news-details
Business

นิปปอนเพนต์ชู GREEN PLAN สู่วาระขับเคลื่อนองค์กร มุ่งเป้าพันธกิจ Net Zero ปี 2050 พร้อม 40 แบรนด์เพิ่มกรีน การันตีด้วย CFP

ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทุกวันนี้ สั่นคลอนการดำรงอยู่ของทุกสรรพสิ่งบนโลก ทำให้ทั่วโลกต่างตระหนักและเร่งหาทางแก้ไขและป้องกัน ‘นิปปอนเพนต์’ ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชียและอันดับ 4 ของโลก ได้ตระหนักถึงสภาวะการณ์และเล็งเห็นถึงผลกระทบดังกล่าวมาช้านาน จึงขอร่วมแสดงจุดยืน โดยเปิดเผยพันธกิจสำคัญ มุ่งหน้าสู่ Net Zero อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2050 ด้วย “GREEN PLAN หรือ แผนสีเขียว” เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อนจากการใช้พลังงานในการผลิต

โรดแมปสู่ Net Zero ในปี 2050
‘นิปปอนเพนต์’ ยึดหลักการดำเนินการตามแผนสีเขียว GREEN PLAN ซึ่งประกอบด้วย Green Process และ Green Product ที่สอดคล้องกับหลัก Sustainability สากล ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) ผู้คน-สังคม (Social) และ เศรษฐกิจ (Economy) นอกจากนี้ยังขยายความสำคัญให้ครอบคลุมอีก 2 ข้อ ทั้ง นวัตกรรม (Innovation) และ ผู้บริโภค (Customers) โดยทั้งหมดสอดผสานไปกับหลัก UNSDGs 9 ข้อ ผนวกเป็นกลยุทธ์ “Smart Framework” ที่ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการประกอบธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ แต่ยังส่งเสริมและผลักดันวัฒนธรรมการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านความเท่าเทียมในองค์กร โดยมุ่งหวังให้เป็นวาระสำคัญ เพื่อนำไปสู่ Net Zero อย่างเต็มรูปแบบในปี 2050

กระบวนการโรงงานสีเขียว (Green Process)
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงที่สถานประกอบการภายใต้ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 ด้วยยุทธศาสตร์ต่อไปนี้

1. ยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน
ได้แก่ การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงานผลิตสี (Solar Roof) เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไปแล้วกว่า 600,000 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งเทียบเท่าการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากการปลูกต้นไม้กว่า 60,000 ต้น โดยพลังงานทางเลือกจากโซลาร์เซลส์สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานได้กว่า 1.4MW ต่อปี และเปลี่ยนมาใช้รถยกที่ใช้แบตเตอรี่แทนรถที่ใช้น้ำมันดีเซล เป็นต้น

2. ยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์น้ำ
น้ำถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญมากสำหรับกระบวนการผลิต ‘นิปปอนเพนต์’ มุ่งส่งเสริมกิจกรรมการบำบัดน้ำเสียภายในองค์กรอย่างเคร่งครัด โดยนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดอย่างถูกต้องแล้วกลับมาใช้ใหม่ คาดการณ์ว่าสามารถลดการใช้น้ำกว่า 840,000 ลิตรต่อปี เทียบเท่าการกดโถสุขภัณฑ์กว่า 70,000 ครั้ง และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบำบัดน้ำเสียทั้งหมดที่ออกจากโรงงาน ‘นิปปอนเพนต์’ ยังได้ติดตั้งชุดทดสอบดินและการรั่วไหลเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนบริเวณโดยรอบและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ‘นิปปอนเพนต์’ มีข้อกำหนดในการบำบัดน้ำเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำเสีย ได้แก่

- น้ำที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้
น้ำดังกล่าวจะถูกกำจัดตามประเภทของขยะอุตสาหกรรมและกักเก็บโดยผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาต เพื่อบำบัดเพิ่มเติมตามกฎหมายท้องถิ่น

- น้ำที่ต้องบำบัดก่อนกำจัด
น้ำจากห้องปฏิบัติการจะได้รับการบำบัดในแทงก์เจือจาง และทดสอบโดยผู้ประเมินในหน่วยงานก่อนที่จะปล่อยออกเป็นน้ำเสียสาธารณะ

- น้ำที่สามารถกำจัดได้โดยตรง
น้ำจากห้องน้ำและอ่างล้างมือ จะเชื่อมโยงโดยตรงกับท่อน้ำเสียสาธารณะ

3. ยุทธศาสตร์ด้านการลดมลพิษทางอากาศ
ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ Dust Collector เพื่อเป็นอุปกรณ์เก็บฝุ่น และนำฝุ่นภายในโรงงานกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต ด้วยวิธีนี้สามารถลดปริมาณฝุ่นได้ 3,000 กิโลกรัมต่อปี

4. ยุทธศาสตร์ด้านการกำจัดของเสีย
วิธีการกำจัดของเสียจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของขยะ เช่น วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ จะถูกนำมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลโดยบริษัทผู้รับเหมาที่ถูกต้อง หรือดำเนินการเองภายในองค์กร นอกจากนี้ ‘นิปปอนเพนต์’ ยังใส่ใจเรื่องการกำจัดขยะ ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะหรือการติดฉลากแนะนำวิธีการกำจัดอย่างถูกวิธี ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ประเมินผลกระทบเพื่อระบุและติดตามต้นกำเนิดของของเสีย ภายใต้มาตรฐาน ISO: 14001 และกฎหมายการกำจัดของเสียในท้องถิ่น เพื่อกำหนดขั้นตอนในการจัดการของเสียให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ระบบสีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Process and Green Product)
ระบบสีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีคุณภาพสูงของ ‘นิปปอนเพนต์’ นอกจากจะถูกคิดค้นและพัฒนาจากความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริงแล้ว ยังมุ่งหวังในการปล่อยคาร์บอนต่ำ ด้วยวิธีการดังนี้

1. ระบบสีเพื่อลด Embodied Carbon ผ่านการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ พร้อมโซลูชั่นลดคาร์บอนตั้งแต่ก่อสร้าง ลดขั้นตอนและเพิ่มคุณค่าในการทำงาน พร้อมทั้งลด Operation Carbon ด้วยเทคโนโลยีสีประหยัดพลังงาน ลดอุณหภูมิ ลดค่าไฟ รับรองฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง สีทนทานยาวนาน เพิ่มอายุให้อาคาร ลดการปล่อยคาร์บอนจากการปรับปรุงอาคาร

2. นวัตกรรมสีสร้างความยั่งยืน การันตีด้วยฉลากสีปลอดภัย หรือ GREEN CHOICE ไร้กลิ่นฉุน (Low VOCs) ช่วยเพิ่มคะแนน LEED v4.1 และ WELL v2 ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพิ่ม Productivity ในการทำงาน ยกระดับอุตสาหกรรมสีในประเทศไทย พร้อมนวัตกรรมช่วยลดของเสียในไซต์งาน ลดฝุ่นในการทำงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังเสริมแกร่งด้วย 40 แบรนด์ของผลิตภัณฑ์สีจาก ‘นิปปอนเพนต์’ ที่ได้รับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ CFP อันแสดงถึงปริมาณคาร์บอนที่ถูกปล่อยจากการจัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน การขนส่ง และการจำกัดของเสีย

แคมเปญแสดงเจตจำนงค์ด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุด: คืนโลกให้น่าอยู่ (Revitalize the world)
‘นิปปอนเพนต์’ ปล่อยแคมเปญภายใต้สโลแกน “นิปปอนเพนต์ : คืนโลกให้น่าอยู่” โดยคอนเซ็ปต์เกิดจากเจตนารมย์ของ ‘นิปปอนเพนต์’ ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ถ่ายทอดผ่านสีสัน ความสวยงามของธรรมชาติ ที่เปรียบเสมือนสวรรค์ที่มนุษย์ฝันใฝ่ เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย แหล่งน้ำสะอาดที่ดื่มได้ทุกเมื่อ แต่โลกที่เราเห็นในปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้น อากาศที่ร้อนขึ้น และมลพิษที่เราต้องเผชิญทุกวัน นำไปสู่กลยุทธ์การมอบโลกที่น่าอยู่ สดใสอีกครั้งให้กับผู้คนโดยรอบ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายทั้ง B2B และ B2C ตระหนักถึงความสำคัญ ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อช่วยลด Climate Change สร้างความยั่งยืนและเท่าเทียม

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจมุ่งหน้าสู่ Net Zero อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2050 ‘นิปปอนเพนต์’ ยังคงตั้งมั่นตามพันธกิจดังกล่าวอย่างไม่ลดละ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งโลกที่ยั่งยืนเพื่อเราทุกคน

You can share this post!