เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ (Television Centre) เปิดตัว The Ariel เฟส 2 ที่ไทยเป็นแห่งแรกในอาเซียน ด้วยความโดดเด่นของคอนโดมิเนียมหรู สูง 23 ชั้นย่านตะวันตกของลอนดอน พัฒนาโดย มิตซุย ฟุโดะซัง สหราชอาณาจักร (Mitsui Fudosan UK) แต่ละยูนิตมีความเป็นส่วนตัวด้วยห้องชุดและเพนต์เฮาส์ส่วนตัว 167 ห้อง เชื่อมั่นศักยภาพคนไทยกลุ่มตลาดบนกำลังซื้อยังสูง พร้อมกับโครงการตั้งอยู่บนทำเลยอดนิยมของคนไทย ใน ไวท์ซิตี้ (White City) เป็นทำเลที่คนไทยนิยมต่อเนื่อง 12 ปี เหตุอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก สำหรับให้บุตรหลานพักอาศัยช่วงศึกษาต่อ และสามารถขายทำกำไรได้ในอนาคต คาดมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ย่านไวท์เฮาส์มีโอกาสเติบโต 17.4% ภายใน 5 ปี กำหนดเปิดขายเพื่อมอบโอกาสพิเศษในการร่วมเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในเทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ สำหรับผู้ซื้อในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13 – 14 กันยายน 2567 นี้ ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, กรุงเทพฯ
นายปีเตอร์ อัลเลน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดของผู้จัดการฝ่ายพัฒนา บริษัท แสตนโฮป จำกัด (มหาชน) (Stanhope PLC) เปิดเผยว่า เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ (Television Centre) ได้เดินทางมาเปิดตัว The Ariel เฟส 2 ที่ประเทศไทย เป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บน แลนด์มาร์คที่เคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บีบีซี (BBC) ในไวท์ซิตี้ (White City) ทางตะวันตกของลอนดอน เป็นอาคารสูง 23 ชั้นที่เป็นตึกเดียวเพียง ที่ผู้พักอาศัยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของลอนดอนได้อย่างทั่วถึง สำหรับทำเล ไวท์ซิตี้ ถือเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากคนไทยเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องตลอด 12 ปีที่ผ่าน และเป็นทำเลที่ราคาที่อยู่อาศัยเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ย่านไวท์ซิตี้จะเติบโต 17.4% ภายในปี 2572
โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้อสังหาริมทรัพย์ย่านนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย เนื่องจากตั้งอยู่บนทำเลใกล้กับสถาบันการศึกษาคุณภาพสูงอย่างอิมพีเรียลคอลเลจ (Imperial College) (มหาวิทยาลัยอันดับสูงสุดอันดับ 2 ของโลกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย QS ปี 2568 และรอยัลคอลเลจออฟอาร์ต (Royal College of Art) ทำให้ The Ariel เป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับนักศึกษา ครอบครัว
จากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี พบว่า มีนักเรียนไทยเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในลอนดอนเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 12 % โดยจำนวนนักเรียนที่เดินทางไปต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ในปี 2565 จำนวน 32,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 17% หรือ 5,405 คน เลือกลงทะเบียนในสหราชอาณาจักร ตามข้อมูลจากกระแสนักศึกษาทั่วโลกของ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ที่เผยแพร่ในรายงานปี 2566 โดย แอ็คยูเม็น (Acumen) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนนักเรียนระดับอุดมศึกษา ขาออก 28,609 คนในปี 2564 นอกจากนี้ บริติช เคานซิลยังรายงานในเดือนพฤศจิกายน 2565 ว่าสหราชอาณาจักรยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการเรียนชั้นนำสำหรับนักเรียนไทย โดยมีนักเรียนมากกว่า 7,000 คน ในสถาบันอุดมศึกษาในสหราชอาณาจักร นี่จึงเป็นเหตุผลในการเลือกมาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรก ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ The Ariel ตั้งอยู่ในพื้นที่มั่งคั่งของลอนดอนตะวันตก ติดกับย่านที่มีมูลค่าสูง เช่น นอตติ้งฮิลล์ (Notting Hill) และฮอลแลนด์พาร์ค (Holland Park) มีเครือข่ายการคมนาคมที่รวดเร็วและเข้าถึงง่ายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินและบนพื้นดิน 3 แห่งสามารถเดินทางไปยังบอนด์สตรีท (Bond Street) อ็อกฟอร์ดเซอร์คัส (Oxford Circus) ได้ใน 15 นาที และไปยังตัวเมืองได้ภายใน 25 นาที (ที่มา: TfL) พื้นที่นี้ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดีเยี่ยมสำหรับเดินทางไปยังสนามบินฮีทโธรว์ (Heathrow) ได้อย่างง่ายดาย
"The Ariel ดึงดูดผู้ซื้อจากประเทศไทยเป็นพิเศษ เนื่องจากการผสมผสานระหว่างความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทำเลที่ตั้งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมสมัย สถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของลอนดอนและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มั่นคงมอบโอกาสในการลงทุนที่ปลอดภัยในการพัฒนาสถานที่สำคัญนี้ รวมถึงความใกล้ชิดกับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงและแหล่งช็อปปิ้งชั้นนำที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความคาดหวังของผู้ซื้อจากต่างประเทศที่มีวิสัยทัศน์ ชุมชนที่มีชีวิตชีวาและบรรยากาศที่สร้างสรรค์ที่ เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของผู้ที่มองหาสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่มีชีวิตชีวาในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” นายปีเตอร์ กล่าว
นางสาวประภาพร บุญขจรกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซาวิลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า มีจำนวนกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยให้ความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงลอนดอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยหนุนข้างต้น ก็ส่งเสริมให้เกิดการตัดสินใจลงทุน โดยแรงจูงใจอันดับแรกในการซื้อของนักลงทุนชาวไทย ก็คือเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่มีบุตรหลานศึกษาต่อที่อังกฤษ อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่จะเป็นมรดกล้ำค่าของครอบครัว สำหรับส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป ทั้งนี้ทำเลของ เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ (The Television Centre) มีความสะดวกสบายอย่างมากสำหรับการอยู่อาศัย ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับสถาบันการศึกษาหลายแห่ง และสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วลอนดอนได้อย่างง่ายดาย
ราคาห้องชุดของ The Ariel เริ่มต้นที่ 595,000 ปอนด์ (27,768,650 บาท) สำหรับอพาร์ทเมนต์แบบสตูดิโอ ไปจนถึงกว่า 6 ล้านปอนด์ (280 ล้านบาท) สำหรับเพนต์เฮาส์ บริหารการขายโครงการผ่านตัวแทนขาย ซาวิลส์ (Savills) https://www.savills.co.th/ โดยกำหนดจัด Sales exhibitions ในวันที่ 13 – 14 กันยายน, เวลา 10.00-17.00 น ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยกำหนดจัด Sales exhibitions ที่กรุงเทพ ในวันที่ 13 – 14 กันยายน, เวลา 10.00-17.00 น ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
เกี่ยวกับเทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ (Television Centre)
เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ เป็นการพัฒนาพื้นที่เดิมซึ่งเคยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบีบีซี (BBC) ในลอนดอน ตะวันตก เฟสแรก ได้สร้างห้องชุด จำนวน 432 ยูนิต ภายในพื้นที่ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรของพับพลิซิส กรุ๊ป (Publicis Group), บริษัท เดอะ ไวท์ คอมพานี (The White Company), พีวีเอช กรุ๊ป (PVH Group), โซโฮ เวิร์ค (Soho Works) และไวท์ ซิตี้เฮ้าส์ (White City House) ในเครือของ โซโฮ เฮ้าส์ (Soho House) พร้อมด้วยโรงแรมบูทีคขนาด 45 ห้อง
กิจการของบีบีซี ที่ยังคงมีการดำเนินงานในพื้นที่ คือบีบีซี สตูดิโอเวิร์ค (BBC Studioworks) ซึ่งการดำเนินงานยังคงมีสตูดิโอ ที่ใช้งานอยู่รวม 3 แห่ง เทเลวิชั่นเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ใจกลางของการฟื้นฟูพื้นที่ไวท์ซิตี้ (White City) ที่กว้างขวาง ที่ใช้เงินลงทุนมูลค่า 8 พันล้านปอนด์ ภายในระยะเวลา 10 ปี และกลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางในการทำกิจกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และวงการวิชาการ ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของลอนดอน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เจริญรุ่งเรือง มีร้านค้า ร้านอาหาร และสถานศึกษาใหม่ๆ เกิดขึ้น มีที่อยู่อาศัยเกิดใหม่จำนวน 5,000 ยูนิต มีพื้นที่สำนักงานมากถึง 2 ล้านตารางฟุต และมีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นถึง 20,000 ตำแหน่ง www.televisioncentre.com/@thisistve
เกี่ยวกับ มิตซุย ฟูโดซัง สหราชอาณาจักร (Mitsui Fudosan UK)
มิตซุย ฟูโดซัง สหราชอาณาจักร เป็นบริษัทในสหราชอาณาจักรในเครือของบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด (Mitsui Fudosan Co., Ltd.) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดย มิตซุย ฟูโดซัง สหราชอาณาจักร รับผิดชอบกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่ม มิตซุย ฟูโดซัง ในยุโรป
บริษัทมีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนาโครงการที่เป็นนวัตกรรม และได้รับรางวัลมากมายจากโครงการหลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึงโครงการอาคารสำนักงาน โครงการเชิงพาณิชย์ โครการที่อยู่อาศัย โครงการใช้งานแบบผสมผสาน(Mixed-use) และมีการร่วมลงทุนกับบริษัท แสตนโฮป ตั้งแต่ปี 2550 (2007) www.mitsuifudosan.co.uk/
เกี่ยวกับบริษัท แสตนโฮป (Stanhope)
บริษัทแสตนโฮป จำกัด (มหาชน) (Stanhope PLC) เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการจัดการสินทรัพย์ ตั้งอยู่ที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร มีผลงานส่งมอบพื้นที่มากกว่า 30 ล้านตารางฟุต มูลค่ารวม 4 หมื่นล้านปอนด์ ทั้งที่มีการส่งมอบและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยทั่วไปบริษัทจะบริหารจัดการมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 3 พันล้านปอนด์ทั้งในสถานที่และในขั้นตอนการผลิต โดยเป็นบริษัทมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของการคิดค้นพัฒนาและขับเคลื่อนด้วยการออกแบบและนวัตกรรมที่เป็นเลิศภายในโครงการ www.stanhopeplc.com