ซีบีอาร์อี เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯย่านศิริราช เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นทำเลทองแห่งอนาคต สืบเนื่องจากแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟธนบุรีและสถานีรถไฟศิริราช ในขณะที่ดีมานด์ยอดขายที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมบริเวณรอบทำเลศิริราช ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร พบว่ามีอัตราขายเฉลี่ยสูงถึง 81% ณ ครึ่งแรกของปี 2567 ด้าน “ดิ อัมรินทร์” เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี ยึดทำเล รพ.ศิริราช ปักหมุดปั้นโปรเจกต์ใหม่ “อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น” รับปัจจัยบวก จับตลาดหลักกลุ่มแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ชูจุดเด่นใกล้สถานีรถไฟฟ้าสามสาย
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯย่านศิริราชว่า ถือเป็นทำเลทองแห่งอนาคต อ้างถึงแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟธนบุรีและสถานีรถไฟศิริราช ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล) และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ให้เป็นเมืองแห่งการแพทย์ (Medical District) ซึ่งมีพื้นที่โดยรวมประมาณ 148 ไร่ โดยระยะแรก นำร่องพัฒนาที่ดิน 14 ไร่เป็นฮับการแพทย์ ที่พักอาศัย และคอมมูนิตี้มอลล์แบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ซึ่งแผนระยะแรกนี้ยังมีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์การเดินทางเชื่อมต่อที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะในอนาคตจะสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่สายสีน้ำเงิน ซึ่งปัจจุบันเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสายสีส้ม สายสีแดงอ่อน (ส่วนต่อขยายในอนาคต)
ด้วยเมกะโปรเจกต์ข้างต้น ส่งผลให้ย่านศิริราชกลายเป็นอีกทำเลหนึ่งของย่านกลางเมืองกรุงเทพฯ (Midtown) ที่เรียกได้ว่าเป็นทำเลแห่งอนาคต ประกอบกับการที่มีดีมานด์อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ของกลุ่ม นักศึกษาแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มคนทำงานที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยัง CBD ได้เพียงไม่กี่สถานี จึงส่งผลให้ที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมบริเวณโดยรอบทำเลศิริราชที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร มีอัตราขายเฉลี่ยสูงถึง 81% ณ ครึ่งแรกของปี 2567 โดยมีความต้องการของผู้ซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองกับการซื้อเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่องซึ่งให้ผลตอบแทนประมาณ 5-6% ต่อปี” นางสาวอาทิตยา กล่าว
ด้านนายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “อรุณ” (AROON) กล่าวว่า จากปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อทำเลโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช บริษัทจึงวางแผนธุรกิจในระยะ 3 ปีว่า บริษัทยังคงวางแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ใกล้เคียงโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งจะพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมิเนียม Low Rise ภายใต้ แบรนด์ “อรุณ” โดยยังคงยึดแนวคิดการพัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นเรื่องของคุณภาพ ความลักชัวรี่ ความเป็นส่วนตัว การให้ความคุ้มค่า มากกว่าราคาที่ลูกค้าจ่าย ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นจับตลาดกลุ่มลูกค้าหลักทั้งผู้อยู่อาศัยจริง กลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า
ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินสะสมรวมถึงที่ดินของครอบครัวที่รอการพัฒนารวมกว่า 400 ไร่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงบนทำเลใกล้โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ที่ดินบางแปลงสามารถนำมาพัฒนาได้ทันที แต่บางแปลงต้องรอให้หมดสัญญาเช่าจากผู้เช่ารายเดิมก่อน ล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “อรุณ” คือ โครงการ “อรุณ ศิริราช ทริปเปิ้ล สเตชั่น” (AROON SIRIRAJ TRIPLE STATION) โครงการในรูปแบบคอนโดมิเนียม Low Rise มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท จำนวน 170 ยูนิต บนทำเลถนนจรัญสนิทวงศ์ 32 ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์เพียง 120 เมตร ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีแดงอีกด้วย
นายอรรถวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทยังคงพัฒนาโครงการในทำเลโรงพยาบาลศิริราช ต่อเนื่องเป็นโครงการที่ 3 เนื่องจากมองเห็นว่าในทำเลดังกล่าวยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อสะสมและปล่อยเช่าด้วย
“นับตั้งแต่บริษัทพัฒนาโครงการแรก คือ ดิ อัมรินทร์ เรสสิเดนซ์ (The Amarin Residence) เซอร์วิส อะพาร์ตเมนต์ ก็ประสบความสำเร็จมีผู้เช่าเต็มตั้งแต่เปิดให้บริการได้เพียงอาทิตย์เดียว เมื่อพัฒนาโครงการที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ภายใต้แบรนด์อรุณ (AROON) ก็สามารถปิดโครงการได้ภายในปีแรก และกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรก็สามารถขายต่อทำกำไรได้อย่างดี นักลงทุนบางรายสามารถขายทำกำไรได้มากถึง 28.5% ส่วนนักลงทุนผู้ซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็สามารถปล่อยเช่าได้อย่างต่อเนื่อง”นายอรรถวุฒิ กล่าว
นายอรรถวุฒิ กล่าวต่อว่าในระยะ 1-3 ปีนี้ยังคงโฟกัสการพัฒนาโครงการในทำเลใกล้โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมองว่ายังมีฐานลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยอีกจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทต้องการสร้างแบรนด์อรุณให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เมื่อขยายพื้นที่การพัฒนาไปในทำเลอื่นจะทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ การจับตลาดกลุ่มแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นความท้าทายค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นบุคคลที่ใส่ใจในรายละเอียด และมีความต้องการที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา หากสามารถพัฒนาโครงการและตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้ เชื่อว่าจะสามารถทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าอื่นได้ไม่ยากเช่นกัน