พฤกษาฯเผยภาพรวมตลาดแนวราบไตรรมาส 1/67 เติบโตลดลง ผลจากกลุ่มต่ำกว่า 3 ล้านบาท มียอดReject สูง หนี้ครัวเรือนทะยาน ขณะที่บ้านเดี่ยวกลุ่มพฤกษาระดับราคา 10 - 20 ล้านบาทมียอดขายโตสวนกระแสถึง 16% ประกาศรุกพัฒนาแนวราบในรูปแบบ “เวลเนส เรสซิเดนซ์”มากขึ้น พร้อมดึงกลุ่มโรงพยาบาลวิมุตเข้าเสริมแกร่ง ล่าสุดเปิดตัวแนวราบแบรนด์ใหม่ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น”มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เปิดพรีเซลวันที่ 14-16 มิ.น.67 นี้ คาดทั้งปีกวาดยอดขายได้ 400 ล้านบาท หรือ 50%
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดแนวราบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า หลังวิกฤติโควิด-19 มีอัตราการเติบโตของยอดขายค่อนข้างมาก แต่ในช่วงไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตลดลงประมาณ 18% เนื่องจากดีมานด์กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ทั้งคอนโดฯและแนวราบ มียอด Reject ที่สูง และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยวมีอัตราการเติบโต 2% ส่วนบ้านเดี่ยวของกลุ่มพฤกษาระดับราคา 10 - 20 ล้านบาทมียอดขายที่ดีเติบโตกว่าภาพรวมตลาดถึง 16% โดยยอดขายบ้านเดี่ยวในปี 2566 ที่ผ่านมาสูงถึง 159,000 ล้านบาท โตกว่าช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ 98,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันในไตรมาส 2/2567 พบว่าไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป แต่บ้านเดี่ยวยังมียอดขายที่ดีอยู่เป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะระดับราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยของพฤกษาฯนั้น จะรุกพัฒนาโครงการแนวราบในรูปแบบ “เวลเนส เรสซิเดนซ์”มากขึ้น โดยจะเป็นการร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มากขึ้น โดยผู้สูงอายุจะมีความต้องการดูแลในเรื่องของสุขภาพ และสังคมไทยยังนิยมอยู่อาศัยด้วยกันหลาย Generation ซึ่งจะเห็นได้ว่าบ้านเดี่ยว เซกเมนต์ระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปของ PS จะเป็นในรูปแบบของเวลเนส เรสซิเดนซ์ มากขึ้น โดยแต่ละโครงการจะมีโปรแกรมที่แตกต่างกันไป คาดว่าจนถึงปลายปี 2567 บริษัทฯจะมีพอร์ตบ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนเพียง 13%
ล่าสุดได้เปิดตัวแนวราบแบรนด์ใหม่ “ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น”ตั้งอยู่บริเวณถนนสามัคคี ใกล้โครงการบ้านหรูในอดีต “นิชดาธานี” บนที่ดินทั้งหมด 11 ไร่ พัฒนารูปแบบของบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 50-60 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 18-22 ล้านบาท มีจำนวนเพียง 6 ยูนิต และบ้านแฝด 3 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 39-50 ตารางวา ราคา 12-17 ล้านบาท จำนวน 56 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 14-16 มิถุนายน 2567 นี้ คาดว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 400 ล้านบาท หรือ 50% ของมูลค่าโครงการ
”เมกะเทรนด์สำคัญของโลกในตอนนี้ คือเรื่อง Health & Well-Being สืบเนื่องจากวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น พฤกษาจึงใช้จุดแข็งในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรายเดียวของไทยที่มีโรงพยาบาลอยู่ในเครือ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบ ‘Multigeneration Wellness Cluster Residence’ขึ้น ภายใต้แบรนด์ใหม่ ‘ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์’เพื่อเติมเต็มนิยามของคำว่า ‘บ้านและการใช้ชีวิต’ในเรื่อง ‘สุขภาพดีและคุณภาพชีวิตดี’โดยผสานความเชี่ยวชาญจาก ‘กลุ่มโรงพยาบาลวิมุต’ธุรกิจในเครือด้านเฮลท์แคร์ เพื่อพัฒนาให้เป็นโครงการเวลเนสเต็มรูปแบบของพฤกษาฯ ที่ใส่ใจในทุกกระบวนการพัฒนาบ้านเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี รองรับการอยู่อาศัยของคนทุกเจน พร้อมเชื่อมโยงบริการทางการแพทย์ครบวงจรและการบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มาให้ลูกบ้านถึงบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่อยู่ดี มีสุข“นายปิยะ กล่าว
นายภัคริน ทัตติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า พฤกษาเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่ดีมีผลต่อการใช้ชีวิต จุดมุ่งหมายสำคัญของพฤกษาจึงไม่ใช่แค่เพียงการสร้างบ้าน แต่คือการส่งมอบความ “อยู่ดี มีสุข” ให้กับทุกคน เราจึงพัฒนาโครงการ ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น โดยคำนึงถึงสุขภาพ ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัยเป็นหัวใจสำคัญ เชื่อมโยงเรื่องของสุขภาพ (Health) ให้เข้ากับการใช้ชีวิตในบ้าน (Home) ผ่าน Design, Facilities, Service ต่าง ๆ ตลอดจนการออกแบบบ้านและพื้นที่ส่วนกลางให้สอดคล้องกับฟังก์ชัน “อยู่ดี” โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิมุต ร่วมกับการใช้ Universal Design Concept ทำให้ทุก ๆ พื้นที่ในบ้านมีความปลอดภัยกับทุกคน พร้อมนำนวัตกรรม เทคโนโลยี การบริการดูแลสุขภาพและการบริการระดับพรีเมียมเข้ามาใช้ เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิต “มีสุข” ได้ทุกพื้นที่
"ไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น"เสนอความหรูหรา สง่างาม สะท้อนตัวตนและความภาคภูมิใจของผู้อยู่อาศัย ผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ British Timeless Elegance บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่ใช้ประตูหน้าต่างที่สูงโปร่งมองเห็น British Backyard สวนหลังบ้าน เปิดรับบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลายได้ทุกเวลา เชื่อมโยงด้วยฟังก์ชันบ้านที่รองรับทุกขนาดครอบครัว พร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ 3 ชั้น ที่รองรับกิจกรรมมากมาย มีครบทั้ง Kid zone, Senior zone และ Wellness Room ทั้งยังมอบความสะดวกสบายด้านการอยู่อาศัยและด้านการพักผ่อน จากโซลูชั่นและบริการที่คัดสรรพิเศษมาให้ผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะ อาทิ
1) Health to Home: ร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต จัดเต็มดูแลด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตแบบครบวงจร ที่พร้อมดูแลสุขภาพกายใจของลูกบ้าน เช่น บริการแพทย์เยี่ยมตรวจที่โครงการ การจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้านที่โครงการ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (ViMUT App)
2) Concierge Service: บริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะมาช่วยจัดการ ทั้งเรื่องบ้าน การใช้ชีวิต ตลอดจนเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยทุก ๆ ด้าน เช่น จัดหาแม่บ้านทำความสะอาด จองโต๊ะร้านอาหาร จองตั๋วเครื่องบิน
3) Innovation: ส่งเสริมการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ด้วยหน้าต่างสูงโปร่ง และสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยจุดติดตั้ง EV Charging ทุกหลัง พร้อมนำแพลตฟอร์ม MyHuas มาควบคุมระบบ Home Automation ที่สร้างความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
ด้าน แพทย์หญิงกอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า การสร้างสุขภาพดีทั้งกายและใจนั้นสามารถเริ่มต้นได้ที่บ้าน การผนึกพลังร่วมกันของพฤกษา และกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต จึงเป็นการร่วมคิด นำเสนอไอเดียดีไซน์เพิ่มเติมในจุดที่คิดว่าสามารถช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายขึ้น และเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น ภายใต้กรอบแนวคิด “อยู่ดี มีสุข” ที่ยึดถือร่วมกัน ผ่านการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการทางการแพทย์เข้ามาสนับสนุน ซึ่งเชื่อมั่นว่าทั้งรูปแบบบ้าน ส่วนกลาง และบริการสุขภาพ จะสร้างความสุขและมอบความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการไพนน์ เวลเนส เรสซิเดนซ์ ประชาชื่น ได้อย่างแน่นอน