ไรมอน แลนด์ฯเผยหลังปรับโครงสร้างและพอร์ตโฟลิโอใหม่ ประกาศขยายฐานการลงทุนไปยุโรป-ออสเตรเลีย ในรูปแบบร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่น คาดสรุปผลในปี68 ระบุเหตุ “พาที สารสิน”เข้าถือหุ้น ช่วยเสริมแกร่งดึงนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะคาซัคสถานซื้ออสังหาฯไทย ทั้งเตรียมจัดตั้งกองทุนในรูปแบบ Private Equity Trust หวังลงทุนในโครงการอนาคต มั่นใจมูลค่ากองทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนโครงการริมเจ้าพระยา ตรวจสอบพบคือที่ดินหน้า The River” ระบุมีคนไทย-ต่างชาติ สนใจบ้านหรูหนึ่งเดียว 1,000 ล้านบาทแล้ว
นายกรณ์ ณรงค์เดช กรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้บริหารRML ภายใต้บทบาทของ CEO มาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ตนและทีมงานได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในระดับประเทศ ผ่านการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และDNA ของ RML ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน และปรับพอร์ตโฟลิโอใหม่ เพื่อแสดงตัวตนของ RML ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมุ่งพัฒนาเฉพาะโครงการเซกเมนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่เท่านั้น ซึ่งเป็นโครงการมีความแตกต่าง และหาได้ยากในตลาดอสังหาฯ ขณะนี้นับเป็นเวลาอันสมควรแล้วที่จะมีคนมาสานต่อสิ่งที่ผมทำและนำพาบริษัทฯ ก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ
โดยหลังจากที่ทาง RML ได้มีการศึกษาแผนการรุกพัฒนาโครงการอสังหาฯในต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งคิดว่านับตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ถือว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว โดยมีความสนใจเข้าลงทุนในประเทศแถบยุโรปและออสเตรเลีย เนื่องจากสินทรัพย์ในประเทศทั้ง 2 ทวีปนี้ ยัง Undervalue ทำให้มีความน่าสนใจในการเข้าลงทุนที่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี และมีศักยภาพ ประกอบกับการต้องการผลักดัน RML ให้เป็นแบรนด์ระดับ International ภายใน 3-5 ปี ทำให้ RML ต้องมีการขยายการลงทุนไปต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาอยู่ประมาณ 3-4 ราย โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2568
“การลงทุนในต่างประเทศนั้น เรามองไว้หลายปีแล้ว หากเห็นว่าคุ้มทุนและมีโอกาสพัฒนาได้มากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอสเสทที่จะได้มา ซึ่งอาจจะเป็นการเทกโอเวอร์โครงการเก่ามาพัฒนาใหม่ เนื่องจากไม่อยากได้ของที่แพงจนเกินไป ซึ่งสนใจลงทุนทั้งอสังหาฯเพื่อการขายและให้เช่า แต่เบื้องต้นสนใจโครงการที่อยู่อาศัยมากกว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน จึงเป็นสาเหตุให้คณะกรรมการ RML มีมติอนุมัติแต่งตั้ง ‘เบร็นตัน จัสติน มอเรลโล’ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คนใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้บริหารที่สั่งสมมายาวนานกว่า 25 ปี ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง สถาปัตยกรรม และการออกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจอสังหาฯ ลักชัวรี่ ด้วยความสามารถ และความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นของคุณเบร็นตัน เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อน RML ไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่นายพาที สารสิน ได้เพิ่มทุนและเข้ามาเป็นกรรมการใน RML จะมีส่วนร่วมในการเสริมศักยภาพให้กับ RML โดยเฉพาะในส่วนของฐานลูกค้าต่างชาติ จากการที่นายพาที สารสิน มีการดำเนินธุรกิจสายการบินของตนเองคือ สายการบิน Really Cool (Really Cool Airlines: RC) ซึ่งทำให้สามารถ Synergy กับ RML ได้ โดยเฉพาะการเปิดเที่ยวบินเหมาลำ ในเส้นทางประเทศคาซัคสถาน ที่ปัจจุบันมีชาวคาซัคสถาน นิยมเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเป็นบ้านหลังที่สองในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะมองว่าประเทศไทยนั้นเปิดรับนักท่องเที่ยว และนักลงทุนทุกชาติ ทุกภาษา ถือเป็นสวรรค์ของชาวต่างชาติที่มองหาการลงทุนและซื้อบ้านหลังที่สองในประเทศไทย ทำให้เป็นโอกาสของ RML ในการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติประเทศใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีแผนการระดมทุนอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อนำมารองรับการลงทุนในอนาคต โดยที่จะมีการจัดตั้งกองทุนในรูปแบบ Private Equity Trust (PE Trust) เพื่อลงทุนในโครงการใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยดึงดูดนักลงทุนให้สามารถมีส่วนร่วมในกองทุนนี้ได้นี้ และให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนการจัดตั้งในไตรมาส 4/2567 มูลค่ากองทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนหุ้นกู้ของ RML ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้ จะครบกำหนดอีก 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีการเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุ โดยที่สำรวจความสนใจของนักลงทุนไว้แล้ว ซึ่งนักลงทุนต่างยังคงเชื่อมั่นและพร้อมสนับสนุน RML อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะยังได้รีบการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ด้านแผนการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนา 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า16,000-17,000 ล้านบาท ตามแผน คือ
1.โครงการบนทำเลใจกลางพร้อมพงษ์-ทองหล่อ พัฒนาในรูปแบบของบ้านหรู 5 ชั้น 5 ยูนิต ราคาเริ่มต้นกว่า 500-700 ล้านบาทต่อหลัง มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท
2.โครงการ Branded Residential Villa ระดับอัลตร้าลักชัวรี ทำเลอ่าวกมลา จังหวัดภูเก็ต จำนวน 25 หลัง แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส โดยแฟสแรก พัฒนาจำนวน 9 หลัง ราคาขายเฉลี่ย 600-1,000 ล้านบาทต่อหลัง มูลค่าโครงการ 12,000 ล้านบาท
3.โครงการแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรีริมแม่น้ำเจ้าพระยา (จากข้อมูลที่ทีมข่าว Fullmax ทราบมา พบว่าเป็นที่ดินบริเวณด้านหน้าโครงการ “The River”เจริญนคร ที่ยังเหลือการพัฒนาอยู่ โดยจะพัฒนาเพียง 1 หลัง ราคาขายประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจประมาณ 3-4 ราย ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาส 4/2567)
ด้าน มร. เบร็นตัน จัสติน มอเรลโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ RML กล่าวว่า ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ของ RML หน้าที่รับผิดชอบของผมคือการเสริมความแข็งแกร่ง และนำพาบริษัทฯ ไปสู่ระดับสากล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะผู้นำอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ของไทย โดย RML ตั้งเป้าที่จะใช้ 4 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1: เพิ่มศักยภาพการทำงานภายในองค์กร: ปรับโครงสร้าง และกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแผนธุรกิจ
กลยุทธ์ที่ 2: สร้างประสิทธิภาพการลงทุน เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงิน: จัดลำดับความสำคัญในการลงทุนให้สอดคล้องกับเสถียรภาพทางการเงิน และปรับรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับกลยุทธ์และเป้าหมายที่ยั่งยืนของบริษัทฯ
กลยุทธ์ที่ 3 รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่: พัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นสร้างมาตรฐานใหม่ของวงการ แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยมุ่งเจาะฐานลูกค้าบนยอดพิรามิด เช่น โครงการริมแม่น้ำ, โครงการใจกลางเมือง, รีสอร์ท เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 4: รักษาผลประกอบการให้แข็งแกร่ง: สร้างความสมดุลทางการเงินในระยะสั้นและระยะยาว และการลดต้นทุนทางการเงินที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดหวังพลิกมีกำไรได้ จากปีก่อนที่ที่ยังมีผลขาดทุนอยู่กว่า 800 ล้านบาท โดยที่ปัจจัยหนุนจะมาจากการโอนโครงการต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ Tait 12 ที่ยังมีการโอนห้องให้กับลูกค้าต่อเนื่อง ประกอบในปีนี้จะมีการขายโครงการอาคารสำนักงาน “วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์” เพลินจิต (One City Centre :OCC) เข้ากองรีท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำสินทรัพย์ขายเขิากองรีท แต่ยังต้องมีการเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่ในโครงการ OCC ให้เพิ่มขึ้นเป็น 70-80% ตามเกณฑ์ของกองรีท จากปัจจุบันที่โครงการ OCC มีอัตราการเช่า 70% โดยคาดว่าจะขายเข้ากองรีทในไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำไรพิเศษเข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ ขณะที่เป้าหมายยอดขายและรายได้ในปี 2567 ยังอยู่ระหว่างการประเมิน