news-details
Business

เปิดกำไรแบงก์ครึ่งปีแรก โกยกำไร 1.26 แสนล้าน

ธนาคารพาณิชย์ มีกำไรครึ่งปี 2567 รวมกัน 1.26 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.69% ส่วนไตรมาส 2 มีกำไรรวมกัน 6.29 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.07% ทหารไทยธนชาติ-กสิกรไทย-กรุงไทย ผลงานโดดเด่น ไตรมาส 2 และ งวดครึ่งปี กำไรโตเกิน 10%

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 10 ธนาคาร ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 /2567 และงวดครึ่งปีแรกออกมาครบแล้ว โดยไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิรวมกัน 62,911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.07% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรรวมกัน 61,637 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิรวมกัน 126,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 121,917 ล้านบาท

เปิดดูรายละเอียดของแต่ละธนาคาร พบว่ามี 4 ธนาคาร ที่กำไรในไตรมาส 2/67 มากกว่าหมื่นล้านบาท โดยธนาคารที่มีกำไรสูงสุด นำโดยธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK มีกำไรมากถึง 12,653 ล้านบาท รองลงมาคือ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL มีกำไรสุทธิ 11,807 ล้านบาท ตามมาด้วย ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB มีกำไรสุทธิ 11,195 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCBX มีกำไร 10,014 ล้านบาท

และหากดูกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกสูงสุด ก็ยังคงเป็น 4 ธนาคารข้างต้น คือ กสิกรไทย 26,139 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ 22,330 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย 22,274 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ 21,295 ล้านบาท

และเมื่อพิจารณาแต่ละธนาคารที่มีการเปลี่ยนของกำไรโดดเด่นที่สุด ต้องยกให้ธนาคารทหารไทยธนชาติ หรือ TTB งวดไตรมาส 2 มีกำไร 5,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.28% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้นถึง 20.64% เป็นผลมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปรับดีขึ้นอยู่ที่ 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันนปีก่อนอยู่ที่ 44%

ตามด้วยธนาคารกสิกรไทย งวดไตรมาส 2 กำไรเพิ่มขึ้น 15.09% และงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้นถึง 20.26% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการตั้งสำรองลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน

ธนาคารกรุงไทย ที่ไตรมาส 2 กำไรเพิ่มขึ้น 10.23% และ 6 เดือน กำไรเพิ่มขึ้น 10.14% เป็นผลมาจากรายได้รวมจากการดำเนินงานขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.9% โดยที่มีการตั้งสำรองใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

และธนาคารกรุงเทพ ไตรมาส 2 กำไร เพิ่มขึ้น 4.55% งวด 6เดือน เพิ่มขึ้น 4.24% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 8.1% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.05%

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย หรือ CIMBT แม้ไตรมาส 2 จะเติบโตเยอะสุด 24.08% แต่งวด 6 เดือน กำไรลดล 5.43% เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากการดำเนินงาน และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ประกอบกับมีการขาดทุนด้านเครดิต

ส่วนธนาคารที่กำไรไตรมาส 2 ไม่ค่อยจะโดดเด่น เพราะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีถึง 5 ธนาคาร นำโดย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP กำไรเหลือแค่ 769 ล้านบาท ลดลงมากถึง 45.41% และงวด 6 เดือนลดลงถึง 34.88%

ตามด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ แม้จะเป็น บิ๊กโฟร์ ที่มีกำไรหลักหมื่นล้าน แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนกำไรลดลงถึง 15.62% และฉุดงวด 6 เดือนกำไรลดลง 6.86% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายจากการยุติการให้บริการแอปพลิเคชั่น “Robinhood” และการตั้งผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มเติมสำหรับลูกค้ารายใหญ่ ที่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็น บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ที่ผู้บริหารถูกก.ล.ต.กล่าวโทษคดีทุจริต

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป หรือ LHFG กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กำไรไตรมาส 2 เหลือ 491 ล้านบาท ลดลง 7.64% และงวด 6 เดือน ลดลงถึง 25.90% ธนาคารทิสโก้ ไตรมาส 2 กำไรเหลือ 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.66% และงวด 6 เดือนกำไรลดลง 4.51%

และธนาคารกรุงศรี หรือ BAY ไตรมาส 2 มีกำไร 8,209 ล้านบาท ลดลง 2.57%เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน และงวด 6 เดือนกำไรลดลง 7.09% ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL)โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศ

 

You can share this post!