news-details
Business

เครือดุสิตธานี เตรียมอวดโฉม เพนท์เฮาส์หรู 900 ตารางเมตร แพงสุดเป็นประวัติศาสตร์คอนโดฯ Leasehold จ่อดึงแบรนด์เนมดังระดับโลกร่วมโปรโมทสินค้า คาดเคาะราคาได้ปลายปี 67 หรือต้นปี 68

เครือดุสิตธานี เผยคอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรี “เดอะ เรสซิเด้นเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”ยอดขายพุ่งแล้วกว่า 80% เตรียมเซอร์ไพรส์วงการอสังหาฯ อวดโฉมเพนท์เฮาส์ ขนาด 900 ตารางเมตรราคาแพงสุดเป็นประวัติศาสตร์คอนโดฯ Leasehold ชูจุดขายให้ลูกค้าร่วมดีไซน์ห้อง แย้มจ่อดึงแบรนด์เนมดังระดับโลก ร่วมทำตลาดโปรโมทสินค้า คาดเคาะราคาได้ปลายปี 67 หรือต้นปี 68 จ่อผุดอีก 1 โปรเจกต์ใหม่เร็วๆนี้

 

นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บิ๊กโปรเจกต์ ย่านพระราม 4 “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (Dusit Central Park) ในเครือบริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางโรงแรม “ดุสิต กรุงเทพ” เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ในส่วนของโซนที่อยู่อาศัยนั้น หลังจากที่ประกาศเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี “เดอะ เรสซิเด้นเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (The Residences at Dusit Central Park) ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบรนด์ที่อยู่อาศัย คือ “ดุสิต พาร์คไซด์”ซึ่งอยู่ชั้น 9-29 และ  “ดุสิต เรสซิเด้นเซส” อยู่ชั้น 30-69 รวม 406 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 55-900 ตารางเมตร  ปัจจุบันราคาขายเริ่มต้นที่ 17-100 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาเฉลี่ยที่ 390,000 บาท/ตารางเมตร ปรากฏว่าปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 80% โดยแบ่งเป็นลูกค้าคนไทย สัดส่วน 80% และต่างชาติ 20% กระจายไปในกลุ่มชาวสหรัฐ,ยุโรป และเอเชีย

โดยในส่วนห้องเพนท์เฮาส์นั้น มีทั้งหมด 7 ยูนิต ปัจจุบันขายไปแล้ว 4 ยูนิต และประมาณปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 จะนำเพนท์เฮาส์ห้องใหญ่สุด ขนาด 900 ตารางเมตร ซึ่งมีเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น มาเปิดขาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคา แต่มั่นใจว่าจะเป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยของคอนโดฯที่ตั้งบนที่ดิน Leasehold ซึ่งขณะนี้มีลูกค้ทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจแล้ว 3 ราย โดยความพิเศษนี้เพนท์เฮาส์ยูนิตนี้ ลูกค้าจะมีส่วนในการดีไซน์ห้องด้วย และทางบริษัทฯมีแผนที่จะดึงแบรนด์เนมดังระดับโลก มาร่วมทำตลาดกับเพนท์เฮาส์ ขนาด 900 ตารางเมตรนี้ด้วย ซึ่งจะสามารถสร้างความโดดเด่นให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับห้องชุดที่เหลืออีกประมาณ 70 ยูนิต คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปลายปี 2568

 

ทั้งนี้แม้ว่าที่ดินที่ตั้งโครงการจะเป็น Leasehold เช่าระยะยาว 30 ปี บวก 30 ปี แต่ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้า เพราะมีจุดขายในหลายส่วน โดยเฉพาะ 9 อัตลักษณ์สำคัญที่ทรงคุณค่าแห่งความทรงจำของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้แก่ ยอดเสาสีทอง (Golden Spire) กรอบอาคารสีทอง (Golden Façade) ห้องไลบรารี (Library 1918) ต้นไม้แห่งความทรงจำ (Trees from Original Dusit Thani Bangkok) นํ้าตก (Signature Cascading Waterfall) เพดานล็อบบี้ (Signature Lobby’s Ceiling) ผนังตกแต่ง (Decorative Lobby’s Screens) เสาเบญจรงค์ (Benjarong Pillars) และห้องไทยเฮอร์ริเทจ สวีท (Heritage Suite)  โดยส่วนต่างๆ เหล่านี้จะกลับมาสร้างความประทับใจครั้งใหม่ให้กับคนไทยและผู้มาเยือนจากทั่วโลกอีกครั้ง ภายโครงการ Dusit Central Park

“การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น หรือการที่ภาครัฐไม่ต่อมาตรการ LTV นั้นไม่มีผลกระทบต่อการขายโครงการของกลุ่มดุสิตฯแต่อย่างใด เนื่องจากลูกค้าล้วนเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ อีกทั้งประมาณปี 2568 บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรีขึ้นไปอีก 1 โครงการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้”นางสาวละเอียด กล่าวในที่สุด

 

 

 

 

 

อนึ่ง

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการบนพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี  สุดยอดทำเลดีที่สุด ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร ในโครงการประกอบด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า โดยมี Roof Park สวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สีเขียวพิเศษขนาดใหญ่ 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการส่วนแรกตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นต้นไป

You can share this post!