news-details
Business

AWC เมินร่วมทุนผุดกาสิโน ยันขอปรับโฉมพอร์ตในมือเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยว แนะรัฐหนุนบริษัทข้ามชาติเช่าสำนักงานใหญ่เทียบสิงคโปร์

แอสเสท เวิร์ด์ คอร์ปฯเผยยังไม่สนร่วมทุนสร้างกาสิโน ยันขอปรับโฉมพอร์ตในมือเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง แนะรัฐหนุนโปรโมทบริษัทข้ามชาติเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในไทยเป็นศูนย์ใหญ่ระดับภูมิภาคเทียบชั้นสิงคโปร์ ล่าสุดทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกกับการรวมห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำบนรูฟทอปมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ให้กับกรุงเทพฯ ณ “EA” Rooftop at The Empire”เอ็มไพร์ทาวเวอร์ สร้างจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ รวม 6 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตร.ม. รวมพื้นที่รูฟทอปกลางแจ้งกว่า 2,500 ตร.ม. เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.67 นี้

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสนับสนุนให้มีสถานบันเทิงครบวงจร หวังดึงเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว ที่ต้องการให้ถึง 3 ล้านล้านบาท ซึ่งตนมองว่าทาง AWC ยังเน้นทุกโครงการให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว แต่โมเดลของทางรัฐบาล ที่มีการลงทุนกาสิโนด้วยนั้น ตนมองว่ายังไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์ของ AWC และยังไม่มีแผนที่จะร่วมทุนกับใคร เพราะบริษัทฯยังมีอีกหลายโครงการที่จะปรับปรุงให้เป็นจุดหมายปลายทาย ซึ่งไม่มีโมเดลกาสิโนอย่างแน่นอน และอยากให้รัฐบาลช่วยโปรโมทเรื่อง ให้บริษัทข้ามชาติมาใช้สำนักงานในประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ เพราะมองว่าตลาดดังกล่าวยังไม่ค่อยเติบโต โดยในระยะแรกให้จูงใจในเรื่องของการลดหย่อนภาษี หรืออาจไม่เก็บภาษีในช่วงแรกก่อนก็ได้ เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทฯได้ทุ่มงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เตรียมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกกับการรวมห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำบนรูฟทอปมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ให้กับกรุงเทพฯ ที่ EA” Rooftop at The Empire (เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์) สร้างจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ รวม 6 ชั้นกับรูฟ ทอปของ “เอ็มไพร์” ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) รวมพื้นที่รูฟทอปกลางแจ้งกว่า 2,500 ตารางเมตร พร้อมเชิญชวนคนไทย นักท่องเที่ยวและนักชิมจากทั่วโลกให้ได้มาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ ด้วยวิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพและคุ้งน้ำเจ้าพระยาอันงดงามทั้งกลางวันและกลางคืนแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Celebrating The World’s Newest Horizon” โดยมีหลากหลายห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำเริ่มตั้งแต่ ชั้น 55 ที่ “EA Gallery” (เอ-ญ่า แกลลอรี) กับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหารและคาเฟ่กับทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ จากร้าน %Arabica สาขาที่สูงที่สุดในโลก 手qraft ร้านคาเฟ่และเบเกอรี่แบบตะวันออก Onggi ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งแบบเกาหลี และ Invitation Only สปีคอีซี่บาร์สุดชิคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสัมผัสความหรูหราจาก 3 เชฟระดับมิชลินสตาร์ที่ “EA CHEF'S TABLE” (เอ-ญ่า เชฟ เทเบิล) ณ ชั้น 56 กับ “Le Du Kaan” (ร้านฤดูกาล) โดย "เชฟต้น ธิติฏฐ์" นับเป็นห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกของโลก “K by Vicky Cheng” (เคย์ บาย วิคกี้ เชง) ห้องอาหารในต่างประเทศแห่งแรกของเชฟวิกกี้ เชง และ “Sartoria by Paulo Airaudo” (ซาโตเรียอาร์ บาย เปาโล อายราวโด) ห้องอาหารอิตาเลียนแห่งใหม่ล่าสุดของเชฟเปาโล อายราวโด พร้อมไฮไลท์ด้วยห้องอาหาร “Nobu Bangkok” (โนบุ แบงค๊อก) ห้องอาหาร Nobu ที่สูงที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ชั้นไปจนถึง “Nobu Rooftop Bar” ชั้นดาดฟ้า นำเสนออาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยโดยเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ (Chef Nobu Matsuhisa) พร้อมการตกแต่งด้วยศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ โครงการ “EA” นับเป็นการรวมประสบการณ์พิเศษหลากหลาย สร้าง "เอ็มไพร์" สู่การเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นชั้นนำของกรุงเทพฯ กับหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์บนรูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางเมือง บนพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญของสาทร พร้อมรองรับทุกกิจกรรมอีเวนต์ระดับโลก ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ควบคู่กับทัศนียภาพอันงดงามของกรุงเทพฯ ที่จะช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับทุกช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานสุดพิเศษ งานปาร์ตี้ส่วนตัว หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โดยโครงการ “EA” โดยจะเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2567 นี้เป็นต้นไป

 

“AWC รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านโครงการพิเศษระดับโลกที่ ‘EA’ รวมหลากหลายประสบการณ์การเป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟทอป (F&B Rooftop Destination) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมสร้าง “เอ็มไพร์” ให้เป็นทั้งอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปพร้อมกับการเป็นจุดหมายปลายทางรีเทลไลฟ์สไตล์ระดับโลก ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรจากแบรนด์คาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารมากมาย เพื่อนำประสบการณ์อาหารที่ได้รับความนิยมที่สุดของโลก อาทิ อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และอิตาเลียน ที่สร้างสรรค์โดยเชฟระดับเวิร์ลคลาสมาไว้ในที่เดียว  ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ‘EA’ จะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนกรุงเทพฯ พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ของอาคาร "เอ็มไพร์" และร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปด้านอาหาร เครื่องดื่ม และการท่องเที่ยวในระดับสากลอย่างยั่งยืน”นางวัลลภา กล่าว

“EA Gallery” ตั้งอยู่บนชั้น 55 ของ “เอ็มไพร์” เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย นำเสนอความหลากหลายของอาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิงจากร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ที่มีวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ  ประกอบไปด้วย ร้าน %ΔRΔBICΔ สาขาที่สูงที่สุดในโลก ร้านกาแฟชื่อดังที่ได้รับการยอมรับจากคุณภาพของกาแฟและเครื่องดื่มคุณภาพชั้นยอด 手qraft (คราฟท์) ร้านคาเฟ่และเบเกอรี่จากญี่ปุ่น นำเสนอเมนูบรันช์และเบเกอรี่สไตล์ตะวันออกกับเมนูขนมอบและอาหารระดับกูร์เม่ต์หลากหลายชนิด และ Onggi ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งแบบเกาหลี พร้อมมอบประสบการณ์ของการรับประทานอาหารเกาหลีชั้นเลิศแบบฉบับต้นตำรับแท้ๆ รวมถึง Invitation Only บาร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งสุดชิคในโทนสีแดง พร้อมเชิญชวนแขกให้มาสัมผัสกับแนวคิดบาร์สปีคอีซี่ที่ไม่เหมือนใคร

ห้องอาหาร “Le Du Kaan” (ร้านฤดูกาล) โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์อย่าง “เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร” ตั้งอยู่ ณ  “EA CHEF’S TABLE“ ชั้น 56 โดยถือเป็นห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกของกรุงเทพฯ นำเสนอประสบการณ์ที่ผสมผสานอาหารไทยร่วมสมัยเข้ากับศิลปะการเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง เพื่อทำให้ทุกๆ จานเป็นเสมือนการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและวัตถุดิบคุณภาพในท้องถิ่นอันโดดเด่นของประเทศไทยที่คัดสรรมาจากชาวนาและชาวประมงไทยโดยตรง นำเสนอผ่านรสชาติแบบไทยร่วมสมัยและศิลปะการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหรากับโซนรับประทานอาหารหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ร้านอาหารแบบสบายๆ บาร์เลานจ์ในร่มสุดชิค อุโมงค์ Eexperience Tunnel และบาร์กลางแจ้งสีสันสดใสกับพื้นที่ระเบียงกลางแจ้งขนาดใหญ่กว่า 835 ตารางเมตร เติมแต่งฉากหลังอันงดงามด้วยทิวทัศน์ของเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา รังสรรค์เป็นพื้นที่อันสมบูรณ์แบบในการชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือกรุงเทพฯ พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายที่ผนวกวัฒนธรรมไทยเข้ากับความประณีตและรสนิยมเหนือชั้น สู่การเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 ห้องอาหาร “K by Vicky Cheng” ณ  “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 กับห้องอาหารในต่างประเทศแห่งแรกของเชฟระดับมิชลินชาวฮ่องกงอย่างเชฟวิคกี้ เชง (Vicky Cheng) มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนร่วมสมัยที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารจีนรูปแบบใหม่ผ่านการผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส ผนวกกับแนวคิดด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์จากแรงบันดาลใจของภูมิปัญญาโบราณของ 24 ภาวะตามปฏิทินจีนที่ผสมผสานอาหารจีนร่วมสมัยเข้ากับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเพื่อดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ฤดู สะท้อนการผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมผ่านวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ภายในห้องอาหารได้รับการออกแบบอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์ร่วมสมัยกับมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ผ่านโทนสีแดงเบอร์กันดีเข้มและศิลปะแบบจีนสะดุดตา สะท้อนถึงความเคารพต่ออดีตและการโอบรับปัจจุบัน รวมถึงลวดลายกิเลนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาวและความมั่งคั่ง เสริมให้ภายในห้องอาหารโดดเด่นและรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมยิ่งขึ้น พร้อมทัศนียภาพงดงามของกรุงเทพฯ สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ เคียงคู่เมนูอาหารที่ยกระดับสู่ความเป็นนานาชาติเป็นครั้งแรกของเชฟวิคกี้ เชง

 

“Sartoria by Paulo Airaudo” ตั้งอยู่ ณ  “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 นำเสนอนิยามใหม่ของเมนูอาหารอิตาเลียนคลาสสิกร่วมสมัยกับเมนูสุดพิเศษที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเชฟระดับมิชลินอย่าง “เชฟเปาโล อายราวโด”(Paulo Airaudo) ที่กลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกร่วมและความลุ่มลึกให้กับแขกผู้มาเยือน นำเสนอประสบการณ์หรูหราเหนือระดับกับโลกของอาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งชั้นสูง ผ่านการผสมผสานความอุดมสมบูรณ์แบบอิตาเลียนคลาสสิกในบรรยากาศอันรุ่มรวย พร้อมเมนูชั้นเลิศที่นำเสนอรสชาติอิตาเลียนแบบดั้งเดิมผ่านการตีความแบบร่วมสมัย จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดตามฤดูกาลในแต่ละช่วงซึ่งคัดสรรมาจากผู้ผลิตท้องถิ่นในประเทศไทย พร้อมเชื้อเชิญให้แขกได้ชมศิลปะการทำอาหารอย่างใกล้ชิดผ่านครัวแบบเปิด กับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์ผ่านการผสานเมนูอาหารชั้นเลิศ ศิลปะการทำอาหารชั้นสูง และทัศนียภาพอันงดงามยามค่ำคืน โดยมีฉากหลังอันสมบูรณ์แบบเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาสุดพิเศษของการรับประทานอาหารท่ามกลางวิวพาโนรามาที่งดงามของกรุงเทพฯ บน “เอ็มไพร์”

ห้องอาหาร “Nobu Bangkok” มีทั้งหมด 3 ชั้น รวมถึงชั้นดาดฟ้าของ “เอ็มไพร์” นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผสานศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลด้านอาหารจากเปรู โดยเชฟระดับตำนานอย่างเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การมาเยือนในฐานะห้องอาหารโนบุแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นห้องอาหารโนบุที่สูงที่สุดในโลก ด้วยวิวพาโนรามาอันงดงามของกรุงเทพฯ ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าประทับใจเหนือระดับให้กับผู้มาเยือน ด้วยการบริการชั้นเลิศและเมนูอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เชฟโนบุได้รังสรรค์เมนูอันโดดเด่นผ่านทักษะความเป็นเลิศด้านการทำอาหาร ช่วยสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันน่าจดจำให้กับมื้อสำคัญ หรือค่ำคืนอันน่าประทับใจ กับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือนไปอีกยาวนาน

“Nobu Bangkok” ได้รับการออกแบบอย่างงดงามโดยบริษัทออกแบบระดับโลก Rockwell Group ด้วยแรงบันดาลใจจากสุนทรียะศิลปะแบบไทยและญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ด้วยโทนสีทองและงานแกะสลักสุดวิจิตรจากแรงบันดาลใจของวัดไทยสู่ความเรียบหรูในแบบฉบับญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์โนบุออกมาผ่านทุกองค์ประกอบได้อย่างพิถีพิถัน นำเสนอประสบการณ์ตั้งแต่การรับประทานอาหารอย่างเป็นส่วนตัวภายใต้บรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องชาญี่ปุ่นและไทย พื้นที่ระเบียงกลางแจ้งสำหรับจัดอีเว้นท์ บาร์ซูชิหินอ่อนอันงดงามและเพดานกระจกสุดตระการตา ในขณะที่รูฟทอปชั้นดาดฟ้าได้รับการเนรมิตให้เป็น “Nobu Rooftop Bar” พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยอินฟินิตี้พูลและประติมากรรมทรงโค้งขนาดใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกๆ ชั้น

“EA”ไม่เป็นแค่เพียงการรวมตัวของห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ แต่ยังเป็นการสร้างจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งใหม่ล่าสุดของ “เอ็มไพร์” ในฐานะผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นของกรุงเทพฯ ที่ซึ่งวิถีชีวิตด้านการทำงาน สมัยใหม่ และการพักผ่อนหย่อนใจได้มาบรรจบกันอย่างลงตัว บนทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญที่รายล้อมไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและวิวเมืองอันงดงามแบบพาโนรามา ที่พร้อมดึงดูดคนทำงานสมัยใหม่และองค์กรชั้นนำระดับโลก รวมถึงนักเดินทางและนักชิมมาสู่ “เอ็มไพร์” พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ให้กับอาคารสำนักงานแบบไลฟ์สไตล์ระดับแฟลกชิปของ AWC เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจอาคารสำนักงานของประเทศไทย และสนับสนุนกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองหลวงชั้นนำระดับโลก

สัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารสุดพิเศษ ณ จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่หรูหราที่สุดในกรุงเทพฯ ณ “EA” พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

 

 

You can share this post!