news-details
Business

“เครือสหพัฒน์” ผนึก “สกายไดร์ฟ” ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เปิดมิติใหม่การจราจรทางอากาศ ตั้งเป้าขยายฐานการผลิตในไทย

“เครือสหพัฒน์” มุ่งสร้างความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อม เดินหน้าผนึกความร่วมมือกับ “สกายไดร์ฟ” ผู้นำนวัตกรรมอากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงในแนวดิ่งจากญี่ปุ่น ร่วมศึกษาและพัฒนาอากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงในแนวดิ่งในประเทศไทย หวังเปิดมิติใหม่ของการจราจรทางอากาศ ตั้งเป้าขยายฐานการผลิตมาไทย

 

นายวิชัย กุลสมภพ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI  เปิดเผยว่า SPI ในฐานะผู้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมทั้ง 4 แห่งของเครือสหพัฒน์ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยลดการสร้างมลภาวะเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ที่ผ่านมา SPI ได้รับการส่งเสริมจากบริษัทญี่ปุ่นให้มีการขยายฐานการผลิตมายังนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ภาคการขนส่งเติบโตขึ้น มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ได้ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะจากการเดินทางและการขนส่งด้วย SPI จึงมีแนวคิดที่จะปรับรูปแบบการเดินทางให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ที่สำคัญต้องลดการสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม โดยเล็งเห็นว่าการเดินทางทางอากาศด้วยอากาศยานไฟฟ้าจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ และสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆในเครือฯได้ จึงเกิดความร่วมมือระหว่าง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI  บริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด (STK) และ SkyDrive Inc.

โดยทั้ง 3 บริษัท ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจใหม่ โดยใช้อากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงในแนวดิ่ง (Electric vertical take-off and landing : eVTOL) ของสกายไดร์ฟ ในประเทศไทย รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทยด้วย เนื่องจากมีความเหมาะสมทั้งด้านค่าแรง วัตถุดิบ และชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้

 

นายโตโมฮิโระ ฟูกูซาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SkyDrive Inc กล่าวว่า สกายไดร์ฟเป็นผู้วิจัย พัฒนา และผลิต eVTOL ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงการคมนาคมในเมือง แก้ไขปัญหาการเดินทาง เพื่อสร้างอนาคตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการเดินทางในชีวิตประจำวันด้วย eVTOL ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

“ความร่วมมือระหว่างสกายไดร์ฟ กับ SPI และ STK ในครั้งนี้ จะมีการร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้งาน eVTOL ของสกายไดร์ฟ เพื่อใช้เดินทางทางอากาศในศรีราชา พัทยา และภูเก็ต รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น การนำข้อมูลและผลการศึกษาการใช้งานไปต่อยอดการใช้งาน eVTOL ที่ประเทศญี่ปุ่น และธุรกิจแท็กซี่ทางอากาศ (Air taxi) โดยอาศัยเครือข่ายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ STK ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นและพัฒนาสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง และบริการที่ดีที่สุดสำหรับชาวญี่ปุ่นและครอบครัว ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี” นายโตโมฮิโระ กล่าวในที่สุด

                                                           

 

You can share this post!