ความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ได้ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของผู้ลงทุนที่รู้สึกถูกเอาเปรียบจากการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ไม่ถูกต้องในช่วงเวลาหนึ่ง ปี 2564 ถึงกลางปี 2566 หลังจากที่บริษัทได้ถูกแฉถึงการจัดทำงบการเงินที่บิดเบือน โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์กลางในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหาย
ข้อมูลสำคัญ
ตั้งแต่การลงทะเบียนผู้เสียหายในช่วงแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ลงทุนมากถึง 1,759 ราย ลงทะเบียนความเสียหายรวมถึง 4,039 ล้านบาท และต่อมาในรอบที่สองยังมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก 1,207 ราย ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อคัดเลือกโจทก์ตัวแทนผู้เสียหายเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การฟ้องคดี
วันที่ 6 มิถุนายน 2567 ถือเป็นวันสำคัญเมื่อโจทก์ตัวแทนได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลข พ.1061/2567 โดยฟ้องบริษัท STARK และกรรมการที่เกี่ยวข้อง รวม 10 ราย ในข้อหาละเมิดและการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ขอบเขตการฟ้อง
ผู้เสียหายจะถูกจัดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อยตามลักษณะการถือหุ้นในช่วงเวลาที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ผิดพลาด และการเรียกค่าเสียหายจะคำนวณจากส่วนต่างราคาหุ้นที่แท้จริง
ขั้นตอนถัดไป
ในวันที่ 6 - 8 พฤศจิกายน 2567 ศาลนัดสืบพยานในคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งหากศาลอนุญาตให้ดำเนินคดีในลักษณะนี้ จะทำให้ผู้เสียหายที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับสิทธิร่วมในการฟ้องร้อง
การสื่อสารและข้อมูลเพิ่มเติม
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยยังคงดำเนินการอัปเดตข้อมูลให้กับผู้เสียหายผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งอีเมลและเว็บไซต์ของสมาคมที่ www.thaiinvestors.com ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับผู้เสียหายในการติดตามความคืบหน้าในคดี
การดำเนินคดีแบบกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้ลงทุนในประเทศไทยไม่ควรนิ่งเฉยต่อความไม่โปร่งใสในตลาดหลักทรัพย์ และคาดหวังว่าผลจากคดีนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบการกำกับดูแลที่ดีขึ้นในอนาคต