสี่ยงต่อปัญหาสายตามากขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยการมองเห็นไม่ชัด นอกจากจะทำให้เกิดความผิดพลาดและอุบัติเหตุแล้ว ก็ยังทำให้มีอาการเมื่อยล้าดวงตาและปวดหัวเรื้อรังร่วมด้วย ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก และอุปกรณ์ช่วยปรับค่าสายตาอย่าง แว่นสายตาและคอนแท็กเลนส์ก็อาจไม่เหมาะหรือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคน การรักษาสายตาด้วย “เลสิก” จึงกลายเป็นทางเลือกที่คนให้ความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์เลสิก รพ.วิมุต ให้บริการตรวจรักษาและแก้ไขภาวะความผิดปกติทางสายตา ได้แก่ สายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาว ด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านจักษุและเลสิกที่มีประสบการณ์ยาวนาน ประมาณเกือบ 10 ท่าน พร้อมเครื่องมือทันสมัยแบบไร้ใบมีดจากสวิตเซอร์แลนด์ มีมาตรฐานสากล เน้นความปลอดภัยและความสบายใจของผู้รับบริการ ทีมแพทย์ที่ศูนย์ฯ พร้อมให้คำปรึกษา ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การผ่าตัดแก้ไขสายตา และการฟื้นฟูและดูแลดวงตาหลังทำเลสิก จนผู้รับบริการกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจน ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
“ปัจจุบันการเลสิกตา ถือเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ต่างจากในอดีตที่กลุ่มที่นิยมเลสิกตา จะเป็นกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้สายตาและหน้าตาในการทำงาน แต่ปัจจุบันมีผู้นิยมใช้บริการมากขึ้น สำหรับประเทศไทยการแข่งขันเรื่องเลสิกตามามากพอสมควร ปัจจุบันมีเปิดให้บริการประมาณ 30 ศูนย์(โรงพยาบาลและคลินิก)”รศ.นพ.อัมพร กล่าว
โดย นวัตกรรม “FEMTO LDV Z8” เป็นการมอบการรักษาค่าสายตาและการผ่าตัดเลสิกด้วยเลเซอร์แบบไร้ใบมีด ช่วยให้มีการมองเห็นที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด อาทิ กระจกตามีแผลได้ง่าย ภาวะตาแห้ง การมองเห็นไม่ชัดในภาวะแสงน้อย และสามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้น เอียงได้ อีกทั้งยังออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะทางกายภาพของดวงตาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดวงตาเล็ก คนตาลึก โหนกคิ้วสูง จึงเหมาะสำหรับดวงตาคนเอเชียและทุกเชื้อชาติ โดยการทำเลสิกรักษาค่าสายตาแบบ “ReLEx CLEAR” ด้วยเครื่อง FEMTO LDV Z8 สามารถแก้ค่าสายตาสั้นได้ตั้งแต่ -0.50 ถึง -10.00 ไดออปเตอร์ และสายตาเอียงได้ถึง -5.00 ไดออปเตอร์ โดยจะเปิดแผลที่กระจกตาขนาดเล็กมาก (2.6 – 3.0 มม.) ด้วยเลเซอร์พลังงานต่ำระดับนาโนจูล จักษุแพทย์จะปรับแต่งความโค้งของกระจกตาเพื่อแก้ไขค่าสายตาให้เหมาะสม พร้อมใช้ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการปรับพื้นผิวกระจก ทำให้ผิวกระจกตาหลังทำเลสิกเรียบเนียนจึงทำให้ค่าสายตามีความคมชัดยิ่งขึ้น ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บแต่อาจรู้สึกเหมือนกระจกตาถูกดูดเบาๆ เป็นเวลา 20-30 วินาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ ระบบดูดกระจกตาที่แน่นขึ้นจะช่วยลดการถลอกของกระจกตา ขั้นตอนผ่าตัดจะใช้เวลาราว 10-15 นาที นอกจากการรักษาค่าสายตา รพ. วิมุต ยังนำเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัดต้อกระจก โดยอาศัยคุณสมบัติเด่นด้านการใช้พลังงานต่ำ ความแม่นยำ ความปลอดภัย และการลดความบอบช้ำของกระจกตาอีกด้วย โดยศูนย์ดังกล่าวเปิดให้บริการเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการประมาณ 5-11 ราย/วัน โดยราคาเลสิกทั่วไป เริ่มต้นที่ประมาณ 33,000 บาท ส่วนเลสิกนวัตกรรมใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 79,000 บาทขึ้นไป
“ในโลกนี้ประเทศที่มีนวัตกรรมเกี่ยวกับสายตาที่ดีที่สุด มี 3 ประเทศ คือ สหรัฐ,เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ โดยที่เราเลือกนวัตกรรมจากสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาใช้ในประเทศไทย เพราะมองว่ามีความเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุด และเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด ราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยในประเทศไทยมีเครื่องนวัตกรรมใหม่นี้เพียง 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่เป็นของ ศูนย์ผ่าตัดแก้ไขสายตา ARCS และอีก 1 แห่งเป็นของคลินิกเอกชนอีก 1 ราย ซึ่งจากการวิจัยพบว่าปัจจุบันคนมีการใช้สื่อโซเชียลกันมาก ส่งผลให้สายตาสั้นเร็วขึ้น และเกิดภาวะ Computer Vision Syndrome (CVS) จะมีโรคต่างๆตามมา อาทิ กระดูกต้นคอ,ข้อมือ และกระดูกสันหลังเสื่อมตามมา” รศ.นพ.อัมพร กล่าว
นอกจากนี้ พญ.ศุภสุตา มั่นสัมฤทธิ์ ผู้รับบริการผ่าตัดเลสิกตาแบบ ReLEx CLEAR ด้วยเครื่อง FEMTO LDV Z8 ยังได้เล่าถึงประสบการณ์การรักษาว่า “เป็นคนสายตาสั้นมองเห็นอะไรไม่ค่อยชัดและไม่ชอบใส่แว่นด้วย เลยเริ่มศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการทำเลสิกแบบไร้มีด พบว่าปัจจุบันมีนวัตกรรมที่ทำเลสิกแล้วไม่เจ็บและพักฟื้นน้อยมาก แบบวันรุ่งขึ้นเปิดตาและใช้ชีวิตปกติได้เลย เลือกทำเลสิกแบบ ReLEx CLEAR ที่ รพ. วิมุต ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ออกจากห้องผ่าตัดได้แล้ว รู้สึกประทับใจกับนวัตกรรมใหม่และบริการของทางโรงพยาบาลและทีมแพทย์ที่ศูนย์เลสิกที่ให้คำปรึกษาอย่างละเอียดจนเราสบายใจมาก ๆ ทุกวันนี้เห็นชัดแล้วอุปสรรคใหญ่ในชีวิตหายไปเลยเพราะโลกกลับมาคมชัดอีกครั้ง