news-details
Business

ESTAR ประกาศแผนขยายฐานรุกตลาดบ้านหรู 20 ล้านบาทขึ้นไปปีละ 2 โครงการ หวังดันเป้ารายได้โตต่อเนื่อง3 ปี นำร่องทำเลฝั่งธนฯ มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ยันไม่เน้นสงครามราคา

อีสเทอร์น สตาร์ฯประกาศแผนขยายฐาน รุกตลาดบ้านหรู 20 ล้านบาทขึ้นไปปีละ 2 โครงการ หวังดันเป้ารายได้โตต่อเนื่อง 3 ปี นำร่องทำเลฝั่งธนฯ มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ยันไม่เน้นสงครามราคา  คาดเปิดตัวไตรมาส 3/67 ด้าน“ควินทารา มาย'เจน รัชดา-ห้วยขวาง” ยอดขายพุ่งแล้ว 60% โชว์ความสำเร็จ เติบโตสวนกระแส พร้อมคว้ายอดโอนฯ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 27% แย้ม Backlog แน่น คาดรายได้ทั้งปีตามเป้าที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท


นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา นับว่ามีปัจจัยลบหลายด้านที่ทำให้ตลาดเกิดการชะลอตัว แม้ภาครัฐจะมีนโยบายมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ ค่าจดจำนอง พร้อมขยายเพดานในกลุ่มบ้านราคา 7 ล้านบาท แล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถดึงกำลังซื้อให้กลับมาได้เท่าปีก่อนๆเนื่องจากมาตรการเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีผลมาจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นในปีนี้ ทำให้ภาพปัจจุบัน และอนาคต ของอสังหาฯ ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเหล่านี้ในระยะยาว พร้อมกับ Unknown Factors อีกมากมาย แต่ในธุรกิจอสังหาฯ ยังต้องมีเดินหน้าลงทุนเพื่อต่อลมหายใจต่อไป ด้าน ESTAR ยัง เดินหน้าการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยได้วางกลยุทธ์ในการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อเพิ่มยอดขาย และยอดโอนฯตามเป้าที่วางไว้

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป จะรุกตลาดบ้านหรู ระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ปีละประมาณ 2 โครงการๆละประมาณ 1,000 ล้านบาท  เพื่อสร้างรายได้ภายในระยะเวลา 3 ปีนี้ (2567-2569)เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 25% ต่อปี โดยเน้นทำเลย่านธนบุรีและ บางนา-ตราด เป็นหลัก ซึ่งปี 2568 จะนำร่องจากทำเลฝั่งธนบุรี ย่านบางแวก(พุทธมณฑล สาย 1-ราชพฤกษ์) ก่อน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่บริษัทเข้ามาพัฒนาอสังหาฯในย่านฝั่งธนฯ เนื่องจากมองว่ายังมีดีมานด์ที่มีกำลังซื้ออีกมากและมีความหลากหลายมากกว่าทำเลอื่น อาทิ กลุ่มนักธุรกิจ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีรายได้สูง เป็นต้น อีกทั้งย่านฝั่งธนฯราคาที่ดินยังไม่แพงมากเมื่อเทียบกับย่านบางนา -ตราด ปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้ว พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ สามารถพัฒนาบ้านหรูแบรนก์ใหม่ ประมาณ 57 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณไตรมาส 3/2568

“การที่เราเลือกเจาะบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป เพราะมองว่ายังมีช่องว่างตลาด และซัปพลายยังไม่มาก แต่ความต้องการยังมีอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าย่านฝั่งธนสัดส่วนประมาณ 20% จะซื้อด้วยเงินสด และเราจะไม่เล่นสงครามทำราคา แต่จะเน้นในเรื่องของการดีไซน์และฟังก์ชันที่เหนือกว่าคู่แข่งในย่านเดียวกัน” นายไพโรจน์ กล่าว

สำหรับในปี 2567 นี้ ESTAR ได้เปิดตัวบ้าน-คอนโดฯใหม่ครบ 3 โครงการ 100% ตามแผน คือ 1.โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภา บ้านฉาง2.โครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง และ 3.โครงการ ทาวน์โฮม ESTON ลาดกระบัง- สุวรรณภูมิ รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท

นายไพโรจน์ กล่าวถึงความสำเร็จของ ESTAR เพิ่มเติมว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เคยประกาศเปิดตัว “ควินทารา มาย’ ซีรีย์”คอนโดฯใจกลางเมือง 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายดำเนินการก่อสร้างและรับรู้รายได้ในบางโครงการในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะ โครงการ “ควินทารา มาย'เจน รัชดา-ห้วยขวาง” ซึ่งเป็นโครงการ Highlight ที่สำคัญ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูง มี Supply พร้อมอยู่ไม่มากนัก “รัชดา-ห้วยขวาง” จึงเป็นทำเลที่มีศักยภาพ

โดยโครงการดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 21-42 ตารางเมตร ราคาตั้งแต่ 2.29-5.9 ล้านบาท จำนวน 383 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,050 ล้านบาท มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน 3 กลุ่มใหญ่ อาทิ กลุ่มพนักงานโรงแรมในพื้นที่ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา และกลุ่มพนักงานโรงพยาบาล ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% โดยเป็นลูกค้าคนไทยสัดส่วน 80% และต่างชาติสัดส่วน 20% (50 ยูนิต) โดยลูกค้าชาวต่างชาติจะแบ่งเป็นชาวจีน 35% ,ชาวยุโรป 30% และชาวเมียนมา 20% ถือเป็น Ranking ที่สำคัญในขณะนี้ โดยในระยะเวลา 45 วันที่ผ่านมา สามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดไปแล้วประมาณ 250 ห้อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท  ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถปล่อยเช่าในราคาเริ่มต้นที่ 12,000-15,000 บาท/เดือน และคาดการณ์ยอดโอนฯจากโครงการดังกล่าวในไตรมาส 3 นี้จะส่งผลให้ภาพรวมของยอดโอนฯ Estar แตะ 1,000 ล้านบาทตามที่ได้ตั้งเป้าไว้  

“รัชดา-ห้วยขวาง ถือเป็น 1 ใน 5 ทำเล  ที่มียอดขายดีที่สุด และเป็นทำเลที่ไม่เคยหลับใหล RISING STAR LOCATION? คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก มีจุดเด่นไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ใกล้สถานทูตที่สำคัญ 3 แห่ง อาทิ สถานทูตจีน สถานทูตสเปน และสถานทูตเกาหลี มีโรงแรมระดับ 3-5 ดาวเป็นจำนวนมาก กว่า 96 โรงแรม รวมถึงอาคารสำนักงานชั้นนำ เช่น อาคาร AIA Capital Center อาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาคาร G Land Tower พร้อมยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายทั้งกลางวันและกลางคืน เช่น ห้างสรรพสินค้า Central พระราม 9 The Esplanade ตลาดนัด Jodd Fair รวมทั้งยังใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ รพ.กรุงเทพฯ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท รพ. พระราม 9 และ รพ. ปิยะเวช อีกทั้งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ชั้นนำ 3 แห่ง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า 5สาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีเหลือง สายสีเขียว และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์“นายไพโรจน์ กล่าว

นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่ายังคงมี Backlog รอโอนในไตรมาส 4 ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ทั้งในกรุงเทพฯ และบ้านฉาง จ.ระยอง กว่า 700 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการคอนโดมีเนียม “ควินทารา มาย'เซน พร้อมพงษ์”ซึ่งมียอด Backlog รอโอนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทยอยโอนได้ในเดือนตุลาคมนี้ และจากความสำเร็จของการดำเนินงานในแต่ละโครงการที่เป็นไปตามแผน คาดว่าจะมีรายได้ทั้งปีตามเป้าที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท นอกจากนี้ ESTAR ยังมี Backlog ตุนไปถึงปี 2568 อีกประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้ายอดโอนในปี 2568 เพิ่มขึ้นไปแตะที่ 2,000 ล้านบาท

You can share this post!