news-details
Business

“แอสเซทไวส์”ขานรับมาตรการภาครัฐ เชื่อกระตุ้นศก.ไทยปี‘67 ขับเคลื่อน ไตรมาส 2/67 จ่อโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ มูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท

แอสเซทไวส์ฯขานรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ภาครัฐ แรงส่งตลาดบ้านปี 67 ดีมานด์ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น หนุนเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อน เผยไตรมาส 2/67 เตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯสร้างเสร็จใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท นำเรือธงแบรนด์ “เคฟ” แคมปัสคอนโดฯ รอบมหาวิทยาลัย ขณะที่ภูเก็ตพร้อมรับรู้รายได้จาก “เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง” คอนโดฯ สร้างเสร็จใหม่โครงการแรก ภายใต้การพัฒนาของบริษัทลูก หลังASW เข้าลงทุนใน TITLE เมื่อไตรมาส 3 ปี 66 พร้อมโครงการบ้านอีก 2 โครงการ

 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายเพดานบ้าน จากเดิมไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 7 ล้านบาท ให้ได้รับสิทธิ์มาตรการทางภาษีซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และโครงการสินเชื่อบ้าน ให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงมาตรการอื่นๆ อีก เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 คึกคักขึ้น เพราะจะทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเร่งตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้ และส่งผลเชื่อมโยงไปยังธุรกิจต่างๆ อีกจำนวนมาก เช่น แรงงาน วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ภายในบ้าน ฯลฯ อันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม

สำหรับในไตรมาส 2/2567 ถือเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่ดีของบริษัทฯ เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ถึง 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,607 ล้านบาท ประกอบด้วยแบรนด์ “เคฟ” 3 โครงการ ได้แก่ เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kaset) 600ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) 1,770 ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต, เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน (Kave Uni.Verse Bang Saen) 245 ยูนิต ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร และ เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง (The TitleHalo 1 Naiyang) 329 ยูนิต ใกล้หาดในยาง ภูเก็ต รวมถึงอีก 2 โครงการบ้าน ได้แก่ โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana) และโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างโครงการ เอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani)

 

ทั้งนี้ คอนโดฯ แบรนด์เคฟ เป็นหนึ่งในเรือธงหลักสำคัญของ ASW ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตรายได้มาอย่างต่อเนื่อง มีจุดเด่นคือทำเลรอบมหาวิทยาลัย (Campus Condo) จับกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ (Real Demand) เพื่ออยู่อาศัย รวมทั้งกลุ่มนักศึกษา Gen Z ที่พักอาศัยระหว่างเรียน และกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ ที่ต้องการผลตอบแทน (Yield) ที่ดีจากการปล่อยเช่า ส่วนโครงการเดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง พัฒนาโดย บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ TITLE ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ASW โดยถือว่าเป็นคอนโดฯ สร้างเสร็จใหม่ตัวแรกในทำเลภูเก็ต ที่สามารถรับรู้รายได้ภายหลังจากที่บริษัทฯ เข้าลงทุนใน TITLE เมื่อไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 1,537 ล้านบาท

อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 66โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 93,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 46 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 20โครงการ และ ณ สิ้นปี 2566 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 19,575 ล้านบาท

You can share this post!