ในการเข้ารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คนที่ 14 "อัสสเดช คงสิริ" มีความตั้งใจแน่วแน่ในการผลักดันตลาดทุนไทยไปสู่ความสำเร็จ โดยยึดหลักการทำงานเพื่อ “ส่วนรวมและความเท่าเทียม” ด้วยประสบการณ์ในวงการตลาดทุนมาอย่างยาวนาน เขามีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Q: วิสัยทัศน์สำคัญในการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้คืออะไร?
อัสสเดช คงสิริ: การพัฒนาตลาดทุนไม่ได้เป็นเพียงการสร้างผลกำไรให้กับผู้ลงทุนเท่านั้น แต่ต้องทำเพื่อส่วนรวมและเพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคม ผมให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลที่เท่าเทียม (Fairness) และการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงตลาดทุน (Inclusiveness) ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือรายใหญ่ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมในการลงทุนได้ง่ายขึ้น
Q: กลยุทธ์ 3 ปีข้างหน้าจะเน้นอะไรบ้าง?
ขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนกลยุทธ์ 3 ปี (ปี 2568-2570) ซึ่งคาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ แผนนี้จะเน้นการทำให้ตลาดทุนไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล (Re-imagine) และตอบรับต่อกระแสความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งจะเป็นการผสานความเชื่อมั่นและความมั่นคงของตลาดทุน (Trust & Confidence)
Q: มาตรการในการสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาหลังจากวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา?
เราตระหนักดีว่าความเชื่อมั่นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับผลกระทบจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อออกมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อผู้ลงทุน มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงป้องกันปัญหาในระยะสั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับตลาดทุนในระยะยาว
Q: ทิศทางของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเป็นอย่างไร?
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ เราคาดว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้น ด้วย GDP ของประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรก รัฐบาลก็ได้มีมาตรการสนับสนุนตลาดทุน เช่น กองทุน Thai ESG และกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดมากขึ้น
Q: ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ คืออะไรบ้าง?
เรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อดึงดูดนักลงทุน เช่น การผลักดันบริษัทจดทะเบียนให้สร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนมากขึ้น แรงบันดาลใจมาจากโมเดลของตลาดหุ้นเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งมีโปรแกรมส่งเสริมการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น เรากำลังศึกษาและปรับใช้ในประเทศไทย และคาดว่าจะเสนอแผนต่อคณะกรรมการในปลายปีนี้
Q: บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการส่งเสริมการออมและการลงทุนให้เข้าถึงทุกคนเป็นอย่างไร?
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของเราคือการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ โดยเฉพาะผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้การลงทุนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่เพียงแค่ผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น แต่เราต้องการให้คนทุกกลุ่มในสังคมสามารถเริ่มต้นลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
Q: ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีบทบาทในด้านความยั่งยืนอย่างไร?
เรากำลังดำเนินงานเพื่อให้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนความยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เราจะเพิ่มการสนับสนุนบริษัทที่ดำเนินงานตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) และมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการลงทุนที่ยั่งยืน
Q: คุณมีแผนสำหรับการพัฒนาความรู้ทางการเงินให้กับประชาชนอย่างไร?
ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนทั่วไป เราจะใช้ทั้งการอบรมและสื่อออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้น การสร้างความรู้และความเข้าใจนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
Q: สุดท้าย คุณมองเห็นภาพอนาคตของตลาดทุนไทยในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไร?
ในอีก 5 ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่าตลาดทุนไทยจะเติบโตไปพร้อมกับการเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน เรามีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก หากเราสามารถทำให้ตลาดทุนเป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ผมมั่นใจว่าอนาคตของตลาดทุนไทยจะสดใสและมีความสำเร็จอย่างยั่งยืน
การสัมภาษณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ อัสสเดช คงสิริ ในการนำพาตลาดทุนไทยไปสู่การพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความเท่าเทียม การยั่งยืน และการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
นายอัสสเดช คงสิริ
กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การศึกษา
• ปริญญาตรี Mechanical Engineering, University of Manchester สหราชอาณาจักร
หลักสูตรนักบริหาร
ตำแหน่งงานอื่นในปัจจุบัน การดำรงตำแหน่งในบริษัทจำกัดหรือกิจการอื่น
ประสบการณ์การทำงาน