news-details
Business

JLL เซ็นสัญญามอบหมาย “ริชมอนทส์”นำ 2 โครงการอสังหาฯลอนดอน เสนอขายนักลงทุนไทย ชู Yield สูง 6.5% ต่อปี ครอบครองที่ดินได้ยาวถึง 999 ปี

โจนส์ แลง ลาซาลล์(ลอนดอน) เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯในลอนดอน ซัปพลายยังน้อยกว่าดีมานด์ ราคาต่ำสูงเริ่มที่ 15 ล้านบาท เทียบเท่าย่านทองหล่อ หรือไพร์มสุขุมวิท ขณะที่ Yield สูง 6.5% ต่อปี มากกว่าอสังหาฯในกทม. และสิทธิ์การเช่านานถึง 999 ปี ล่าสุดเซ็นสัญญากับริชมอนทส์ มอบหมาย นำ 2 โครงการ Ebury - Eastman Village เสนอขายนักลงทุนไทยปลายก.ย. และต้นต.ค.67

 

นายเจมส์ พัดเดิ้ล หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัยในต่างประเทศ, ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โจนส์ แลง ลาซาลล์ หรือ JLL เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า ปัจจุบันซัปพลายที่อยู่อาศัยยังไม่เพียงพอต่อดีมานด์ ที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านแนวราบความต้องการจะมีสูงมาก เพราะระบบกฎหมายในอังกฤษจะมีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองกฎหมายของโลก รวมไปถึงเป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลก และเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับสูงกว่าเมืองอื่นๆในโลก ขณะเดียวกัน Tax ก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ เพียงแค่ 12% เท่านั้น ซึ่งอยู่ในอัตราที่แข่งขันได้ ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยบางโครงการก็ไม่แตกต่างมากโดยราคาอสังหาฯที่ลอนดอนเริ่มต้นที่ประมาณ 15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับย่านทองหล่อ หรือไพร์มสุขุมวิท ขณะที่มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) รวมอสังหาลอนดอน อยู่ที่ประมาณ 6.5% ต่อปี สูงกว่าอสังหาฯในกรุงเทพฯ ที่มีอัตราผลตอบการแทนจากลงทุน 4-5% ต่อปี และความพิเศษแม้ว่าที่ดินจะเป็นในรูปแบบ Leasehold (สิทธิเช่าตามระยะเวลา) แต่สามารถครอบครองที่ดินได้ยาวถึง 999 ปี

“ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ซัปพลายในเมืองลอนดอนหดลง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา โดยโครงการเริ่มก่อสร้าง -52% ,โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ -7% และโครงการอยู่ในระยะรออนุมัติ -74% โดย JLL ประเมินว่า ราคาขายอสังหาฯในอังกฤษ (Sale price growth) ช่วงปี 2567 - 2571 เติบโตเฉลี่ย 3.3% ต่อปี หากนับราคาขายสะสมในช่วง 5 ปีจากนี้ จะโตถึง 17.6% ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าเช่า (Rental Growth) เฉลี่ย 3.5% ต่อปี หากนับการเติบโตสะสมอยู่ที่ 18.8%” นายเจมส์ กล่าว

นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด โจนส์ แลง ลาซาลล์ ลอนดอน ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือ กับ บริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด (ริชมอนทส์ หรือ Richmont’s) มอบหมายให้นำ 2 โครงการอสังหาฯในกรุงลอนดอน ประเทศ อังกฤษ คือ โครงการ Ebury (อีเบอร์รี)ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ซิตี้ ออฟ เวสมินเตอร์ จำกัด ในพื้นที่ SW1 และ โครงการ Eastman Village (อีสแมน วิลเลจ) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท บารัต ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Barratt Developments PLC) บริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยสร้างบ้านมาแล้วกว่า 50,000 หลัง ให้เป็นตัวแทนขายโครงการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เพียงผู้เดียว นำมาแนะนำและสร้างโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสหราชอาณาจักร และในต่างประเทศอีกหลายแห่งโดยการลงนามความร่วมมือระหว่างฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของJLL และริชมอนทส์ครั้งนี้ มุ่งเน้นการขายและการตลาดสำหรับทั้งโครงการในต่างประเทศที่ต้องการขายและทำการตลาดในประเทศไทย และโครงการในประเทศไทยที่ต้องการขยายฐานการตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ริชมอนทส์นำเสนอให้ลูกค้าผ่านเครือข่ายการขายโครงการพักอาศัยระหว่างประเทศของJLL

โครงการ Ebury (อีเบอร์รี)ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ซิตี้ ออฟ เวสมินเตอร์ จำกัด ในพื้นที่ SW1 ตั้งอยู่ในทำเลสุดพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นย่านทำเลทอง (golden postcode) อย่าง Belgravia, Chelsea และ Westminster ใกล้แม่น้ำและอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งของกรุงลอนดอน รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Sloane Square และ Victoria ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่พักอาศัยที่อยู่ในทำเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและดีที่สุด ใจกลางลอนดอน ประกอบไปด้วยอาคารพักอาศัย 9 อาคาร มีทั้งอะพาร์ตเมนต์รูปแบบ 1, 2, 3 ห้องนอน และ 3 หรือ 4 ห้องนอนดูเพล็กซ์ ราคาเริ่มต้นที่ ประมาณ 38.9 ล้านบาท โดยริชมอนทส์จะจัดงานนำเสนอขายโครงการ Ebury ในวันที่ 5-6 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรม Rosewood Bangkok

 

และ โครงการ Eastman Village (อีสแมน วิลเลจ) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท บารัต ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด อยู่ห่างจากใจกลางกรุงลอนดอนเพียง 12 นาที เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นของบารัต ลอนดอนที่แปลงโฉมโรงงานฟิล์ม Kodak ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในย่าน Harrow ราคาเริ่มต้นเพียง 15.5 ล้านบาท อีกทั้งมีการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากการเช่าสูงถึง 6.7% โดยจะนำเสนอขายเฟสล่าสุดในวันที่ 28 กันยายน 2567 ณ โรงแรม The Standard Bangkok

“ข้อตกลงความร่วมมือใหม่ระหว่างเจแอลแอล และริชมอนทส์นี้ถือว่ามาในช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวไทยที่กำลังมองหาสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางของเราในสหราชอาณาจักร เรามีอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทและระดับราคาให้ผู้ซื้อชาวไทยได้เลือก พันธมิตรของเราในสหราชอาณาจักรล้วนเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่พร้อมนำเสนอโอกาสลงทุนต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้นักลงทุนชาวไทยที่ต้องการจัดพอร์ตโฟลิโอเพื่อกระจายความเสี่ยง” นายเจมส์ กล่าว

นายทิม สเคพวิงตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับฝ่ายธุรกิจโครงการพักอาศัยในต่างประเทศของ JLL ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับบริษัทฯที่จะขยายขอบเขตการให้บริการ และช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรแก่ลูกค้าชาวไทย ริชมอนทส์และJLL พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าตลอดกระบวนการซื้อจนเสร็จสิ้น โดยมีเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์ทั้งในกรุงลอนดอนและกรุงเทพฯ ให้บริการ

“อสังหาฯในอังกฤษมีการเช่าเปลี่ยนมือที่เร็วกว่าประเทศไทย เพราะที่อังกฤษนิยมเช่ามากกว่าซื้อ โดยปัจจุบันทั้ง 2 โครงการ มียอดขายแล้วประมาณ 750 ล้านบาท และนักลงทุนไทยที่มาซื้ออสังหาฯในลอนดอน จะเป็นผู้ปกครองที่ส่งลูก-หลานไปเรียนอังกฤษ เมื่อลูกเรียนจบก็สามารถปล่อยเช่าระยะยาวได้”นายทิม กล่าว

สำหรับพอร์ตของบริษัทฯ ในปัจจุบันมีอสังหาฯระดับลักชัวรี ราคาไม่เกิน 30 ล้านบาท ในสัดส่วน 31% และอสังหาฯระดับอัลตร้าลักชัวรี ราคามากกว่า 30 ล้านบาท สัดส่วน 69% โดยช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายมากกว่า 4,900 ล้านบาท

 

 

 

You can share this post!