รัฐมนตรีกระทรวง DE ชมการทดลองพัฒนาระบบ CBS ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม-แสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหาในสังคมปัจจุบัน เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพิ่งศักยภาพประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยเทียบเท่าระดับนานาประเทศ ด้านทรูฯ เผยได้จัดการทดสอบล้ำหน้าไปอีกระดับกับ “LIVE – Cell Broadcast Service” ผ่านเสาสัญญาณจริง ให้ผู้ใช้งานมือถือทั้งทรู-ดีแทคในพื้นที่ได้รับประสบการณ์แจ้งเตือนภัยจริงครั้งแรกในประเทศไทย ชู 5 จุดเด่นสำคัญ สามารถตั้ง 5 ระดับการเตือนตามฟังก์ชั่นการใช้งาน-ร่วมมือกับภาครัฐ มั่นใจส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน-ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทยระยะยาว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Ministry of Digital Economy and Society: DE) เปิดเผยว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับคนไทยด้วย ที่ประเทศไทยกำลังจะมีระบบ รักษาความปลอดภัยแจ้งเตือนภัยที่เป็นประโยชน์ในเรื่องชีวิต และ ทรัพย์สินของประชาชน เพราะฉะนั้นวันนี้การทดลองพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service หรือ CBS ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือว่าเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมและแสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหาในสังคมปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นแล้วกระทรวง DE ได้ทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานขึ้นมาและมีการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยด้วย รวมถึงปัจจุบันก็มีการหารือกันในกระทรวง DE ถึงเรื่องที่ สภาผู้แทนราษฎร ในการทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ซับซ้อนในการทำงานด้วยกัน และดำเนินการอย่างไรให้การเมืองไทยเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งใน 1-2 วันนี้ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวง DE จะมีการเจรจากันและมีการพูดถึงแบ่งระดับการเตือนภัยร่วมกัน โดยจะมีการรวบรวมระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่ามีหน่วยงานไหนบ้างที่มีความจำเป็นต้องเตือนภัย
ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีจำนวนอย่างน้อย 14 หน่วยงาน ที่จะต้องทำงานร่วมกันและเตือนภัยไปยังประชาชน โดยมีความคิดคล้ายๆกับระบบการทดลองในวันนี้( 3 ก.ค.67)ของทรู ที่เตือนภายใน 5 ระดับ ทั้งระบบเสียง และระบบสั่น ที่แต่ละระดับจะแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นระบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ ถือเป็นระบบที่ดี และมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งทุกคนคงไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่มาทำร้ายชีวิตอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องบูรณาการงานร่วมกัน ต้องขอบคุณทางกสทช. ที่มีความกรุณากระทรวง DE ทุกครั้ง และต้องขอบคุณทางทรู ที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวง DE ทุกครั้งเช่นกัน ถือว่ามีเป้าหมายที่เหมือนกันอ คือทำอย่างไรให้ชีวิตของประชาชนทุกคนมีความปลอดภัย และใช้ชีวิตมีความสุข วันนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม ทำให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้เทียบเท่าระดับนานาประเทศต่อไป
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวว่า บริษัทฯได้จัดการทดสอบล้ำหน้าไปอีกระดับกับ “LIVE – Cell Broadcast Service” ผ่านเสาสัญญาณจริง ให้ผู้ใช้งานมือถือทั้งทรู และดีแทคในพื้นที่ได้รับประสบการณ์แจ้งเตือนภัยจริงครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้พัฒนาระบบ Cell Broadcast Service หรือ CBS ไปอีกขั้นด้วยการนำมาทดสอบการใช้จริง ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินที่ทั่วโลกใช้งานที่สามารถส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการทุกเครื่อง ทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพร้อมกันทันที และแม่นยำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ระบบ CBS จะมีทั้งสัญญาณเสียง และข้อความที่แสดง (Pop up) บนหน้าจอ และรองรับ Text to Speech เทคโนโลยีช่วยเหลือที่อ่านออกเสียงข้อความทำให้มีประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนแก่ผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็นอีกด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยประสบภัยพิบัติทั้งจากภัยธรรมชาติ อุบัติภัย และภัยจากคนร้าย ส่งผลให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ยิ่งทำให้ภัยธรรมชาติรุนแรงและถี่ขึ้น โดยปัจจุบันเราเข้าสู่ยุค “โลกเดือด” หรือ “Global Boiling” ซึ่งอาจนำมาสู่ภัยคุกคามและผลกระทบที่คาดไม่ถึง ด้วยความตระหนักถึงภัยคุกคามเหล่านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 50 ล้านเลขหมาย จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา ในการพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service หรือ CBS ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน โดยทรู คอร์ปอเรชั่นทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast ในห้องทดสอบปฏิบัติการ (Lab test) เป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 โดยมีจุดเด่นสำคัญหลายประการ ได้แก่
1.รองรับทุกภาษา: ระบบสามารถออกแบบการแจ้งเตือนได้ทุกภาษาและออกแบบส่งพร้อมกันได้ทันที โดยทดสอบแล้ว 5 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย
2.รวดเร็ว: สามารถส่งข้อความเตือนภัยได้อย่างรวดเร็วทันทีที่เกิดเหตุ
3.แม่นยำ: สามารถกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการส่งข้อความได้อย่างแม่นยำ
4.ครอบคลุม: สามารถส่งข้อความถึงผู้ใช้บริการทุกคนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
5.น่าเชื่อถือ: เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับและใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก
“การพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service นี้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่ 11 ว่าด้วยการทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทาน และยั่งยืน”นายมนัสส์ กล่าว
ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast ของทรู คอร์ปอเรชั่นสามารถตั้งระดับการเตือน 5 ระดับตามฟังก์ชั่นการใช้งานและร่วมมือกับภาครัฐ ประกอบด้วย
1.การแจ้งเตือนระดับชาติ (National Alert): การแจ้งเตือนระดับสูงสุด ความสำคัญมากสุด และทุกคนในทุกพื้นที่เสาสัญญาณครอบคลุมจะทราบเหตุทันที
2.การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert): การแจ้งเตือนภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน หรือภัยจากคนร้าย เป็นต้น
3.การแจ้งเตือนคนหาย (Amber Alert): ระบบตั้งเตือนข้อมูลเมื่อมีเด็กหายหรือคนหาย รวมทั้งการลักพาตัวเพื่อให้ประชาชนทราบข่าวเฝ้าระวังและช่วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสังเกตุการณ์และรายงานถ้าพบคนหายหรือคนร้าย
4.ความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety): ระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยสาธารณะในพื้นที่หรือการเฝ้าระวังกรณีแจ้งคนที่อยู่อาศัย ชุมชน และผู้สัญจรผ่านพื้นที่นั้น
5.การแจ้งเตือนทดสอบ (Test Alert): ระบบทดสอบการแจ้งเตือนตามวัตถุประสงค์เฉพาะกิจต่างๆ โดยสามารถใช้งานเพื่อทดสอบก่อนขยายผลสู่การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนในระดับต่างๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นยังได้พัฒนาศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ Business and Network Intelligence Center (BNIC) ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการเมื่อเกิดภัยพิบัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากกว่า 50 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบ CBS ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“ทรู คอร์ปอเรชั่นมีความเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เราจะสามารถสร้างสังคมที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเตือนภัยของประเทศไทย เราหวังว่าระบบนี้จะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยระบบดังกล่าวในช่วงแรกจะใช้ได้กับระบบแอนดรอยด์ ส่วนระบบ IOS ยังไม่สามารถรองรับได้” นายมนัสส์ กล่าว
ทั้งนี้การทดสอบอีกระดับของ “LIVE – Cell Broadcast Service” ที่แจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านมือถือกับผู้ใช้งานจริงครั้งแรกในไทยโดยทรู คอร์ปอเรชั่น นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเตือนภัยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ และเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทยในระยะยาว