news-details
Business

เงินบาท"อ่อนค่าเล็กน้อย" เปิดเช้านี้ 33.27 บาท/ดอลลาร์ ระวังความผันผวนช่วงรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

เงินบาท“อ่อนค่าลงเล็กน้อย” เปิดเช้านี้ 33.27 บาท/ดอลลาร์ กรุงไทย เตือนระวังความผันผวนช่วงรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ มองกรอบวันนี้ คาดจะอยู่ที่ 33.10-33.40 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.27 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.21 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่โดยรวมยังคงแกว่งตัวในกรอบ 33.10-33.30 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินไว้ในวันก่อนหน้า หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นผลการประชุม FOMC ของเฟดในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสฯ ตามเวลาในประเทศไทย ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจนต่อไป ทำให้โดยรวม เงินดอลลาร์ยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideways เช่นเดียวกันกับราคาทองคำที่ยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน หลังจากปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงนี้

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม รวมถึงยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) และคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 โดย Atlanta Fed ซึ่งหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังกล่าว ออกมาแย่กว่าคาดและส่งสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่า เฟดอาจเร่งลดดอกเบี้ย -50bps ได้ในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามมุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมรอลุ้น รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนกันยายน

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideways แถวโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อนได้ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟด ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสฯ นี้ ทำให้เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับเปลี่ยนสถานะถือครองสินทรัพย์อย่างชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ผลการประชุมเฟดดังกล่าว อย่างไรก็ดี ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ รวมถึงราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน เนื่องจากโฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อเงินบาทพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน บรรดานักลงทุนต่างชาติก็อาจทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทยออกมาได้บ้าง ซึ่งอาจช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทก่อนที่ตลาดจะทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟดได้

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย (ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ) โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ก็อาจลดความคาดหวังของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดลงได้บ้าง แต่อาจไม่มากนัก ทำให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นบ้าง กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาท เปิดโอกาสให้เงินบาทสามารถอ่อนค่าลงทดสอบโซน 33.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้

ในทางกลับกัน หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นในตลาดว่า เฟดจะเริ่มเร่งลดดอกเบี้ยลงได้ กดดันให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจปรับตัวลดลงต่ออีกครั้ง ส่งผลให้ ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดใหม่ ส่วนเงินบาทก็อาจแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 33.10-33.15 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หรือเสี่ยงที่จะหลุดโซนแนวรับดังกล่าว จนไปถึงแนวรับสำคัญ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมินไว้เมื่อต้นสัปดาห์ได้

เรายังคงมองว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หรือ การปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.40 บาท/ดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

You can share this post!