บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE กำลังจะเข้ามาเป็นหุ้นน้องใหม่กลุ่มการแพทย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 268 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายธุรกิจ เพื่อก้าวสู่ผู้นำด้านไบโอเทคแห่งเอเชีย ช่วงที่ผ่านมาเดินสายโรดโชว์ให้ข้อมูลธุรกิจกับนักลงทุนทั่วทุกภูมิภาค ก่อนจะกำหนดวันจองซื้อ และราคาเสนอขาย
เมดีซ กรุ๊ป เป็นใคร ทำธุรกิจอะไร "Fullmax" จะพาไปทำความรู้จัก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนจองซื้อหุ้น ไอพีโอ ที่เตรียมจะเสนอขายให้กับนักลงทุนในเร็วๆ นี้
ความเป็นมา
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านนวกรรมแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดที่ทันสมัยของประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน เริ่มก่อตั้งบริษัทเมื่อ 14 ปีที่แล้ว โดย นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์ รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทฯ ในชื่อบริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น เมดีซ กรุ๊ป ในปี 2561
ลักษณะธุรกิจ
MEDEZE ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) ผ่านบริษัทในกลุ่ม 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด , บริษัท เมดีซ คอสเมซูคิคอล จำกัด , บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด, Medeze Treasury Pte,Ltd.และ Medeze Group Pte,Ltd.
กลุ่มบริษัทฯ บริการครอบคลุมการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาว ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัย ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสรรค์สร้างวิทยาศาสตร์เพื่อการมีชีวิตยืนยาว ถือเป็นบริการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าสูงสุด เพื่อการพัฒนาสุขภาพ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษย์
กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องมากว่า 13 ปี โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ (Stem Cell Banking) ที่เข้มงวดระดับสากล ตามมาตรฐาน Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรชั้นนำในวงการเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ที่ทำงานกับกลุ่มบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทฯ ยังมีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำในประเทศ ไปจนถึงการมีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking)
ลักษณะการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ สามารถจำแนกบริการโดยอ้างอิงจากประเภทเซลล์ ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และ เซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) โดยเซลล์ทั้งสองชนิดมีลักษณะและหน้าที่ที่ต่างกัน ดังนี้
- เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) คือ เซลล์ต้นแบบ เป็นจุดเริ่มต้นของทุกเซลล์ในร่างกาย โดยสามารถแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น เซลล์ผิวหนัง สมอง หัวใจ และกล้ามเนื้อ ซึ่งมีหน้าที่ในการทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพในร่างกาย เพิ่มอายุยืนยาวและต่อต้านความชรา ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นเซลล์ต้นกำเนิดในร่างกายสร้างได้น้อยลง
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ ให้บริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด 2 ชนิด ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Hematopoietic Stem Cell หรือ HSC) ที่พบในเลือดสายสะดือ (Cord Blood) และเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอล (Mesenchymal Stem Cell หรือ MSC) ซึ่งมีอยู่ในเนื้อเยื่อสายสะดือ (Placenta and Cord Tissue) หรือในเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue)
- เซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) คือ เซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกายที่มีคุณสมบัติกำจัดเซลล์มะเร็ง และไวรัสชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Activity) เป็นตัวชี้วัดความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์แปลกปลอมที่เป็นอันตราย รวมทั้งช่วยให้แพทย์ประเมินความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเซลล์แปลกปลอมที่เป็นอันตรายหรือเซลล์มะเร็ง
จุดเด่น
- เป็นผู้นำด้านนวกรรมแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดที่ทันสมัยของประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิด เป็นหัวใจของการรักษาและป้องกันโรคต่าง ๆ และการฟื้นฟูร่างกาย หรือแม้แต่การชะลอวัย
- มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะ"ธุรกิจไบโอเทค" เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพที่สำคัญในอนาคตของการรักษาโรค
- ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 13 ปี มีธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking) ขนาดใหญ่ ครอบคลุมมากกว่า 200 แห่ง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 10,000 คน หรือจำนวนการรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดกว่า 800,000 ล้านเซลล์
นอกจากนี้ ยังมีทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และมีเครือข่ายแพทย์ที่แข็งแกร่งด้วยพันธมิตรกับโรงพยาบาลในประเทศทั้งหมดกว่า 219 โรงพยาบาล
ผลการดำเนินงาน
หากพิจารณางบการเงิน 3 ปี ย้อนหลัง (2564-2566) และงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแข็งแกร่ง
ในส่วนของรายได้ 3 ปีย้อนหลัง
ปี 2564 มีรายได้รวม 446.41 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 595.70 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้ 701.81 ล้านบาท
และงวด 6 เดือนปี 67 ทำได้ 403.61 ล้านบาท
รายได้หลักของ MEDEZE มาจากบริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells)คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 82% และและบริการตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) สัดส่วนประมาณ 16%
ส่วนกำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลัง
ปี 2564 มีกำไร 117.36 ล้านบาท
ปี 2565 มีกำไร 150.71 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 239.57 ล้านบาท
และ 6 เดือนปี 67 มีกำไร 145.79 ล้านบาท
ข้อมูลการขาย IPO
MEDEZE เสนอขายไอพีโอ 268 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท คิดเป็น 25.09% ของจำนวนหุ้นหลังไอพีโอ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
วัตถุประสงค์การระดมทุน
สำหรับแผนการระดมทุนขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ MEDEZE มีแผนจะนำเงินที่ได้
1. เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจเซลล์รากผม (Hair Follicle Cell Bank) ภายในปี 2568
2. เพื่อการลงทุนติดตั้งระบบการทำจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Cell Culture System) ภายในปี 2568
3. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE มีผู้ถือหุ้นหลัก คือ 3 ผู้บริหาร ที่ร่วมก่อตั้งดังที่กล่าวข้างต้น โดยครอบครัวเขมะรังสรรค์ นำโดยนายแพทย์ วีรพล เขมะรังสรรค์ ถือหุ้น 616.85 ล้านหุ้น หรือ 57.76% หลังการเสนอขายไอพีโอ นายแพทย์ จำรัส สกุลไพศาล ถือหุ้น 147.77 ล้านหุ้น หรือ 13.84% หลังการเสนอขายไอพีโอ ศาสตราจารย์ ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย ถือหุ้น 29.54 ล้านหุ้น หรือ 2.77% หลังการเสนอขายไอพีโอ
และนี่คือข้อมูลสรุป คร่าวๆ ของว่าที่หุ้นน้องใหม่ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE
ส่วนราคาไอพีโอ จะเคาะออกมาที่เท่าไหร่ และจะเสนอขายหุ้นในวันไหน อดใจรอกันอีกนิ๊สสสหนึ่ง....!