ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวโครงการใหม่ “แลนซีโอ คริป เทพารักษ์ – บางปลา” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ฝรั่งเศส มูลค่าโครงการ 840 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.89 ล้านบาทล่าสุดเฟสแรกเหลือขายเพียง 3 ยูนิต มั่นใจสินค้าตอบโจทย์ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ระบุมีโครงการทำเลสมุทรปราการเปิดขายอยู่กว่า 10 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยถึงศักยภาพของ จ.สมุทรปราการว่า ปัจจุบันมีจำนวนประชากรที่มากถึง 1,372,970 คน มี GPP 648,030 ล้านบาท และมีGPP/CAP 283,159 บาท/คน โดยมีภาคอุตสาหกรรม 50% ของ GPP ซึ่งมีจำนวน 7,004 โรงงาน มีคนงาน 477,521 คน จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ 4,358 คน
ขณะที่ทำเลเทพารักษ์ถือเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยมด้านฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก เพราะโดดเด่นด้วยศักยภาพของระบบคมนาคมทั้งทางด่วนและใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเหลืองและสายสีเขียว ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกด้านการเดินทางและการขนส่ง ที่สำคัญในปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่ภาครัฐวางแผนพัฒนาเมกกะโปรเจกต์ต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชนที่ต่างขานรับในแผนพัฒนาเมือง เร่งผุดโปรเจกต์ใหม่เพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในทำเลดังกล่าวจำนวนมาก ทั้งห้างสรรพสินค้า ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ และคอมมูนิตี้มอลล์
ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มเปิดขายโครงการ “แลนซีโอ คริป เทพารักษ์ – บางปลา” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 32 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาดตั้งแต่ 35-52 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.89-7 ล้านบาท จำนวน 195 ยูนิต มูลค่าโครงการ 840 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส ซึ่งได้เปิดการขายในเฟสแรกก่อน เมื่อปลายเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 30 ยูนิต มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการพัฒนาบนพื้นที่ประมาณ 15% ของพื้นที่โครงการทั้งหมดที่มีอยู่ 32 ไร่ ปัจจุบันในเฟสแรกที่เปิดตัวไปเหลือขายเพียง 3 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น ถือว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มกำลังซื้อดีเกินคาด กำลังซื้อหลักของโครงการนี้จะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ค่อนข้างสูง และเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวเป็นหลัก ได้แก่ ผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม บุคลากรทางการแพทย์ และจากการตอบรับของตลาดทำให้บริษัทฯ อาจพิจารณาแผนพัฒนาโครงการในเฟส 2 ให้เร็วขึ้นเพื่อดูดซับความต้องการของกำลังซื้อที่มีในปัจจุบัน
“ทั้งนี้มองว่าทำเลบางปลา เป็นโซนที่มีศักยภาพ และมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง ด้านการแข่งขันในทำเลนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาพัฒนาโครงการแนวราบมากพอสมควร แต่เราก็มั่นใจในจุดขายของเรา คือ ทำเลดี ดีไซน์ ฟังก์ชัน และราคาตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแน่นอน ซึ่งจนถึงปัจจุบันเราพัฒนาโครงการในทำเลสมุทรปราการที่เปิดขายอยู่กว่า 10 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท”นายชูรัชฏ์ กล่าวในที่สุด