ความสัมพันธ์ด้านการทูตระหว่าง “ไทย -กัมพูชา” มีมาอย่างยาวนาน โดยทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมสร้างเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน บริเวณเขตชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีรายได้รวมเติบโตปีละหลายหมื่นล้านบาท
สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) หรือ NEDA คือหนึ่งในหน่วยงานหลักที่คอยร่วมผลักดันเศรษฐกิจตามเขตชายแดน และถือว่าเป็นพระเอกตัวจริงที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เข้าไปช่วยเหลือทางด้านการเงินประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการสร้างความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค
ล่าสุด NEDA ได้นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบท - บ้านหนองเอี่ยน และถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการความร่วมมือทางการเงิน Financial Assistance (FA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ระหว่างไทย-กัมพูชา
NEDA พร้อมหนุนเศรษฐกิจชายแดน “ไทย - กัมพูชา”
นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการ NEDA เปิดเผยว่า NEDA ได้มีการช่วยเหลือทางด้านการเงินกับประเทศกัมพูชา ณ ปีงบประมาณ 2567 คิดเป็นวงเงินอย่างน้อย 4,500 ล้านบาท และในอีกไม่นานนี้ โดยเฉพาะในปี 2568 จะมีโครงการอื่น ๆ ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านบาท
“NEDA ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางการเงิน ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในภูมิภาค“
ด่านสตึงบท ช่วยลดความแออัด ”บ้านคลองลึก - ปอยเปต“
นายพีรเมศร์ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน นับเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของทั้งสองประเทศ โดยจะช่วยลดความแออัดของด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก หรือ ด่านปอยเปต เพราะต่อไปการขนส่งสินค้าจะมาใช้บริการที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ทั้งหมด
“ก่อนหน้านี้ ด่านปอยเปตรองรับทั้งขนส่งสินค้า และการเดินทางข้ามแดน ซึ่งทำให้เกิดความแออัด ซึ่งการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่จะใช้รถบรรทุก ส่งผลให้การจราจรติดขัดมาก และใช้เวลาไม่ต่ำว่าครึ่งชั่วโมงในการผ่านแดน แต่ปัจจุบันด่านถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน ช่วยลดเวลาเช็คเอกสารของรถบรรทุกขนส่งสินค้าข้ามแดนเหลือเพียง 15 นาทีเท่านั้น”
“สตึงบท - บ้านหนองเอี่ยน” รองรับรถบรรทุกได้วันละ 600 คัน
ทั้งนี้ จุดผ่านแดนถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน มีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านแดนประมาณวันละ 150-300 คัน แต่ในอนาคตหากฝั่งไทยสามารถก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานบริเวณบ้านหนองเอี่ยนเสร็จสิ้น จะช่วยให้เกิดความสะดวกในการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายรองรับรถบรรทุกขนส่งสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้ถึงวันละ 600 คัน
NEDA ลงพื้นที่จริง โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดง
อย่างไรก็ดี การนำสื่อมวลชนไทยลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางการเงิน Financial Assistance (FA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน จากปัญหาการขนส่งสินค้าบริเวณด่านชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถึงจังหวัดบันเตียเมียนเจย มีการจราจรที่ติดขัดบริเวณด่านพรมแดน ตลอดจนมีความหนาแน่นของรถบรรทุกขนส่งสินค้า รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาซื้อสินค้าที่ตลาดโรงเกลือมีการเติบโตในจำนวนที่สูงในปี 2559
ดังนั้น NEDA จึงได้ร่วมมือและสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ในกัมพูชา หรือที่เรียกว่า จุดผ่านแดนถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตำบลปอยเปต อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งการก่อสร้างด่านสตึงบทฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อแยกการเดินทางเข้าออกเมือง ออกจากการขนส่งสินค้าผ่านแดน เป็นการลดความแออัดของการจราจร รองรับการขยายตัวทางการค้าและการให้บริการของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และเป็นช่องทางสำหรับขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกัมพูชา-ไทย ที่เชื่อมต่อกับสะพานมิตรภาพบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท กับเส้นทางถนนหมายเลข 5 (AH1)
หนุน “ไทย - กัมพูชา“ สร้างความสัมพันธ์อันดี - เจริญรุ่งเรือง
โดยการขับเคลื่อนงานก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรสตึงบท มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางพื้นที่เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีรายได้คิดเป็นมูลค่าสูงปีละกว่า 1 แสนล้านบาท รวมถึงเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สามารถส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ อะไหล่รถจักรยานยนต์ รถใช้ในการเกษตร และสินค้าเกษตรของไทย และแก้ปัญหาการจราจรบริเวณด่านชายแดนคลองลึกที่คับแคบให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือที่ดีระหว่างกันยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น