เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ เผยภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานยังแข่งเดือด-ท้าทาย ปัจจุบันมีพื้นที่รวม 9.6 ล้านตารางเมตร คาดอีก 3 ปีข้างหน้า มีอาคารใหม่เข้าสู่ตลาดถึง 1.6 ล้านตารางเมตร ล่าสุดอัดงบ 200 ล้านบาท รีโนเวท 2 อาคารสำนักงานอายุงาน 14 ปี สาทรสแควร์ และ ปาร์คเวนเชอร์ ชู 5 มิติ กลยุทธ์ Asset Enhancement Initiative (AEI) ยกระดับนวัตกรรมการให้บริการ ชิงดีมานด์ไทย-ข้ามชาติ พร้อมประกาศชะลอแผนผุดอาคารสำนักงานใหม่ หันรับศึกซัปพลายใหม่ล้นตลาด
นายวิทวัส คุตตะเทพ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจอาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่พาณิชยกรรมรวม 240,000 ตารางเมตร มองเห็นทิศทางตลาดอาคารสำนักงานมีแนวโน้มการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความท้าทาย ทั้งด้านดีมานด์ ซัปพลาย เรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมผู้บริโภค และเรื่อง Work from Home โดยในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานให้เช่ามีพื้นที่รวมประมาณ 9.6 ล้านตารางเมตร มีอัตราการเข้าใช้พื้นที่แล้ว 82.2% ซึ่งภายในสิ้นปี 2567 จะมีพื้นที่สำนักงานใหม่เข้าสู่ตลาดอีกกว่า 400,000 ตารางเมตร และภายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีโครงการอาคารสำนักงานก่อสร้างแล้วเสร็จมากถึง 1.6 ล้านตารางเมตร
ขณะที่ความต้องการเช่าพื้นที่ในแต่ละปี ขยายตัวไม่มากนัก รวมถึงลูกค้าในปัจจุบัน ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องทำเลที่ตั้งที่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมองหาอาคารที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตพนักงานและผู้ใช้อาคารอีกด้วยโดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ ทุกๆบริษัทขนาดใหญ่ จะตรวจสอบเรื่องและให้ความสำคัญกับเรื่อง Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) หรือ ESG
ในส่วนของเฟรเซอร์สฯ ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานเกรดเอ ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่หายากถึง 5 อาคาร คือ สาทรสแควร์ ,ปาร์คเวนเชอร์,เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center),สามย่านมิตรทาวน์ และ สีลมเอจ โดยมีบริษัทชั้นนำเข้ามาใช้พื้นที่สำนักงานมากถึง 90% แบ่งเป็นบริษัทข้ามชาติถึงกว่า 50%
ซึ่งจากการที่มีซัปพลายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก สิ่งที่ต้องเร่งทำ คือ สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า การยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าและผู้ใช้บริการที่ดีขึ้น ดังนั้นบริษัทฯ จึงเร่งดำเนินการโครงการยกระดับคุณภาพอาคาร (Asset Enhancement Initiative: AEI) ของ 2 อาคารสำนักงานอันดับแรกของบริษัท คือ สาทรสแควร์ และปาร์คเวนเชอร์ ซึ่งมีอายุการใช้งานแล้วประมาณ 14 ปีทั้ง 2 อาคาร ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา โดยใช้งบในการปรับปรุงรวมทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท ปัจจุบันสาทรสแควร์ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเผยโฉมใหม่แล้ว ส่วนปาร์คเวนเชอร์จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2567 นี้
โดยเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินงานตามแนวทางด้านความยั่งยืน โดยได้นำแนวคิดนี้ถ่ายทอดกับการยกระดับนวัตกรรมการให้บริการและคุณภาพอาคารของสาทรสแควร์ ด้วยกลยุทธ์ 5 มิติ สำหรับ Asset Enhancement Initiative (AEI) ในการรักษามาตรฐานอาคารเกรดเอ เพื่อสามารถแข่งขันท่ามกลางอาคารสำนักงานเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่
1.Smart Technology: ยกระดับความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ ระบบควบคุมการเข้า-ออกอาคารและการจัดการผู้มาติดต่อสามารถแสดงตนด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition) หรือสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ เพิ่มระบบจัดการการเข้า-ออกรถยนต์ภายในอาคารจอดรถที่สามารถตรวจและอ่านป้ายทะเบียนแบบอัตโนมัติ (License Plate Recognition) ชำระค่าจอดรถผ่านระบบออนไลน์ (e-Payment) พร้อมติดตั้งจุดให้บริการ EV Charger สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ อาคารยังรองรับบริการพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อดิจิทัล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ Platinum ด้านการเชื่อมต่อดิจิทัล (Digital Connectivity) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดจาก WiredScore
2.Sustainability Excellence: ยกระดับการจัดการอาคารส่งเสริมความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน เน้นการประหยัดพลังงาน ลดการใช้ทรัพยากร โดยนำระบบบริหารจัดการอาคาร (Building Management System: BMS) มาเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมงานวิศกรรมอาคารและการจัดการพลังงานภายในอาคาร มี Motion Censor จับความเคลื่อนไหวสำหรับเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติในพื้นที่ใช้งานน้อย และปรับกระบวนการบริหารอาคารโดยจัดการทรัพยากรตามแนวทางอนุรักษ์พลังงาน สานต่อเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืนของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ทั่วโลก ซึ่งตอกย้ำจุดเด่นของสาทรสแควร์ตามที่ได้รับการรับรองด้านการประหยัดพลังงานและการอนุรักษ์พลังงานมาตั้งแต่เปิดใช้อาคาร ทั้งมาตรฐานอาคารเขียวระดับโลก LEED ระดับ Gold 2013 (พ.ศ. 2556) รางวัล Thailand Energy Awards 2014 และ ASEAN Energy Awards 2014 (พ.ศ. 2557) รวมถึงรางวัล MEA Energy Awards 2019 (พ.ศ 2562)
3.Superb Well-being: ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร โดยมีระบบเครื่องปรับอากาศพร้อมกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 และติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality: IAQ) แสดงสภาพอากาศภายในอาคารเทียบกับอากาศภายนอกอาคาร เพื่อเสริมความมั่นใจ รวมถึงใส่ใจในคุณภาพการใช้ชีวิตด้านต่าง ๆ ของพนักงานออฟฟิศ โดยสาทรสแควร์มีพื้นที่สีเขียวอย่างต้นไม้และน้ำรอบอาคารเพื่อสร้างความผ่อนคลาย และพื้นที่รีเทลที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารนานาชาติ คลินิคสุขภาพความงาม ที่พบปะสังสรรค์ (Hangout) สำหรับสานสัมพันธ์นอกเวลางาน เติมเต็มการใช้ชีวิตให้ครบครันมากขึ้น
4.Support Tenant Centricity: สร้างความประทับใจให้ผู้เช่าและผู้ใช้อาคารด้วยการมุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเป็นสำคัญ ผ่านการสื่อสาร รับฟังความต้องการ และความพึงพอใจ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดเด่นด้านการบริหารอาคารของบริษัทฯ ที่ดำเนินการมาตลอดคือ การจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ในเทศกาลและโอกาสพิเศษต่าง ๆ โดยชักชวนผู้เช่าและผู้ใช้อาคารมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมน่าอยู่ในสาทรสแควร์สำหรับทุกคน
5.Spectacular Design: สวยงามและโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายในอาคาร สะท้อนแนวคิดการออกแบบอาคารอย่างมีเอกลักษณ์ การปรับโฉมล็อบบี้ในครั้งนี้ ผู้ออกแบบได้นำคำว่า “สแควร์” หรือ “รูปทรงสี่เหลี่ยม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชื่ออาคารมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ผสมผสานผนังใหม่สีเงินเมทัลลิคที่สะท้อนความทันสมัยและมีพลัง เพิ่มเติมด้วยการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ สร้าง “สีสันมิติใหม่” (Neo-vibrant) ที่เป็นตัวตนจุดเด่นสำคัญของอาคาร เพื่อบรรยากาศที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา สร้างความสดใสและแรงบันดาลใจ เติมพลังงานและความกระฉับกระเฉงให้กับผู้ใช้อาคาร สอดรับแนวคิดของสาทรสแควร์กับการเป็น The Neo-vibrant Business Complex
“เราเชื่อมั่นว่าการยกระดับคุณภาพสาทรสแควร์ครั้งนี้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ดึงดูดบริษัทชั้นนำและรักษามาตรฐานคุณภาพอาคารสำนักงานเกรด A ที่สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้อาคารและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าและผู้ใช้อาคารทุกกลุ่ม มุ่งสู่เป้าหมายขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Real Estate as a Service Brand ครอบคลุมทั้ง Space, Community และ Sustainability สอดรับกับเจตนารมณ์ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในการสร้างสรรค์พื้นที่ ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่ (Inspiring experiences, creating places for good.) ” นายวิทวัส กล่าว
นายวิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงอาคารสำนักงานของบริษัทฯไม่ได้คาดหวังที่จะปรับราคาขึ้น แต่ต้องการดึงดูดลูกค้าให้เช่าพื้นที่สำนักงานได้นานอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นการทำสัญญาเช่าระยะเวลา 3 ปี ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ประมาณ 80-90% ส่วนการปรับราคานั้น มีการปรับมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ปัจจุบันปรับขึ้นมาที่ประมาณ 3-5% โดยราคาอาคารสำนักงานเกรดเอ จะอยู่ที่ประมาณ 850-1,500 บาท/ตารางเมตร/เดือน ส่วนอาคารสำนักงานอีก 3 แห่ง ส่วนใหญ่เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน คาดว่าภายในระยะเวลาอีก 3 ปีนี้ จะกลับมาตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องดูสภาวะการณ์ตลาดในขณะนั้นด้วย
สำหรับการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานใหม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีแผนแต่อย่างใด เพราะขณะนี้มีซัปพลายที่ล้นเกินพอแล้ว แต่บริษัทในเครือก็จะมีโครงการอาคารสำนักงานเกรดเอ วันแบงค็อก ทาวเวอร์ ที่จะเปิดตัวใหม่ในเร็วๆนี้
“การลงทุนพัฒนาอาคารสำนักงานถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ดังนั้นในหลายๆเรื่องถ้าช่วยกันผลักดัน โดยเฉพาะรัฐบาลที่ดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค” นายวิทวัส กล่าวในที่สุด