news-details
Business

“ศุภาลัย”ลุ้นปี’68 ภาครัฐปรับลดดอกเบี้ยเผยภาคอสังหาฯต้องการจุดเปลี่ยน ไตรมาส 4/67 จ่อผุด 10 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท

ศุภาลัยฯคาดภาครัฐอาจเตรียมมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯปี 68 โดยเฉพาะปรับลดดอกเบี้ย เหตุอสังหาฯต้องการจุดเปลี่ยน โอดภาพรวมตลาดปี 67 เป็นปีที่ยาก ไม่ค่อยมีข่าวดี มีแต่ข่าวร้าย ผู้ประกอบการลดซื้อที่ดิน-ผุดโครงการใหม่ ขณะที่บริษัทฯพลิกวิกฤตินำคอนโดฯพร้อมโอนอัดแคมเปญเร่งปิดการขาย ผลตอบรับดี 20-30 ยูนิต/เดือน ทั้งจากลูกค้าไทย-ต่างชาติ มั่นใจยอดขาย-รายได้ยังเป็นตามเป้า ไตรมาส 4 จ่อผุด 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท พร้อมปรับลดเปิดตัวเหลือ 40 โครงการ แต่มูลค่าเท่าเดิม 50,000 ล้านบาท ล่าสุดสนับสนุนกลุ่มครีเอเตอร์จัดงาน  “iCreator Conference 2024” เป็นปีที่ 3 หวังเพิ่มฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ เผยหลังเปิดตัว Supali Affiliate” มีครีเอเตอร์ลงทะเบียนกว่า 1,000 ราย ทำคอนเทนต์แล้ว 500 โพสต์ หวังลุ้นเงินโบนัสสูงสุด 1 ล้านบาท

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาฯปี 2568 ว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าภาครัฐน่าจะเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาได้ดียิ่งขึ้น เพราะในปีหน้าโอกาสที่สถาบันการเงินจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยมีน้อยมาก นื่องจากธุรกิจอสังหาฯต้องการจุดเปลี่ยน และการลดอัตราดอกเบี้ยคือ 1 ในเหตุผลดังกล่าว เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการแทบไม่ค่อยซื้อที่ดินแปลงใหม่ เนื่องจากปี 2567 ได้เปิดตัวโครงการแนวราบไปแล้วจำนวนมาก โดยในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีการปรับพอร์ตการเปิดโครงการใหม่ ซึ่งจะเน้นเป็นการเปิดคอนโดมิเนียมมากกว่าโครงการแนวราบเนื่องจากเห็นยอดขายในช่วงนี้เริ่มกลับมาเติบโตได้เป็นอย่างดี

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 มองว่าเป็นปีที่ยากที่สุด ข่าวดีไม่ค่อยมีแต่ข่าวร้ายมีมาก ขณะเดียวกันก็มองว่าในวิกฤติก็ยังมีโอกาส เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการ ซื้อที่ดินใหม่และ เปิดตัวโครงการใหม่น้อยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เป็นซัปพลายเก่าพร้อมอยู่ ถือเป็นโอกาสที่จะขายได้มากขึ้น สังเกตได้จากในช่วงครึ่งปีแรก 2567ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายคอนโดมิเนียมพร้อมโอนได้มากถึง 20-30 ยูนิต/เดือน กระจายไปในหลายเซกเมนต์และหลายระดับราคา มีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติในสัดส่วนที่เท่ากัน

คาดว่าในปี 2567 นี้ คงไม่มีผู้ประกอบการรายไหน สามารถทำผลประกอบการได้ตามเป้าที่วางไว้ และเชื่อว่าคอนโดมิเนียมที่จะเปิดตัวใหม่ในไตรมาสที่เหลือน่าจะทำยอดขายได้ดีหากเป็นเช่นนั้นเป้ายอดขายและรายได้ในปีนี้ก็ไม่น่าจะหลุดเป้ามากนัก โดยในปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 36,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 36,000 ล้านบาท สำหรับในไตรมาส 4/2567 จะเปิดตัวใหม่ อีก 10 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ  6 โครงการ  และคอนโดฯ 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท จากแผนทั้งปีที่จะเปิดตัวทั้งหมด จำนวน 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แต่ได้ปรับลดลงมาเหลือ 40 โครงการ และมีมูลค่ารวมเท่าเดิมคือ 50,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายที่รอรับรู้รายได้โอน (Backlog) ในมือปัจจุบันอยู่ที่ 16,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 12,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2568-2569 และนอกจากนี้บริษัทยังมีสินค้าพร้อมขายในมือมูลค่ารวมกว่า 117,400 ล้านบาท จึงยังเชื่อว่าในปีนี้ทั้งยอดขายและรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 36,000 ล้านบาท

“ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมองว่าเป็นปีที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อลดลง รวมถึงลูกค้าไม่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงปีนี้ โดยหาขออ้างในการไม่ซื้อ เช่น เป็นห่วงน้ำท่วมที่จ.เชียงราย และเกรงว่าจะท่วมมาถึงกทม.จึงไม่กล้าตัดสินใจซื้อ อีกทั้งมีความไม่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ แต่มองว่ายอดขายคอนโดมิเนียมยังถือว่าทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรกโดยมียอดขายต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 20-30 ยูนิต” นายไตรเตชะ กล่าว

ส่วนการที่ภาครัฐพยายามที่จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปที่ 400 บาท/วัน หากมีการปรับขึ้นได้จริง ภาคอสังหาฯก็จะได้รับผลกระทบมากกว่าบางธุรกิจอย่างแน่นอน เพราะงานก่อสร้างส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อย ขณะที่ผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

และเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ของศุภาลัยฯให้เป็นที่รับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเหล่าไอคอนิกแห่งวงการครีเอเตอร์ บริษัทฯจึงได้สนับสนุนการจัดงาน  “iCreator Conference 2024”เป็นปีที่ 3 เพื่อสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้ และส่งเสริมให้ครีเอเตอร์ไทยในทุกวงการได้ก้าวต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

“ศุภาลัยมีความยินดีที่ได้สนับสนุนงาน iCreator Conference เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เราเห็นมาตลอดว่างานนี้เป็นพื้นที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของคนในวงการครีเอเตอร์ไทย ซึ่งขยายตัวเป็น Community ที่ใหญ่และเข้มแข็งขึ้นในทุกๆปี และในปีนี้เชื่อว่าจะได้เห็นครีเอเตอร์ทั้งรุ่นใหญ่ไปจนถึงน้องใหม่ที่เพิ่งเริ่มสนใจเข้าวงการ มาสร้างสรรค์และแบ่งปันแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวตนและการทำงาน จนหาไอคอนิกของตัวเองได้เจอ การที่ศุภาลัยมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ไม่เพียงแต่เพื่อต้องการสนับสนุนคนรุ่นใหม่และยกระดับวงการครีเอเตอร์ไทยเท่านั้น แต่เรายังมีช่วง Talk Session ที่พร้อมแชร์ประสบการณ์ในฐานะแบรนด์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมงานกับครีเอเตอร์ทั้งสายอสังหาฯ และสายอื่นๆจากหลากหลายแคมเปญ ทำให้เรามี Know How และสามารถสร้าง Content Creation Workflow ที่มีประสิทธิภาพระหว่างครีเอเตอร์และแบรนด์ได้ โดยในปีนี้ได้เราได้คุณเหว่งและคุณเติ๊ด จากช่องเทพลีลามาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ พูดคุยถึงการสร้างตัวตนจนเป็นไอคอนิกครีเอเตอร์ของเมืองไทย พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับในการสร้างคอนเท้นต์ที่เข้าถึงแบรนด์ในมุมมองของศุภาลัย ซึ่งเราหวังว่าประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่เข้าร่วมงาน” นายไตรเตชะ กล่าว

นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทต้องการสนับสนุนให้กลุ่มครีเอเตอร์ เพราะทำให้กลุ่มดังกล่าวมีความเข้าใจสินค้าและหันมาซื้อสินค้าของศุภาลัยฯมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลพอสมควร พบว่าลูกค้าที่มีอายุระหว่าง 26-30 ปี มีเพิ่มเป็น 20กว่า% แซงหน้ากลุ่มอายุ 31-35 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯมีการปรับตัวทั้งสินค้าและการสื่อสาร ทำให้มีลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น

และหลังจากที่บริษัทจัดทำโครงการ Supali Affiliate” เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีกลุ่มครีเอเตอร์ให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 1,000 ราย และที่ผ่านมามีกลุ่มครีเอเตอร์เริ่มผลิตคอนเทนต์แนะนำโครงการของศุภาลัยฯแล้วจำนวนประมาณ 500 โพสต์ ซึ่งคาดว่าครีเอเตอร์ที่เหลือจะทยอยโพสต์แนะนำโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยหากคอนเทนต์ไหนมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ ทางครีเอเตอร์จะได้รับเงิน 500 บาท/ลูกค้า 1 คน และหากมีลูกค้าสนใจจองโครงการ ครีเอเตอร์ก็จะได้รับเงินโบนัสสูงสุดถึง 1 ล้านบาททั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าแต่ละยูนิต

 

You can share this post!