ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 35.98 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” Krungthai GLOBAL MARKETS คาดสัปดาห์นี้ 35.80-36.50 บาท/ดอลลาร์ เตรียมรับมือความผันผวนจากผลประชุม BOJ-เฟด- BOE และรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.98 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.06 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 35.82-36.06 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนไปตามทิศทางเงินดอลลาร์ ซึ่งในช่วงวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดของตลาดการเงินไทยนั้น เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) เผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่เชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์นี้ได้ ส่วนเงินยูโร (EUR) ก็ถูกกดดันจากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นยุโรป และคาดการณ์ของผู้เล่นในตลาดที่คาดหวังการทยอยลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) นอกจากนี้ เงินเยนญี่ปุ่นก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง ตามการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดก่อนรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และนอกเหนือจากปัจจัยเงินดอลลาร์ เงินบาทยังผันผวนไปตามโฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (ปรับตัวขึ้นในช่วงคืนวันศุกร์ ก่อนที่จะทยอยปรับตัวลดลงในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา)
สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงและรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ก็ออกมาดีกว่าคาด แต่เงินดอลลาร์กลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นชัดเจน หลังเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากการลดสถานะ JPY-Carry Trade หรือ Short JPY
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรเตรียมรับมือความผันผวน จากผลการประชุมธนาคารกลางหลัก (BOJ, เฟด และ BOE) รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ (The Magnificent Seven)
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มกลับมามีกำลังมากขึ้นและอาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแรกแถว 36.25 บาทต่อดอลลาร์ (โดยเฉพาะหากเงินบาทสามารถผันผวนอ่อนค่าทะลุโซน 36 บาทต่อดอลลาร์ไปได้) ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางเงินดอลลาร์และทิศทางราคาทองคำที่จะขึ้นกับมุมมองของตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ขณะเดียวกัน ควรระวังความผันผวนจากทิศทางเงินเยนญี่ปุ่น และฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจยังพอได้แรงหนุน หาก 1) ตลาดการเงินยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงจากความผิดหวังรายงานผลประกอบการ 2) ตลาดปรับลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ และ 3) เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงจากความผิดหวังผลการประชุม BOJ
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.80-36.50 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์