การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดฟังก์ชั่นใหม่บริการจองตั๋วแบบ “Waiting List” ขึ้นบัญชีสำรองในขบวนรถที่เต็ม เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้โดยสารในการเดินทาง
เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้การรถไฟฯ เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาระบบการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้บริการ ล่าสุด การรถไฟฯ ได้พัฒนาฟังก์ชัน
การจองตั๋วโดยสารใหม่แบบ “Waiting List” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในการเดินทาง ให้สามารถเลือกขึ้นบัญชีสำรองในขบวนรถที่มีที่นั่งเต็มแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นหากมีผู้โดยสารยกเลิกหรือคืนตั๋วในขบวนดังกล่าว ระบบจะแจ้งเตือนให้คิวสำรองที่ Waiting List มีสิทธิใช้บริการทดแทนทันที เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงขบวนดังกล่าว ให้มีโอกาสเดินทางได้อย่างทันท่วงที โดยเริ่มเปิดให้บริการจองตั๋วแบบ Waiting List ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับการใช้บริการจองตั๋วแบบ Waiting List สามารถเลือกจองได้เฉพาะขบวนรถที่ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนรถด่วน ขบวนรถเร็ว ขบวนรถนำเที่ยว ซึ่งสามารถเลือกสำรองที่นั่งได้ทุกช่องทาง ทั้งผ่านระบบการจองตั๋วออนไลน์ D-Ticket และสถานีรถไฟทั่วประเทศ ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติ ดังนี้
1. ผู้ใช้บริการต้องเป็นสมาชิกที่ได้รับการยืนยันตัวตนจากระบบ D-Ticket
2. กรณีผู้ใช้บริการสำรองตั๋วโดยสารในระบบ D-Ticket ผ่านอินเทอร์เน็ต (I-Ticket) หรือแอปพลิเคชัน บนโทรศัพท์มือถือ (M-Ticket) แล้วพบว่าที่นั่งเต็ม ระบบจะทำการแสดงฟังก์ชัน “Waiting List” หากผู้ใช้บริการมีความประสงค์จะขึ้นบัญชีสำรองตั๋วโดยสาร ให้กดไปที่ฟังก์ชัน “Waiting List” เพื่อขึ้นบัญชีสำรองตั๋วที่นั่ง ตามลำดับ
3. กรณีผู้ใช้บริการสำรองตั๋วโดยสารที่สถานีทุกแห่งทั่วประเทศ สามารถแจ้งความประสงค์ในการขึ้นบัญชีสำรองตั๋วโดยสารกรณีที่นั่งเต็มกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว พร้อมแจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับระบบ D-Ticket เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขึ้นบัญชีสำรองตั๋วโดยสารให้แก่ผู้ใช้บริการ
4. หากมีการยกเลิกหรือคืนตั๋วโดยสารเข้ามาในระบบ ทำให้มีที่นั่งว่าง ระบบจะทำการส่งข้อความพร้อมรหัสการจองตั๋ว ไปที่อีเมล์ (E-mail) ของผู้โดยสารตามลำดับ Waiting List ในขบวนรถ วันที่เดินทาง และประเภทตู้ของขบวนรถตามความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งสามารถดำเนินการออกตั๋วและชำระเงินผ่านช่องทาง I-Ticket และ M-Ticket หรือผ่านช่องจำหน่ายตั๋วที่สถานีทุกแห่งทั่วประเทศ ภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลาที่ระบบได้ส่งอีเมล์ (E-mail) แจ้ง
นายเอกรัชกล่าวว่า การรถไฟฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปิดใช้บริการฟังก์ชัน “Waiting List” จะสามารถรองรับความต้องการของผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ โดยสามารถจองและสำรองตั๋วโดยสาร ได้จากช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่าน Mobile Application : SRT D-Ticket (Android) , (iOS) หรือช่องทาง Website D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th หรือช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่านสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบสถานะ ตำแหน่ง และเวลาโดยประมาณ ในการถึงจุดหมายปลายทางได้จากระบบ TTS (Train Tracking System) : https://ttsview.railway.co.thผู้สนใจเดินทางสามารถสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย