ซี.พี.แลนด์ฯเผยภาพรวมอสังหาฯปี67 ยังเผชิญความท้าทาย แนะผู้ประกอบการต้องร่มมสร้างความมั่นใจผู้บริโภค พร้อมฝากภาครัฐพิจารณาการถือครองที่ดินต่างชาติ 99 ปีอย่างรอบคอบ เปิดแผนธุรกิจอสังหาฯเน้นพัฒนาควบคู่กับห้างฯโลตัส หวังสร้างชุมชน-มูลค่าโครงการ ปี 68 หวังสัดส่วนพื้นที่กทม.-ตจว.แตะ 50:50 ภายใต้กรอบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เปิดแผนปีหน้าเล็งผุด 4 โครงการ รวมมูลค่า 4,710 ล้านบาท จ่อเข้าชิงเค้กตลาดที่อยู่อาศัย-รร.ในภูเก็ต หากเจรจาซื้อที่ดินสำเร็จ อาจสรุปผลปลายปีนี้ ล่าสุดเปิดพรีเซล “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส”เฟส 2 หลังประสบความสำเร็จจากเฟสแรก กลุ่มแพทย์แห่ซื้อบ้านหรูถึง 90% มั่นใจสินค้า ราคาและทำเล ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมมุ่งทะยานยอดขายแตะ 10,000 ล้านบาท เพื่อแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเร็วที่สุด
นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2567 นี้ว่า ต้องเผชิญหลากหลายความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะในทางเศรษฐกิจนั้นมีค่าทางดาต้าสูง คือ หากเศรษฐกิจดีภาคอสังหาก็ดี แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีภาคอสังหาฯก็จะได้รับผลกระทบก่อน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่บทท้าทายเฉพาะแค่ภาคเอกชน ซึ่งต้องรอมาตรการต่างๆของภาครัฐมาช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ เพราะถือว่าเป็นธุรกิจที่เป็นต้นน้ำ การที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตก็จะส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตตามไปด้วย เช่น วัสดุก่อสร้าง ,รับเหมาฯ ,แรงงาน,การตลาด,วงเงินกู้สินเชื่อ,ดอกเบี้ย รวมไปถึงการเติบโตของสินทรัพย์ภายในประเทศ ก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ และบทพิสูจน์ในปัจจุบันนี้ที่จะต้องดำเนินการก็คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์จะเป็นสินทรัพย์เพื่อใช้แต่ก็นับว่าเป็นสินค้าที่ลงทุนได้และในวันที่อสังหาริมทรัพย์เติบโต คือวันที่มีความเชื่อในสังคมและภาคเศรษฐกิจค่อนข้างสูงว่า ณ วันนี้ สินทรัพย์จะมีการเติบโตและจำเป็นที่จะต้องครอบครองสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ไว้ก่อนที่จะนำมาใช้ก็ตาม และ ณ วันนี้สิ่งที่ต้องร่วมกันทำ ในทุกภาคส่วนก็คือการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งกำลังซื้อมีหลายกลุ่ม หลายประเภท จึงไม่จำเป็นจะต้องยึดติดกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สามารถมองหากำลังซื้อกลุ่มใหม่ กับสินค้าที่มีความทันสมัยขึ้น ทันต่อโลกธุรกิจ เป็นสินค้าแห่งอนาคตและธุรกิจในอนาคต ก็จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆในวงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
จากกรณีที่คนไทยบางส่วนไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐมีนโยบายจะให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยนั้น หากเมื่อไหร่มีการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เพราะชาวต่างชาติจะมีเงินทุนที่มากกว่า สามารถเข้ามาซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้ง่าย กว่าคนไทยที่กำลังเก็บหอมรอมริบ เพื่อซื้อที่ดินหรือที่อยู่อาศัย นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและเสียกำลังใจแก่ประชาชนคนไทยทุกคนที่พยายามเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นของคนไทย โดยต้องเข้าใจในจุดนี้ เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงและมีเวลามากพอ แต่อย่างไรก็ตามภาวะปัจจุบันนี้เป็นโลกที่เงินทุนไหลและหมุนเวียนไปทั่วโลก ดังนั้นการที่พัฒนาประเทศจึงจำเป็นที่จะต้องยึดเอาลูกค้าเป็นตัวตั้งซึ่งจะต้องมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ และการที่ภาครัฐมีนโยบายให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองสินทรัพย์ในประเทศไทยมากขึ้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องคอนโทรลให้คนไทยมีโอกาสในการเข้าถึงและครอบครองสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน โดยหากเป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมืองไม่ว่าต่างชาติจะถือกี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนไทยที่ถืออยู่ 1%หรือ 2% ก็ยังมีเสียงโหวต เพื่อจัดการกับที่ดินเหล่านั้นอยู่ เพราะฉะนั้นการเพิ่มสัดส่วนก็อาจจะมีความเป็นไปได้ แต่การครอบครองที่ดินสัดส่วน 100% ของชาวต่างชาติอาจจะไปขัดต่อแนวคิดข้างต้น ซึ่งอาจจะต้องฝากรัฐบาลพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งการที่รัฐบาล จะมีมาตรการให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินได้นาน 99 ปี มองว่าเป็นระยะเวลาที่นาน จึงหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการที่ดี กฎระเบียบที่เข้มงวด และคิดเผื่อไว้สำหรับเจนเนอเรชั่นรุ่นต่อๆไป
“แม้ว่าเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาท และกำลังซื้อที่ยังมีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน แต่บริษัทฯก็พร้อมที่จะปรับตัวรับมือในการพัฒนาโครงการ และทำการตลาด ซึ่งต้องดูจังหวะที่เหมาะสม”นายกีรติ กล่าว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาฯของบริษัทยังคงเน้นการพัฒนาที่ควบคู่ไปกับห้างสรรพสินค้าโลตัส เพื่อสร้างมูลค่าให้กับโครงการที่พัฒนาและสร้างให้เกิดชุมชน โดยจะเน้นพัฒนาโครงการในรูปแบบลักชัวรีมากขึ้น ซึ่งปี 2567 นี้สัดส่วนการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี อยู่ที่ประมาณ 30% และโครงการระดับแมส สัดส่วน 70% และในปี 2568 ตั้งเป้าให้อยู่ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 50:50 โดยกระจายการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดในหัวเมืองหลัก และหัวเมืองรองอย่างต่อ ซึ่งนโยบายที่จะลงทุนต้องอยู่ในกรอบที่วางไว้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท แต่จะไม่เกิน 10,000 ล้านบาท
โดยแผนการดำเนินงานในปี 2568 ในเบื้องต้นจะเปิดตัวใหม่ประมาณ 4 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 4,710 ล้านบาท แต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการในกรุงเทพฯโซนเหนือ 2 โครงการ ระดับราคา 8-9 ล้านบาทขึ้นไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน ซึ่งมีแผนจะพัฒนาในรูปแบบของแนวราบลักชัวรี ส่วนอีก 2 โครงการ จะเป็นการพัฒนาในจังหวัดภาคทางกลาง และภาคใต้ ที่คาดว่าจะเป็นจ.สุราษฎร์ธานี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่อย่างไรก็ตามหากบริษัทฯสามารถซื้อที่ดินในทำเลอื่นๆเพิ่มได้อีก ก็จะประกาศการพัฒนาโครงการเพิ่มเช่นเดียวกัน เพื่อให้สู่เป้ายอดขาย 10,000 ล้านบาทให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น จากปี 2566 สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต
สำหรับในปี 2567 จะมีการเปิดตัวใหม่ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าประมาณ 6,640 ล้านบาท ตามที่เคยประกาศไว้เช่นเดิม คือที่ นครศรีธรรมราช,นครสวรรค์,พิษณุโลกและขอนแก่น ทั้งในรูปแบบของบ้านเดี่ยว,คอนโดฯโลว์ไรส์และไฮไรส์ และในปลายปี 2567 นี้หากมีการเจรจาซื้อที่ดินในจ.ภูเก็ต สำเร็จ ก็จะมีการพัฒนาโครงการเพิ่มจากที่ประกาศแผนไว้ ซึ่งหากได้ที่ดินในย่านใจกลางเมืองภูเก็ตก็จะพัฒนาในรูปแบบของโครงการแนวราบ และหากได้ที่ดินติดทะเล ก็จะพัฒนาในรูปแบบของโรงแรม หรือสามารถซื้อที่ดินได้ 1-2 ไร่ ก็จะพัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม
“ที่ภูเก็ต ในเครือเรามีโลตัสหลายแห่ง ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของเราที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี ซึ่งนโยบายจะดำเนินการเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ที่พัฒนาบนที่ดินที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าของบริษัทในกลุ่มธุรกิจในเครือ แม้ว่าตลาดอสังหาฯในภูเก็ตจะมีการแข่งขันที่สูง ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างลงเป็นพัฒนาโครงการและทำการตลาดเกือบทั้งหมด แต่บริษัทฯก็มองว่ายังมีโอกาสที่จะเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งต้องสร้างความต่างและมีจุดขาย ซึ่งคงไม่เล่นในเรื่องสงครามราคาอย่างที่ผู้ประกอบการบางรายนิยมดำเนินการ แต่บริษัทฯจะเน้นพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพมากกว่า ”นายกีรติ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการโครงการ “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส” (LUXRIVA RESIDENCES) จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันได้ปิดการขายในเฟสที่ 1 ไปแล้ว ซึ่งลูกค้าเป็นกลุ่มแพทย์ถึงกว่า 80-90% และเริ่มเปิดการขายในเฟสที่ 2 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา จำนวนประมาณ 30 ยูนิต ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาชีพแพทย์ รองลงมาจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ SMEs เป็นต้น
ปัจจุบันราคาที่ดินในย่านนี้ จากการประเมินของสถาบันการเงินระบุว่ามีการเติบโตประมาณ 2 เท่าตัว และในส่วนของมูลค่าที่ดินที่ตั้งโครงการด้วยความที่พัฒนาในรูปแบบของมิกซ์ยูส ทำให้มีการเติบโตถึง 2 เท่าตัว และสูงกว่าราคาที่ดินที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกันที่ไม่ได้พัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสไม่ต่ำกว่า 30-40%
ด้าน นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาดโครงการ บริการหลังการขายและลูกค้าสัมพันธ์ CP LAND กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส” (LUXRIVA RESIDENCES) ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า ล่าสุดได้ทำการเปิดพรีเซลโครงการดังกล่าวในเฟสที่ 2 (จากทั้งหมด 5 เฟสๆละประมาณ 20-30 ยูนิต) ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 82-128 ตารางเมตร แต่ราคาจะสูงกว่าในเฟสแรก คือเริ่มต้นที่ 15-20 ล้านบาท รวมจำนวนกว่า 30 ยูนิต โดยคาดว่าทั้งโครงการจะสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากปี 2567 นี้เป็นต้นไป
"แม้ว่าจ.นครศรีธรรมราช จะมีผู้ประกอบการายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเข้ามาทำตลาดแล้วประมาณ 3 ราย หากรวม CP LAND จะเป็น 4 ราย ซึ่งมองว่าโครงการของเรามีจุดขายที่แตกต่าง ซึ่งยอดขายจะดีหรือไม่นั้น ผู้บริโภคจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่หลังจากที่ CP LAND เปิดตัวโครงการระดับลักชัวรี ปรากฏว่าสามารถปิดการขายในเฟสแรกได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะสินค้า ราคาและทำเล สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ผู้ประกอบการค่ายอื่นจะมียอดขายที่ช้าลง” นายดำรงศักดิ์ กล่าว
นายดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดตัวในครั้งนี้เป็นก้าวย่างที่สำคัญของ CP LAND หลังจากการรีเฟรชแบรนด์ในรอบ 40 ปี โดย CP LAND ได้ขยายสู่ตลาดบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรีหรูในส่วนภูมิภาค CP LAND ได้พลิกโฉมโปรดักส์ใหม่ทั้งหมด ทั้งในแง่การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพตอบโจทย์ความลักซ์ชัวรี การออกแบบดีไซน์บ้านเดียวทั้งภายในและภายนอก พื้นที่ส่วนกลาง สภาพแวดล้อมและบรรยากาศโดยรอบ ภาพลักษณ์ และแบรนด์ดิ้งใหม่ทั้งหมด ตลอดจนการยกระดับการบริการก่อนและหลังการขาย ที่สำคัญตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง (High-Net-Worth Individuals) นี่จึงเป็นอีกความตั้งใจ ที่ CP LAND ตั้งใจจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และเป็นการสร้างความเจริญให้กับชุมชนโดยรอบ ตามแนวคิดของ CP LAND คือ คุณภาพเพื่อทุกชีวิต หรือ Accessible Communities for Life
โครงการ“LUXRIVA RESIDENCES” เป็นการพัฒนาที่นำเอาความหรูหรามาผสานกับเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดนครศรีฯ ผ่านการสัมภาษณ์ เพื่อทำความเข้าใจทัศนคติ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการอยู่อาศัยของชาวนครศรีธรรมราช รวมถึงการศึกษาค้นคว้าอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี และศิลปะท้องถิ่นที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการพัฒนาโครงการ จึงเกิดเป็น LUXRIVA RESIDENCES บ้านเดี่ยวลักชัวรีที่มีความเป็นส่วนตัว (Privacy) อยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ปรับเปลี่ยนได้ตามฟังก์ชันการใช้งาน (Flexible Area) ด้วยดีไซน์แบบ Modern-Tropical ที่ออกแบบจากทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและนอกพื้นที่ ให้ความรู้สึกเป็น บ้านร่มเย็น
นอกจากนี้ CP LAND ยังได้นักออกแบบฝีมือดีอย่างคุณศุภชัย แกล้วทนงค์ ศิลปินชาวนครศรีธรรมราชนักออกแบบผู้พาภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้ของไทยออกไปให้โลกรู้จัก มาร่วมเป็น Art & Culture Design Consultant นำความเป็นพื้นบ้านของลวดลายผ้ายกจังหวัดนครศรีฯ มาสื่อสารให้มีความร่วมสมัย กลายเป็นพื้นที่ศิลปะภายในโครงการ ทั้งประติมากรรมวงเวียนโครงการ ลวดลายทางข้าม ทางม้าลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง (HNWIs) สะท้อนวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่มีลักษณะเป็น Local Achiever หรือประสบความสำเร็จในชีวิต เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสมบูรณ์แบบ การใช้ชีวิตท่ามกลาง “ธรรมชาติ”และ “สุนทรียภาพ” ความงดงามสะท้อนการใช้ชีวิตเหนือระดับ ทุกรายละเอียดรังสรรค์มาจากความเข้าใจ ถูกถ่ายทอดอย่างพิถีพิถัน พร้อมต่อยอดสู่เรื่องราวบทใหม่ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัวด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย เดินทางความสะดวก เพราะอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สำนักงาน CP Tower และโรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช
เกี่ยวกับ “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส” (LUXRIVA RESIDENCES)
ลักซ์ริว่า เรสซิเดนซ์เซส แบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่โครงการแรกของ CP LAND ในส่วนภูมิภาค นำร่องโครงการแรกห้วเมืองภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้แนวคิด ‘Modern-Tropical Luxury Living นิยามใหม่ เหนือระดับแห่งการใช้ชีวิต’ ชูดีไซน์การออกแบบผสมผสานเอกลักษณ์ระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ ให้เข้ากับความร่วมสมัย เพื่อสร้างคุณค่าสะท้อนการใช้ชีวิตและตัวตนของผู้อยู่อาศัย ปักธงหรูที่สุดในจังหวัด ราคาเริ่มต้น 14 - 25 ล้านบาท
ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส มีเนื้อที่รวม 44 ไร่ จำนวนรวม 115 ยูนิต โดยมีประเภทของบ้าน 3 แบบ ได้แก่
1.a) Type A: Ashley - แอชลีย์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 285 ตารางเมตร เนื้อที่ดินเริ่มต้น 82 ตารางวา
2.b) Type B: Berkley - เบิร์กลีย์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 360 ตารางเมตร เนื้อที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา
3.c) Type C: Clara - คลาร่า ขนาดพื้นที่ใช้สอย 465 ตารางเมตร เนื้อที่ดินเริ่มต้น 128 ตารางวา
การออกแบบดีไซน์แสดงออกถึงความเป็นธรรมชาติของโครงการที่มีจุดเด่น คือ เพดานบ้านสูง (Double Volume) 6.6 เมตร บริเวณ Living Area ทุกหลัง อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทสะดวก ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย กว้างขวาง สว่าง สง่างาม และโดดเด่น โถสุขภัณฑ์แบบ Smart Toilet ที่จอดรถกว้างสามารถจอดได้สะดวก รับประกันโครงสร้างบ้าน 10 ปี
เกี่ยวกับ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน)
ซี.พี. แลนด์ หรือ CP LAND ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2531 ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกอบด้วย 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจที่พักอาศัย บ้าน คอนโดมิเนียม 2. ธุรกิจอาคารสำนักงาน (ส่วนกลางและภูมิภาค) 3. ธุรกิจโรงแรม 4. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 5. ธุรกิจบริหารอาคาร 6. ธุรกิจพลังงาน 7. ศูนย์ประชุมไคซ์ – KICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.CPLAND.co.th