นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เดินหน้าร่วมมือเต็มที่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมลดภัยคุกคามทางไซเบอร์ สนับสนุน ยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” มุ่งถอนรากถอนโคนวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตามแนวชายแดนไทย พร้อมปกป้องคนไทยให้ปลอดภัย โดยทรูได้ให้ความ ร่วมมือออย่างเต็มที่ ทั้งดำเนินการ ปิดเสาสัญญาณทั้งหมดตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันมิให้มีการนำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการก่ออาชญากรรม รวมทั้งชี้เบาะแสปิดตู้ซิมที่ช่วยเหลือคนร้ายในการลงทะเบียนซิม อันนำไปสู่การ กระทำผิดกฏหมายของเหล่ามิจฉาชีพ ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทย ระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ
“ทรูพร้อมร่วมมือทุกภาคส่วน ปกป้องคนไทยจากภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกสทช.ได้เร่งปฏิบัติการเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน โดยทรูได้ดำเนินการปิดเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามแนวชายแดนทั้งหมด ทั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อสุจริตชนตามแนวชายแดนไทย รวมทั้งได้ให้ข้อมูลชี้เบาะแส ปิดตู้ชิมที่ช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการลงทะเบียนซิมมาหลอกลวงประชาชน เพื่อเป็นประโยชน์ในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะการแจ้งข้อมูลกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาซื้อซิมในร้านค้า” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ ทรูยังมีมาตรการเชิงรุกที่นำมาใช้ครอบคลุมทั้งมาตรการ การขายที่เข้มงวดรัดกุมขึ้น คุมเข้มคู่ค้ารายย่อย โดยกำหนดให้มีการลงทะเบียนซิมทันทีที่ขาย และมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างเข้มงวด หากพบฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษ ตั้งแต่ตักเตือน ลดค่าตอบแทน ไปจนถึงยกเลิกสัญญา และยังได้ดึงเทคโนโลยี AI และ Data Analytic เข้ามาตรวจสอบและประมวลผลการลงทะเบียนซิมที่มีความเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะลดจำนวนซิมที่อาจจะถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เรามั่นใจว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะตัดช่องทางการสื่อสารของเหล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ ป้องกันความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทย