news-details
Business

“เซ็นทรัล ภูเก็ต” ตอกย้ำความสำเร็จ 6 ปี รวบรวม 14 แบรนด์หรูมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งเป้าขยายพื้นที่ Luxury Zone อีก 4 เท่าภายในปี 2026

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฉลองความสำเร็จกว่าครึ่งทศวรรษ ตอกย้ำการเป็น The World’s Luxury Magnitude ที่สมบูรณ์สุดใจกลางเมืองชายทะเลระดับโลก รวบรวม 14 แบรนด์หรูระดับโลก พร้อมมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้อย่างครบทุกมิติ โดยลักชัวรีแบรนด์เปิดใหม่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ Luxury Zone อีก 4 เท่าภายในปี 2026 เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ 

 

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN  เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของเซ็นทรัลพัฒนาในการบุกเบิกสร้างเมืองใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต อยู่คู่กับคนในจังหวัดและเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตมาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งได้เห็นถึงศักยภาพของเมืองและกำลังซื้อมหาศาล จึงได้เปิดให้บริการเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้าในปี 2018 เพื่อรองรับ Luxury Lifestyle เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า, ซานโตรินี, ไมอามี่บีช และฮาวาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่เราวางไว้หลายปีก่อนที่จะทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น The World’s Luxury Magnitude นั้น สอดคล้องกับการพัฒนาของเมือง และตอบรับแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการพัฒนาให้ภูเก็ตเป็น Top Destination for Global Jetsetter” ดึงดูดกำลังซื้อสูงทั่วโลก โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ที่เป็น World-class luxury mall แห่งเดียวใจกลางภูเก็ตด้วยแบรนด์ลักชัวรีระดับโลกมากมาย และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก “Quantity to Quality spending”ซึ่งเป็นนโยบายที่ทั้งภาครัฐ-เอกชนจะร่วมกันทำให้ภูเก็ต ไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เที่ยวได้-จับจ่ายได้ตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันศูนย์การค้าเติบโตต่อเนื่อง และมีทราฟฟิกดีกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 30%” 

นางสาววิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขาภูเก็ต บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ภูเก็ต นับเป็นจังหวัดที่สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ*  ในปี 2566 ภูเก็ตสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดถึง 380,000 ล้านบาท และในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวที่ 450,000 ล้านบาท โดยสิ้นปีนี้ คาดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน คิดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ* ซึ่ง ภูเก็ต ถือเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ หรือ Asia’s Richest Beach Residential ด้วย Infrastructure ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทั้งแผนขยายสนามบินภูเก็ต เฟส 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล, โรงเรียนนานาชาติ, ท่าเรือยอร์ช, สนามกอล์ฟ และ Private Jet เป็นต้น และเซ็นทรัล ภูเก็ต จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มเมืองตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็น Hub ระดับโลกในหลายมิติ อาทิ Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, education, Smart city, Marina และ MICE อีกด้วย”

3 กลยุทธ์แห่งความสำเร็จที่ทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น The World’s Luxury Magnitude

กลยุทธ์ที่ 1: Exhibition of World-Class Luxury Brands

-รวม 14 แบรนด์หรูชั้นนำ ครบที่สุดนอกกรุงเทพฯ ตอกย้ำเดสติเนชั่นสำคัญที่แบรนด์ดังเลือกปักหมุด ได้แก่ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE และ ZEGNA รวมถึง PRADA ที่เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้

-Exclusive Beach Collection: รวม Exclusive item ที่จะมีแค่ในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลกอย่าง ซานโตรินี ไมอามี่บีช ริเวียร่า ฮาวาย ซิดนีย์ ดูไบ ฮ่องกง

-ยอดขายดี ติดอันดับโลกโดยหลายแบรนด์ประสบความสำเร็จมียอดขายติดอันดับสูงสุดที่เซ็นทรัล ภูเก็ต และในบางสินค้าสามารถทำยอดขายติดอันดับเป็น Top Rank ของโลก

-Store Expansion: หลายแบรนด์เตรียมขยายพื้นที่ร้านเกือบเท่าตัวภายในปลายปี 67 และจะมีแบรนด์ที่เตรียมจะเพิ่มขนาดร้านค้าให้ใหญ่กว่าเดิม 

-Luxury Zone Expansion: เซ็นทรัล ภูเก็ต เตรียมขยายพื้นที่โซนลักซูรี จากปัจจุบัน 2,000 ตร.ม. เป็น 8,000 ตร.ม. ในปี 2026 (4 เท่า) เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ

ทั้งนี้ฐานข้อมูล The1 ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าของเซ็นทรัล ภูเก็ต มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศ โดยลูกค้า Wealth Segment ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth ของสาขาอื่นๆ ถึง 45% สะท้อนการเติบโตของตลาดสินค้าลักซูรีในไทยที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยตลาด Luxury ไทยขยายตัวถึง 5.62% จนถึงปี 2028 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์

กลยุทธ์ที่ 2: Experience the Exceptional :

 เซ็นทรัล ภูเก็ต มอบประสบการณ์ระดับไฮเอนด์ที่ดีไซน์เฉพาะกลุ่มลูกค้า VVIP อาทิ Club ที่มี Luxury Services สำหรับ VVIP ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกระดับ Tycoon & Millionaire กว่า 2,300 คน ที่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ Butler แห่งแรกในไทย, บริการ Luxe Limo Service และ Excusive Dining ที่ Su Va Na Restaurant เป็นต้น

-The Ultimate Dining Experience จากร้านดังมากมาย อาทิ Su Va Na Restaurant เพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับอาหารเลิศรสจากเชฟชื่อดังอย่าง “Chef Atanu” ทีมเชฟที่รังสรรค์เมนูรสชาติสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร Fine Dining จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ท่ามกลางบรรยากาศใต้น้ำแห่งเดียวในไทยที่เพิ่งได้รางวัล ‘TOP25 Restaurants Awards Phuket 2023’ และล่าสุด ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงเป็น Top 3 ร้านอาหารใต้น้ำที่ดีที่สุด แข่งขันกับ ดูไบ กับ นอร์เวย์, ร้าน Thai Brasserie By Blue Elephant ที่ได้รับการออกแบบร่วมสมัย และมีชีวิตชีวาพร้อมกับอาหารไทยที่สร้างสรรค์ โดยเชฟชื่อดังภายใต้การดูแลของเชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ มาสเตอร์เชฟของบลู เอเลเฟ่นท์, Starbucks Reserve ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต รวมไปถึง %Arabica และ Haidilao สาขาแรกนอกกรุงเทพฯ

-World-class Attraction เพลิดเพลินกับ Aquaria Phuket อควาเรียมล้ำสมัยที่ดีที่สุดในภูเก็ตและเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายล้อมไปด้วยสัตว์ทะเลกว่า 25,000 ตัว และ ‘Tales of Thailand’ จำลองสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตชาวไทยทั้ง 4 ภาค ในรูปแบบร่วมสมัย โดยมี ไฮไลท์คือตลาดน้ำจำลองขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย และยังมีร้าน ‘Good Goods’ จำหน่ายสินค้าสะท้อนเอกลักษณ์ไทย

-Exquisite Design การออกแบบที่ผสมผสานเรื่องราวของวรรณคดีและงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและเสน่ห์ของเมืองภูเก็ต ภายในศูนย์การค้า จึงมี Photo Attraction หลายจุดที่น่าดึงดูด เช่น “Cocoon” ส่วนโค้งของโครงเพดานที่ได้แรงบันดาลใจจากวิถีประมงและมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส “The Great Epic”จำลองประติมากรรมจากเรื่องรามเกียรติ์ นำเสนอการต่อสู้ระหว่างพระรามและทศกัณฐ์ ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 ชั้น และ “Rakang” หรือระฆังที่ออกแบบให้มีสัดส่วนอิงตามแบบโบราณ พร้อมกับมีความร่วมสมัย

นอกจากนี้เซ็นทรัลภูเก็ต ยังรวมแบรนด์ Lifestyle ระดับโลกที่ขยายสาขาออกนอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เช่น COACH, KATE SPADE, KENZO, MICHAEL KORS, SAMSONITE, LUSH เป็นต้น

กลยุทธ์ที่ 3: Excite the World

สร้างสรรค์อีเวนต์และเทศกาลระดับโลกจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น เทศกาลสงกรานต์, Pride Month, Countdown และยังรวมไปถึง Art exhibition ที่รวบรวมศิลปินแถวหน้าจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพิ่มสีสันทุกเดือน ให้ภูเก็ตเป็น Art Destination Landmarks

ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็น Hub ระดับโลกในหลายด้าน อาทิ Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, education, Smart city, Marina และ MICE อีกด้วย

ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีการลงทุนในภูเก็ตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 4 ศูนย์การค้า, 5 ห้างสรรพสินค้า, 7 โรงแรม, 3 คอนโดมิเนียม รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่ม อาทิ  ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, Tops Food Hall, Tops Market, Tops Daily, Tops Vita เป็นต้น และเซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าในภาคใต้ รวมทั้งหมด 5 แห่ง คือ เซ็นทรัล ภูเก็ต, สมุย, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และหาดใหญ่

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางที่มากกว่าการใช้ชีวิตและการช้อปปิ้ง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่ 1 องค์กรยั่งยืนระดับโลก และผู้บริหารธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ

 

You can share this post!