ไรมอน แลนด์ ชำระคืนหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 1 มูลค่า 126 ล้านบาท และหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 3 มูลค่า 162 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 9 ก.ย.67 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มั่นใจจ่ายชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไปในวันที่ 20 ก.ย.67 ได้ครบเต็มจำนวนแน่นอน พร้อมย้ำหุ้นกู้ RML ทุกรุ่นจ่ายดอกเบี้ยและไถ่ถอนเงินต้นครบตรงตามกำหนดทุกงวด สะท้อนการบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสรพงษ์ มาเมือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ชำระคืนหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 1 มูลค่า 126 ล้านบาท และหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 3มูลค่า 162 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 9 ก.ย.67 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มั่นใจจ่ายชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไปในวันที่ 20 กันยายน 2567 ได้ครบเต็มจำนวนแน่นอน พร้อมย้ำหุ้นกู้ RML ทุกรุ่นจ่ายดอกเบี้ยและไถ่ถอนเงินต้นครบตรงตามกำหนดทุกงวด สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ สามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ การชำระหนี้ของบริษัทฯ เป็นไปตามกำหนดทุกครั้ง โดยไม่เคยผิดนัดชำระดอกเบี้ยทั้งในส่วนของหุ้นกู้และหนี้จากสถาบันการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวินัยทางการเงินที่เข้มงวดและการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอให้ผู้ถือหุ้นกู้มั่นใจได้ว่าสำหรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566 ชุดที่ 1 มูลค่า 118 ล้านบาท เราเตรียมพร้อมเต็มที่และจะชำระคืนครบ 100% อย่างแน่นอน”นายสรพงษ์ กล่าว
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 บริษัทฯ วางแผนเดินหน้าสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมปิดการขายคอนโดฯ ลักชัวรี่ “เทตต์ สาทรทเวลฟ์”(Tait Sathorn 12) ที่เหลือเพียง 4 ยูนิตสุดท้าย พร้อมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ยูนิตทั้งหมดให้แก่ลูกค้าภายในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ประจำจากโครงการอาคารสำนักงานลักชัวรี่เกรด A+ “โอซีซี”ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานและค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 72% และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 80% ภายในสิ้นปี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการขาย Private Sales คฤหาสน์อัลตร้าลักชัวรี่ “THE 528 ESTATE”และยูนิตพิเศษของคอนโดฯริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เดอะ ริเวอร์”ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินและการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน