news-details
Business

“สุริยะ” ห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต สั่ง “ทล. - ทช.” เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด

“สุริยะ” ห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด มอบหมาย “ทล. - ทช.” เร่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลุยติดตั้งป้ายเตือน - ป้ายแนะนำทางเลี่ยง พร้อมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (29 มิถุนายน 2567) ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบกับน้ำป่าไหลหลากมาจากเทือกเขาและระบายไม่ทัน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วม) ในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางนั้น ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่โดยด่วน เพื่ออำนวยความสะดวก และติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง (ชม.) เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล รวมถึงดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนหากเกิดสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการป้องกัน (ก่อนเกิดภัย) การเผชิญเหตุ (ขณะเกิดภัย) และขั้นการฟื้นฟู (หลังเกิดภัย) นำไปสู่การบรรเทา แก้ไข หรือคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย

ด้านหน่วยงาน ทล. ได้จัดตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังน้ำท่วมแล้ว โดยมีนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รอง อทล. เป็นผู้บัญชาการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ปัจจุบันไม่ได้มีการสั่งปิดการจราจร แต่มีการติดตั้งป้ายจราจรปิดเบี่ยงในพื้นที่ขาเข้าบริเวณสถานีน้ำมัน ปตท. ป่าครองชีพ เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงให้รถเล็กสามารถใช้เส้นทางดังกล่าว รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่น้ำท่วมขัง บริเวณ ทล.402 หรือถนนเทพกระษัตรี ระหว่าง กม. ที่ 27+000 - 27+100 ฝั่งขาเข้า พื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยน้ำไหลท่วมช่องจราจรทั้ง 2 ช่อง (ฝั่งขาออก) ทำให้รถเล็ก ไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่บริเวณ กม. ที่ 26+100 มีน้ำท่วมขังประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร

ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากปริมาณน้ำระบายออกจากปลายท่อไม่ทัน ส่งผลให้ทะลักย้อนออกมาท่วมผิวจราจรต้องรอระบายเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และดำเนินการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทำการเปิดช่องทางสวนพิเศษให้รถวิ่งสวนทางกันบนทางหลวงในฝั่งขาเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และระบายปริมาณการจราจรออก รวมทั้งได้ทำการช่วยเหลือรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่ประสบปัญหาในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด คาดว่าวันนี้ (30 มิถุนายน 2567) หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มปริมาณน้ำอีก เชื่อว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ปริมาณ น้ำท่วมขังจะลดลงอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันยังได้มีการเฝ้าระวังในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ จังหวัดพังงา ด้วยเช่นกัน

ขณะที่ ทช. ได้รายงานว่าขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าเข้าตรวจสอบและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยเฉพาะบริเวณที่การสัญจรมีน้ำขังผิวจราจร ซึ่งส่งผลต่อการเดินทางของประชาชน สำหรับบริเวณที่มีน้ำท่วมผิวจราจรในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ ทางหลวงชนบทสาย ภก.3030 แยก ทล.402 (กม. ที่ 10+600) - บ้านกะทู้ อำเภอถลาง และกะทู้ เป็นต้น ขณะที่ กม. ที่ 3+300 กม. ที่ 7+200 และ กม. ที่ 10+250 มีน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แต่ล่าสุดเข้าสู่ขั้นตอนของรอการระบายแล้ว ส่วนเส้นทางอื่น ๆ หน่วยงานได้เร่งจัดทำแผนเชิงรุกเพื่อลงพื้นที่เข้าบริหารจัดการสถานการณ์ รวมทั้งได้เร่งดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่เข้าอำนวยความสะดวกทุกพื้นที่ พร้อมแนะนำเส้นทางลัดทางเลี่ยงให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจรรับทราบ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยทุกการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานเกี่ยวเกี่ยวข้อง พร้อมที่จะเข้าดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าว เกิดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน แต่หากมีสถานการณ์ผิดปกติ จะเร่งส่งหน่วยงานเข้าลงพื้นที่และเร่งจัดการโดยทันที พร้อมกันนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูล การเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 และสายด่วน ทช. โทร. 1146

You can share this post!