ในสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมรถบรรทุกในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย ยูดี ทรัคส์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการขนส่ง วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ "วิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว" รองประธานกรรมการ ฝ่ายสนับสนุนการขาย และ "นริศรา คุ้มไข่น้ำ" รองประธานกรรมการ ฝ่ายการตลาด บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับแนวทางการเติบโต การพัฒนาเทคโนโลยี และความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม
ถาม: ภาพรวมของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยตอนนี้เป็นอย่างไร และยูดี ทรัคส์ มีแนวทางการปรับตัวอย่างไร?
วิลาวัลย์: “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถบรรทุกในไทยมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดโควิด ตลาดลดลงไปกว่า 30% หลังจากนั้นในปี 2021-2022 มีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ในปีที่ผ่านมาและปีนี้ ตลาดกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง คาดการณ์ว่าปีนี้จะลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และความไม่เสถียรทางการเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนและผู้ประกอบการในภาคขนส่งชะลอการลงทุน”
“ถึงแม้ภาพรวมตลาดจะไม่ค่อยดี แต่ ยูดี ทรัคส์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2019 เรามีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 5% และในปีนี้เรามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 10% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผลิตภัณฑ์ของเราเริ่มได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า และเราเองก็เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การลดต้นทุนขนส่งและความยั่งยืน”
ถาม: ยูโร 5 มีบทบาทอย่างไรในการเติบโตของยูดี ทรัคส์ และเทคโนโลยี SCR ที่คุณกล่าวถึงมีความสำคัญอย่างไร?
วิลาวัลย์: “ยูโร 5 จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมรถบรรทุกในปีนี้ เราเลือกใช้ระบบ SCR (Selective Catalytic Reduction) ในการบำบัดไอเสีย ซึ่งต่างจากระบบการหมุนเวียนไอเสียกลับมาเผาไหม้ซ้ำ (EGR) โดยระบบ SCR จะใช้ AdBlue ฉีดเข้าไปในกระบวนการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อเปลี่ยนไนโตรเจนออกไซด์ให้กลายเป็นไอน้ำและไนโตรเจนที่ไม่เป็นอันตราย ช่วยลดมลพิษ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์”
“ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือช่วยยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจาก 40,000 กิโลเมตรเป็น 60,000 กิโลเมตร ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาได้มากขึ้น ที่สำคัญคือเป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน ลดการบำรุงรักษาเพิ่มเติม และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
ถาม: ในปีหน้ามีแผนการตลาดและการขยายธุรกิจอย่างไรบ้าง?
นริศรา: “ในปีหน้า เราจะเน้นการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ ยูโร 5 ให้กับลูกค้า ผ่านการจัดกิจกรรม โร้ดโชว์ ทั่วประเทศ ลูกค้าจะได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเราและเข้าใจถึงข้อดีของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านการลดต้นทุนขนส่ง นอกจากนี้เรายังมีแคมเปญต่างๆ ที่เน้นช่วยลดต้นทุนให้ลูกค้า เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี และแถมน้ำยา AdBlue เพื่อช่วยลดมลพิษ”
“อีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญคือ การแข่งขันขับรถ Volvo Trucks Driver Challenge และ UD Extra Mile Challenge เพื่อส่งเสริมการพัฒนาฝีมือผู้ขับขี่ และผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันระดับโลก ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงศักยภาพของคนไทย”
ถาม: ยูดี ทรัคส์ มีแผนขยายเครือข่ายศูนย์บริการอย่างไรบ้างในอนาคต?
วิลาวัลย์: “ตอนนี้เรามีศูนย์บริการอยู่ 24 แห่งทั่วประเทศ และในปีหน้าเรามีแผนจะเพิ่มอีก 4 แห่ง รวมเป็น 28 แห่ง เรามองว่าภายในปี 2029-2030 เราจะขยายศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศให้ครบ 50 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าที่ใช้บริการของเรา”
ถาม: ในด้านการส่งออก ยูดี ทรัคส์ มีเป้าหมายอย่างไร?
วิลาวัลย์: “ปีที่ผ่านมา เรามีการส่งออกรถบรรทุกไปยังตลาดต่างประเทศมากกว่า 2,000 คัน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตได้ดี เรากำลังขยายกลยุทธ์ไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น แอฟริกา ซึ่งมีศักยภาพสูง และเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาดเหล่านี้”
ถาม: ยูดี ทรัคส์ มีการทำ CSR อย่างไรบ้างในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม?
นริศรา: “เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียนในพื้นที่ชนบท เรามีการจัดโครงการฝึกอบรมความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในการใช้ถนนร่วมกับรถบรรทุก เช่น การจัดกิจกรรมที่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่ร่วมถนนกับรถบรรทุก ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมาก เราเชื่อว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การรณรงค์ใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นพัฒนาในอนาคต”
ถาม: อนาคตของยูดี ทรัคส์ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?
วิลาวัลย์: “เรามองว่าในอนาคต ยูดี ทรัคส์ จะยังคงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีขนส่งที่ยั่งยืน เราจะยังคงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน นอกจากนี้ เรามุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ทั้งในด้านบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เรายังคงเดินหน้าขยายตลาด และเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีของเราจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมขนส่งของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน”
การสัมภาษณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ยูดี ทรัคส์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และยังคงใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เทคโนโลยี ยูโร 5 และระบบ SCR ที่นำมาใช้ไม่เพียงแต่ช่วยลดมลพิษ แต่ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทในระยะยาว