ภายหลังจากที่กลุ่ม “นายชาญยุทธ ฉัตรพิริยะพันธ์” ผู้ปลุกปั้นธุรกิจรีไซเคิล “ไคฮวดจั่น” ในนาม บริษัท ไคฮวดจั่นโลหะกิจ มีนบุรี จำกัด จนเติบโตแบบก้าวกระโดด และได้เป็นธุรกิจรับซื้อ-ส่งออกขยะรีไซเคิลอันดับหนึ่งของประเทศ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาได้มีการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยบอร์ดฯ มีมติแต่งตั้ง “นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ” ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แทนนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ที่เกษียณอายุ ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดย LPN และบริษัทในเครือ ก็ยังมีการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการใหม่-รับบริหารโครงการอย่างต่อเนื่อง
และล่าสุดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา LPN ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่อีกครั้ง เพื่อก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพื่อวางแนวทางสร้างองค์กรสู่ยุคใหม่ โดยบอร์ดมีมติแต่งตั้ง “นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์” บุตรสาวคนที่ 2 ของ “นายชาญยุทธ ฉัตรพิริยะพันธ์” ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) ซึ่งมีผลวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ตามที่ได้มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ของ LPN นี้ นับว่าอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามแนวทางที่บริษัทวางไว้ โดย “นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์” จะดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) แทน “นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ” ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการบริษัท ให้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2567
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน (Revenue) อยู่ที่ 3,785 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 6% (YoY) จากครึ่งปีแรก 2566 ที่ 3,564 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,454 ล้านบาท และมีกําไรสะสมตลอด 30 ปี ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 11,959 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าว ทำให้บริษัทสามารถลงทุนเพิ่มเติมทั้งในธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจอื่นๆ ได้ ส่งผลให้สามารถสร้างรายได้ได้ในระยะยาว