เซ็น เอกซ์ ตอกย้ำผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบที่อยู่อาศัยและอาคารธุรกิจในเชิงพาณิชย์ ดึงทีมเก่า JLL เสริมทัพครั้งใหญ่ ด้วยผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 35 ปี ร่วมทีมบริหาร ยกระดับการให้บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1,400 ล้านบาท เติบโต 40 % และมีเป้าหมายด้านการลดคาร์บอน GHG Reduction 3,343.13968 tCO2eq เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 334,314 ต้น
นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEN X เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทพร้อมรุกตลาดผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ด้วยการดึงทีมงานเก่าที่มีประสบการณ์จากบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์(ประเทศไทย)จำกัด หรือ JLL เสริมทัพทีมบริหาร ซึ่งบุคลากรที่มาร่วมทีมล้วนมากด้วยประสบการณ์ กว่า 35 ปี บริหารจัดการที่อยู่อาศัย อาคารเชิงพาณิชย์ มาแล้วกว่า 300 โครงการ โดยถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร และส่งมอบโซลูชันด้านการบริการอย่างมืออาชีพให้แก่ลูกค้า และบริษัทยังพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Life Simplified ชีวิตง่าย สบายยิ่งขึ้น ด้วยบริการ “Intelligence First Mile - Last mile” ที่นำ EV Shuttle ให้บริการ รับ-ส่ง เชื่อมต่อไปยังขนส่งสาธารณะ สามารถติดตามตำแหน่งรถ ผ่านแอปพลิเคชัน Smart Mobility มอบความสะดวกสบายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับแนวทางการสร้างเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ที่วางไว้
นอกจากนี้ในปี 2567 นี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะยุบ 3 บริษัท ที่ SENX เคยเข้าถือหุ้น เข้ามารวมในบริษัท เซ็น เอกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป
โดยปัจจุบันธุรกิจหลัก ของเซ็น เอกซ์ฯ ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1.Sen X Property Management and Property Services ธุรกิจที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลที่อยู่อาศัย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.1.Property and Facilities Management ให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคล เสริมทัพด้วยผู้บริหารที่เชี่ยวชาญในวงการอสังหาอย่าง นายศิริศักดิ์ ศิลาจำรูญ นั่งแท่น ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ง่าย สะดวกสบาย และมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมบุกตลาดอสังหาระดับพรีเมียม ด้วย Elite Services ซึ่งเป็นการบริการลูกบ้านระดับ World Class จากทีมงานมืออาชีพผ่านการอบรมตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น (สากล) และยังให้บริการ Tenancy management & Hospitality ตัวแทนในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรให้กับนักลงทุนและการบริหารโรงแรม รวมถึง Services Apartment ภายใต้แบรนด์ SEN STAY ซึ่งปัจจุบันบริษัท ให้บริการ Property and Facilities Management รับบริหารโครงการทั้งหมดกว่า 100 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 65 โครงการและที่เหลือเป็นหมู่บ้าน ซึ่งสัดส่วนบริหารเป็นโครงการของบริษัทในเครือ 7 % และโครงการอื่นภายนอก 30% โดยในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าขยายสัดส่วนของการดูแลโครงการอื่นเพิ่ม มากกว่า 40% พร้อมขยายตลาดเชิงพาณิชย์ควบคู่ไปด้วย
1.2.Property Services การเป็นตัวแทนขายเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และเชิงอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ เสริมทีมด้วย 2 ผู้อำนวยการบริหาร คือ นายปรีชา ศุภปีติพร และ นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงอสังหากว่า 25 ปี เสริมแกร่งทีมบริหารงานขายโครงการ ให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งลูกค้าไทยและนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยมีเครือข่ายอยู่หลายประเทศ เช่น จีน ไต้หวัน เมียนมา อินเดีย มั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอันเหนือระดับและเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในการลงทุนให้กับนักลงทุนและผู้อาศัยในอนาคตได้
2.Sen X Property Development ธุรกิจที่บริหารจัดการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการระดับ Luxury ที่ยังคงจุดเด่นบ้านใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย Zero Energy House พร้อมการนำ technology มาผสมผสานเพื่อตอบโจทย์ Smart Lifestyle ของการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ซึ่งปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว ระดับซูเปอร์ลักชัวรี บริเวณรามอินทรา กม.9 มูลค่าโครงการกว่า 2,600 ล้านบาท
3.Sen X Digital ธุรกิจที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อช่วยในการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย เป็นไปตามแนวคิดหลัก “Life simplified” ชีวิตง่ายสบายยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ ต่างๆ พัฒนามาจากความเข้าใจเชิงลึก (Customer Insight) ของลูกค้า และลูกบ้าน ซึ่ง Sen X กำลังพัฒนาและยกระดับ Smart application 2 ตัว คือ
-Smartify คือ smart living management application ที่ออกแบบจากการเรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งาน ครบจบที่เดียว ตั้งแต่ การชำระค่าบริการ การแจ้งซ่อมแซมและติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ งานเซอร์วิสต่างๆ ที่โครงการมีไว้ให้บริการ การสื่อสารและการแจ้งเตือน และยังมีการเพิ่มความปลอดภัย ด้วยฟังก์ชันการบันทึกข้อมูลต่างๆ ภายในที่อยู่อาศัย ยกระดับการบริการลูกค้าและลูกบ้านของเสนาสู่ระดับอัจฉริยะด้วย AI ผ่าน BIOMETRIC เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตภายในโครงการที่พักอาศัย พร้อมเชื่อมต่อระบบคมนาคมสาธารณะ และการเข้าถึงสาธารณูปโภคได้สะดวกรวดเร็ว ประหยัดเงินและเวลา พาชุมชน สู่สังคมคุณภาพอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
-Smartify home คือ Personalized Smart Platform for Living ที่รวบรวมสินค้าและบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ
4.Sen X Retail ธุรกิจที่ให้บริการ เลือกซื้อของในการเข้าอยู่และของตกแต่ง อย่างง่ายดาย ผ่าน Smartify Home ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาของลูกบ้าน ที่ซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดฯใหม่ โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยเลือกซื้อของตกแต่งบ้านผ่าน Smartify home ครบจบที่เดียว ซึ่งสินค้าจะถูก tailored made ให้เข้ากับสไตล์และขนาดของที่อยู่อาศัยนั้นๆ จากทีมงานมีฐานข้อมูลขนาดพื้นที่ของแต่ละ unit type ในทุกโครงการอยู่แล้ว โดยที่ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลานัดช่างมาวัดพื้นที่หรือนัดติดตั้ง ทีม Smartify home ดูแลให้ครบจบทุกขั้นตอน
Sen X มั่นใจว่าการเสริมทัพทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ บวกกับพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ จะผลักดันให้ Sen X ขึ้นแท่นเป็นผู้นำของผู้ให้บริการด้านอสังหาครบวงจร ตลาดพรีเมียม และนอกจากการบริหารธุรกิจภายใต้แนวคิดหลัก Life simplified จะเปรียบเสมือนการติดอาวุธเสริมทัพเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มธุรกิจต่างๆของ Sen X แล้ว ยังนับเป็นการต่อยอดและส่งเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจซึ่งกันและกันของบริษัทแม่ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดี ควบคู่ไปกับคุณภาพที่ดี รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมที่ Sen X ให้ความสำคัญเช่นกัน ทั้งการประหยัดพลังงาน สนับสนุนการรีไซเคิล ร่วมรณรงค์การคัดแยกขยะ และการเดินทางด้วยรถสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด และก้าวไปสู่องค์กร Net Zero ในลำดับต่อไป
โดยในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 14,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 40% จากการบริหารโครงการ 300 ล้านบาท และพัฒนาโครงการ 1,100 ล้านบาท จากปี 2566 มีรายได้กว่า 900 ล้านบาท จากการพัฒนาโครงการ 90% และบริหารโครงการ 10% (126 โครงการ)