“กลุ่มธรรมสรณ์” ประกาศ“ดอสไลฟ์” ยืนหนึ่งผู้นำตลาดถังเก็บน้ำคุณภาพ ครองส่วนแบ่งกว่า 80% จากมูลค่าตลาดรวม 6,000 ล้านบาท รับภาพรวมตลาดปี 67 ชะลอตัวจากหลากปัจจัยลบ ส่งผลยอดขายกทม.-ปริมณฑล หาย 20-30% คาดการณ์ปีนี้ยอดขายรวมหล่นวูบเหลือ 10% ผลจากยอดโอนบ้านไม่ขยับ ผู้ประกอบการเลื่อนผุดโครงการใหม่ ล่าสุดดันบิ๊กโปรเจกต์แห่งปี “AMAZING DOS ห่วงใยไม่สิ้นสุด ใส่ใจไม่เคยหยุด” ที่ถ่ายทอดผ่านสมาชิก DOS Family ทั้ง 6 คน นำโดย พ่อพ่อบีม หม่ามี๊ออย พี่พีร์ พี่ธีร์ น้องอัญญา และน้องอัยวา พร้อมส่ง บทเพลง “Amazing Love By DOS Life” เพื่อสร้าง Brand loyalty ที่ร่วมถ่ายทอดความหมายของบทเพลงโดยศิลปิน No One Else ที่มี พ่อพ่อบีม มาร่วม featuring ด้วย
นายดิศนิติ โตวิวัฒน์ กรรมการ-รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถังเก็บน้ำคุณภาพแบรนด์ “ดอสไลฟ์” (DOS Life) เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำในไทยว่า ปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดย DOS Life ถือเป็นผู้นำอันดัน 1 มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดดังกล่าวมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 18% โดยเป็นการจำหน่ายผ่านโครงการบ้านจัดสรรในสัดส่วนกว่า 30% ซึ่งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยล้วนใช้บริการของบริษัทฯแทบทั้งหมด รองลงมาเป็นการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ สัดส่วนกว่า 30% และจำหน่ายผ่านรีเทล สัดส่วนกว่า 30% แบ่งเป็นตลาดในกทม.สัดส่วน 40% และตลาดต่างจังหวัด 60% ซึ่งตลาดภาคกลางสามารถทำยอดขายได้ดีที่สุด โดยเฉพาะตลาดพรีเมียม
ทั้งนี้ในจำนวนยอดขายเมื่อปีที่ผ่านมา จะแยกเป็นยอดขายในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% โดยเน้นทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านดีลเลอร์ในประเทศนั้นๆได้แก่ สปป.ลาว,กัมพูชา,มาเลเซียและอินโดนีเซีย
สำหรับในปี 2567 มองว่าภาพรวมตลาดค่อนข้างทรงตัวกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ปรับแผนด้วยการรุกพัฒนาสินค้าในเรื่องนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งล่าสุดมี 2 สีให้เลือก ขนาด 1,000-2,000 ลิตร พร้อมปั๊มน้ำในตัว ราคาประมาณ 19,000 บาท/ถัง โดยรุกเจาะตลาดบ้านระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากในครึ่งหลังของปี 2567 ยอดขายจากภาคอสังหาฯในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล ลดลงไปถึง 20-30% ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์บ้านได้ และส่วนใหญ่ก็ชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ด้วย ดังนั้นทั้งปี 2567 คาดว่ายอดขายรวมจะเติบโตประมาณ 10% โดยในครึ่งปีแรก สามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันมีโรงงานรองรับการผลิตทั้งสิ้น 6 แห่ง กระจายทั่วทุกภูมิภาค ได้แก่ สมุทสาคร,ลำพูน,ขอนแก่น,อุบลราชธานี,ภูก็ต และหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเป็นการผลิตตามยอดขาย และมีบางส่วนที่ผลิตรอออเดอร์ ซึ่งรองรับได้ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีดีลเลอร์ทั่งประเทศ ประมาณ 1,500 ราย และมีแผนที่จะขยายฐานตลาดในสปป.ลาว และกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง
“DOS Life ผู้นำด้านการจัดการเรื่องน้ำแบบครบวงจรด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งในด้านนวัตกรรมสินค้าที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างการรับรู้เกี่ยวกับจุดขายหลักในการเป็นถังน้ำสะอาดคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพราะปัจจุบันผู้บริโภคจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ทำให้ DOS Life สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้สูงถึง 18% เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตรวมของตลาดในปีที่ผ่านมา โดย
จุดแข็งของแบรนด์ DOS Life ในการดูแลน้ำ ดูแลคนสำคัญ ‘นวัตกรรมถังดอส’ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และความต้องการของตลาดอย่างในทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง” นายดิศนิติ กล่าว
และในปีนี้ DOSLIFE ตอกย้ำความนิยมจากผู้บริโภคทั่วประเทศ ด้วย 3 รางวัลชั้นนำ ทั้งรางวัล NO.1 Brand Thailand รางวัล Super Brands Thailand และThailand Most Admired brand ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับการรับรองในระดับสากล โดยในปีนี้ DOS Life ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Waterpac all in one ตอบสนองผู้บริโภคในเรื่องความสะอาดความสะอาดที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อความมั่นใจ ในผลิตภัณฑ์แบรนด์ DOSLIFE
ถังเก็บน้ำ Waterpac all in one เป็นถังเก็บน้ำ ที่มีปั๊มน้ำและเครื่องกรองน้ำใช้ พร้อมระบบ bypass ในตัว เมื่อปั๊มน้ำเสีย หรือไฟฟ้าดับก็สามารถใช้น้ำได้ อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพื่อสร้างความสุขในครอบครัวได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา DOS Velana Cool Tech Max โดดเด่นด้วยนวัตกรรมโครงสร้างวัสดุ Triple Layer และCool tech technology ซึ่งนวัตกรรมนี้สามารถทำให้อุณหภูมิน้ำในถังดอสลดลงได้ถึง 7 องศา เมื่อเทียบกับถังเก็บน้ำโดยทั่วไปในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ มีนวัตกรรม Advance Silver Combac Anti Microbial ได้ผ่านการรับรองเรื่องความะอาด ซึ่งสามารถ กำจัด ยับยั้ง ทำลาย เชื้อโคโรนาไวรัส ได้ถึง 99.92% และกำจัดแบคทีเรีย จุลินทรีย์ ได้มากถึง 99.99% โดยผ่านการทดสอบและรับรองจากสถาบันเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ Nano Tec นวัตกรรมของ DOS Life
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา DOS Life ให้ความสำคัญและมีแผนพัฒนาศักยภาพของหน่วยงาน R&D มาอย่างต่อเนื่อง โดยยึด Customer Centric เป็นจุดศูนย์กลางในการตั้งต้นแนวคิด หน่วยงาน R&D จึงเปรียบเสมือนหัวใจหลัก ที่ต้องนำ Consumer lifestyle & trend มาผสานเข้ากับ Consumer pain point และนำเสนอ Gain ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแก่กลุ่มเป้าหมายในรูปแบบ Ultra speed เมื่อทีมงานทุกคนยึดหลักการเดียวกัน เราก็เดินไปในทิศทางเดียวกันกับ Customer partner ได้อย่างยั่งยืน จนสามารถคว้ารางวัลจากหลายเวทีระดับโลกมาครอง อาทิ No. 1 Brand Thailand แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย, D Mark และ G Mark เป็นต้น
ในปี 2567 DOS Life ได้มีการสร้างสรรค์แคมเปญ “AMAZING DOS ห่วงใยไม่สิ้นสุด ใส่ใจไม่เคยหยุด” ขึ้น เพื่อตอกย้ำถึงความห่วงใยใส่ใจผู้บริโภค ที่ต้องการเลือกถังเก็บน้ำที่สะอาด สหรับครอบครัว โดยส่งผ่านเรื่องราวความห่วงใย ของพี่ธีร์น้องพีร์ ที่เคยได้รับ จากพ่อพ่อบีมและแม่ออย และในวันนี้ที่พี่ทั้งสอง ทำหน้าที่ส่งต่อความรัก ความห่วงใย ไปสู่สมาชิกใหม่ น้องสาวคู่แฝดของบ้าน น้องอัญญา อัยวา
“นอกจากกลยุทธ์การสร้าง DOS Family แล้ว ในปีนี้ ได้ใช้กลยุทธ์ Music marketing ควบคู่ไปด้วย โดยการบอกเล่า เรื่องราวผ่านบทเพลง “Amazing Love By DOS Life” ที่แต่งและร้องโดย ศิลปิน No One Else ซึ่งความพิเศษของเพลงนี้อยู่ที่การร่วมร้อง ผ่านเสียงที่อบอุ่น ของพ่อพ่อบีม เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่ถูกจดจำและเป็นแบรนด์แรกที่นึกถึง
“ทั้งนี้ DOS Life จะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมถังเก็บน้ำมาตรฐานระดับโลกส่งมอบสู่ผู้บริโภค แทนความห่วงใยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ ปี เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีสู่สังคมไทยด้วยน้ำสะอาด ให้สมกับความไว้วางใจที่ได้รับในฐานะ “ผู้นำด้านการจัดการเรื่องน้ำแบบครบวงจร” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณค่าแห่งแบรนด์ที่ว่า ‘ถังดี ต้องถัง DOS’อีกด้วย”นายดิศนิติ กล่าว
ล่าสุดได้จัดแคมเปญการตลาดระดับบิ๊กโปรเจคแห่งปี “AMAZING DOS ห่วงใยไม่สิ้นสุด ใส่ใจไม่เคยหยุด” ที่ถ่ายทอดผ่านสมาชิก DOS Family ทั้ง 6 คน นำโดย พ่อพ่อบีม หม่ามี๊ออย พี่พีร์ พี่ธีร์ น้องอัญญา และน้องอัยวา พร้อมส่ง บทเพลง “Amazing Love By DOS Life” เพื่อสร้าง Brand loyalty ที่ร่วมถ่ายทอดความหมายของบทเพลงโดยศิลปิน No One Else ที่มี พ่อพ่อบีม มาร่วม featuring ด้วย โดยผลจากการดึงบุคคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถือว่ามีผลต่อการดันยอดขายมากพอสมควร โดยเฉพาะตลาดรีเทล ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 40%