news-details
Business

“ศุภาลัย”แย้มแผนปี’68 พร้อมพลิกฟื้นลุยตลาดคอนโดฯเพิ่มอีกเท่าตัว มั่นใจ 4 โครงการใหม่กวาดยอดขายวันพรีเซลไม่ต่ำกว่า 50%

ศุภาลัย ฝ่าไตรมาส 4 มั่นใจตลาดคอนโดฯเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า ประกาศเปิดตัว4 คอนโดมิเนียมใหม่ในรอบปีมังกร ท่ามกลางความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ ปักหมุด 4 ทำเลศักยภาพสูง เจริญนคร, สาทร-ราชพฤกษ์, ภูเก็ต และ เขาเต่า มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้านบาท มั่นใจช่วงพรีเซลกวาดยอดขายไม่ต่ำ 50% แย้มปี 68 กลับมารุกตลาดคอนโดฯเพิ่มมากอีกเท่าตัว

 

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีแรก ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามไปด้วย แต่ในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน บริษัทฯ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบ้านของลูกค้าทุกกลุ่ม

“ที่ผ่านมาศุภาลัยมีหุ้นหรือทุนมากที่สุดมากกว่าบริษัทอสังหาฯอื่นๆ ขณะเดียวกันก็มีหนี้สินต่อทุนน้อยที่สุด จึงถือเป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น นอกจากนี้ยังมีวิธีกระจายความเสี่ยงด้วย โดยมีการกระจายการพัฒนาโครงการไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากที่สุด”ดร.ประทีป กล่าว

โดยปัจจุบัน ศุภาลัยมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยใน 9 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 65,616 ยูนิต ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ ศุภาลัยปักธงลงเสาเข็ม 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ บน 4 ไพร์มโลเคชันที่มีศักยภาพสูงทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ทั้ง จ.ภูเก็ต และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์เทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน ได้แก่ SUPALAI TYME เจริญนคร, SUPALAI BLU สาทร-ราชพฤกษ์, SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต และ SUPALAI KRAM เขาเต่า

 

ทั้ง 4 โครงการใหม่เหล่านี้ไม่ได้เพียงตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบเรียลดีมานด์เท่านั้น แต่ยังรองรับแนวโน้มการลงทุนของผู้ซื้อที่มองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่าให้เป็นรายได้เสริม (Passive Income) ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ ศุภาลัยยังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในลักษณะ Multifunctional Space อีกทั้งโครงการใน จ.ภูเก็ต ยังคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสะดวกสบาย อีกทั้งด้วยชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ศุภาลัย ที่บริษัทฯ มีนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 35 ปี จึงมั่นใจได้ว่าคอนโดมิเนียมใหม่ทั้ง 4 โครงการนี้จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริโภคในทุกมิติ

“ตลาดคอนโดฯเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น สังเกตได้จากยอดขายคอนโดฯของเราที่มียอดขายดีขึ้น ในขณะที่ซัปพลายยังมีจำนวนจำกัด เนื่องจากกฎหมายใหม่ในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) มีความเข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันแบงก์ก็มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อโครงการโดยเฉพาะคอนโดฯมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่จะทำโครงการในขณะนี้ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ จะต้องเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน”ดร.ประทีป กล่าวในที่สุด

 

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 4/2567 น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากไตรมาส 3/2567 และน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ เนื่องจากได้แรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก จากเดิมที่จะเน้นการเปิดโครงการแนวราบเป็นหลักในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมสถานการณ์คอนโดมิเนียมในปี 2568 มีแนวโน้มจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคยังคงมีอยู่ แต่ปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ ทำให้ซัพพลายในตลาดคอนโดฯ กรุงเทพฯ อยู่ในภาวะขาดแคลน ด้วยสถานการณ์นี้ ศุภาลัยจึงเดินหน้าเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ใหม่ถึง 2 โครงการบนทำเลศักยภาพ คือ

-ศุภาลัย ธาม เจริญนคร (SUPALAI TYME CHAROEN NAKHON) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 28 ชั้น 1 อาคาร ขนาด 35-163.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.59-18.32 ล้านบาท จำนวน 461 ยูนิต หรือเริ่มต้นที่ 70,500 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2,080 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2567 นี้  

 

ทำเลเจริญนครเป็นย่านที่ศุภาลัยพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 10 กว่าปีที่ และมียอดขายที่ดีทุกโครงการ อีกทั้งจากข้อมูลพบว่าในย่าน คลองสาน มีประชากรเพียง 64,961 คน จำนวนเพียง 42,118 ครัวเรือน ถ้าเทียบกับศูนย์อื่นของกรุงเทพฯถือว่าน้อยมาก แต่ไม่สำคัญเท่ากับทำเลดังกล่าวประชากรมีกำลังซื้อมาก และยังเป็นทำเลที่ดึงดูดกลุ่มคนจากทำเลอื่นๆแสวงหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดีขึ้น เป็นคุณภาพชีวิตที่ดี การคมนาคมเดินทางสะดวก

สำหรับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  (2014-2024)ทำเลเจริญนครมีที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นประมาณ 5,229 ยูนิต โครงการส่วนใหญ่สัดส่วนประมาณ 77% เป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน รองลงมาเป็นขนาด 2 ห้องนอน สัดส่วน 20% และสุดท้ายคือขนาด 3 ห้องนอน สัดส่วน 3% แต่ศุภาลัยฯไม่เคยดำเนินการเช่นนั้น แต่จะเน้นห้องขนาด 1 ห้องรอน สัดส่วน 49% , ขนาด 1 ห้องนอน สัดส่วน 13% ,ขนาด 2 ห้องนอน สัดส่วน 33%, และขนาด 3 ห้องนอน สัดส่วน 5%

ด้านราคาขายคอนโดฯ ย่านเจริญนครฝั่งบน ริมแม่น้ำเหนือสะพานตากสิน ราคาจะพุ่งไปที่ประมาณ 375,000-444,000 บาท/ตารางเมตร แต่ถ้าเป็นฝั่งเจริญนคร ที่ไม่ติดแม่น้ำ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 111,000-169,000 บาท/ตารางเมตร หากอยู่ในซอยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-124,000 บาท/ตารางเมตร

ขณะที่ ทำเลเจริญนครช่วงกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการด้วย ราคาที่อยู่อาศัย ริมแม่น้ำจะอยู่ที่ประมาณ 191,000 บาท/ตารางเมตร ถ้าอยู่ติดถนนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 121,000-136,000 บาท/ตารางเมตร หากอยู่ในซอยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 90,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนทำเลเจริญนครฝั่งใต้ตั้งแต่สะพานกรุงเทพฯลงไป ราคาที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ประมาณ 86,000-113,000 บาท/ตารางเมตร

 

-ศุภาลัย บลู สาทร-ราชพฤกษ์ (SUPALAI BLU SATHORN-RATCHPHRUEK) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร ขนาด 29-122.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.89-11.09 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 64,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 771 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,440 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 นี้

“ทั้ง 2 โครงการในกทม. ตอบสนองต่อความต้องการโดยเฉพาะในด้านเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการหาที่อยู่อาศัยที่มีความคุ้มค่า ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเงินที่ลงทุน อีกทั้งยังมองหาห้องพักที่มีการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงแค่การทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) แต่ยังรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลไพร์มโลเคชันทั้ง เจริญนคร และ สาทร-ราชพฤกษ์ ที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกและสามารถเดินทางเชื่อมต่อทุกเส้นทางได้รวดเร็ว”นายไตรเตชะ กล่าว

ขณะที่ในส่วนภูมิภาค ศุภาลัย ได้ปักหมุดพัฒนา 2 โครงการใหม่ใน .ภูเก็ต และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดย จ.ภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมการบริการและการค้ารวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ ในรอบ 10 ปี คือ

-ศุภาลัย เซนส์ เขารัง ภูเก็ต (SUPALAI SENSE KHAO RANG PHUKET) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 2 อาคารๆA สูง 9 ชั้น และอาคาร B สูง 8 ชั้น ขนาด 35-73 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.69-6.62 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 73,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 221 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 นี้

คอนโดฯในภูเก็ตนั้น ลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่เองสัดส่วนประมาณ 49% ซื้อเพื่อลงทุนสัดส่วน 27% และซื้อเป็น Vacation สัดส่วน 24% และที่สำคัญโครงการในภูเก็ตลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนในจังหวัดภาคใต้หรือจังหวัดใกล้เคียงในสัดส่วนที่มากถึง 44% ขณะที่คนภูเก็ตจะซื้ออยู่อาศัยในสัดส่วน 26% ชาวต่างชาติ 7% คนกรุงเทพที่ไปอยู่ในภูเก็ต 6% และอื่นๆ 17% และไฮไลท์ที่สำคัญคือเป็นคอนโดฯแห่งแรกของปีและเป็นคอนโดฯแรกในจังหวัดภูเก็ต ที่พัฒนาเพื่อรองรับกลุ่ม PET FRIENDLY

 

“โครงการนี้ถือเป็นคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของศุภาลัยใน  จ.ภูเก็ต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน ท่ามกลางธรรมชาติของเขารัง ที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของภูเก็ต กับวิวที่ดีที่สุดใจกลางเมือง” นายไตรเตชะ กล่าว

ด้านอำเภอหัวหิน ก็มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่พักผ่อนสุดชิลล์ริมทะเลใช้เวลาเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากจะดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย จึงทำให้กลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่พักอาศัยหรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ศุภาลัยจึงต่อยอดความร้อนแรงจากคอนโดฯ แห่งแรกSUPALAI BLUE WHALE หัวหิน” ส่งต่อมาถึงโครงการล่าสุด คือ

-ศุภาลัย คราม เขาเต่า (SUPALAI KRAM KHAO TAO)  Private คอนโดมิเนียม ใกล้ชายหาดเพียง 400 เมตร เงียบสงบและผ่อนคลายกับทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำ ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง 5 ชั้น 4 อาคาร ขนาด 53-82.5 ตารางเมตร ราคา 3.59-8.5 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 60,500 บาท/ตารางเมตร จำนวน 84 ยูนิต มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2567 นี้

 

ทั้ง 4 โครงการนี้ถือว่าเป็น 4 คอนโดฯแรกของบริษัทฯที่เปิดตัวในปี 2567 นี้ ซึ่งเริ่มเห็นพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนขึ้น  และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 โดยจะมีความต้องการฟังก์ชันที่ มีมุมส่วนตัวและ หลากหลายมากขึ้น เช่น ห้องที่มีขนาด1 ห้องนอนเหมือนกัน แต่ถ้ามีฟังก์ชันพิเศษกว่า จะสามารถเพิ่มดีมานด์ต่อตารางเมตรได้มากกว่า และยิ่งในช่วงนี้ลูกค้า ส่วนใหญ่จะมีภาระที่มากขึ้น  แต่จะให้ความสนใจสินค้าต่อยูนิตในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปเพิ่มมากขึ้น และอยู่ในทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถตอบโจทย์ฟังก์ชันที่ใหญ่ อยู่อาศัยสบาย และเมื่อมีราคาต่อยูนิตแล้วยังคงตัวอยู่ ซึ่งคิดว่าทั้ง 4 โครงการที่เปิดตัวนี้ แม้ว่าจะอยู่ในต่างทำเล ต่างเซกเมนต์ แต่มีหลายอย่างที่ตอบโจทย์ลูกค้าตามตัวอย่างข้างต้น โดยคาดว่าทั้ง 4 โครงการจะสามารถทำยอดขายในวันพรีเซลได้ไม่ต่ำกว่า 50% และภายในระยะเวลา 3 เดือนที่เหลือของปี 2567 คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 60-70

“ในปีนี้เราเปิดคอนโดทั้งหมด 4 โครงการ แต่ในปีหน้าเราจะเปิดตัวคอนโดฯมากกว่านี้ เป็นเท่า  รวมไปถึงมูลค่าที่มากกว่าอย่างแน่นอน ซึ่งจะเห็นศุภาลัยกลับมารุกตลาดคอนโดฯอีกครั้งอย่างชัดเจน”นายไตรเตชะ กล่าว

 

ด้านนายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวเพิ่มเติมว่า ศุภาลัย ยึดมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คิดจากชีวิตจริงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ การออกแบบ และบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยอันยอดเยี่ยม โดยในปีนี้ ศุภาลัย มีโปรดักซ์ไฮไลท์ที่น่าจับตามองถึง 4 โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ จนถึงการสร้างบรรยากาศที่ยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน

-ศุภาลัย ธาม เจริญนคร จากแรงบันดาลใจของสายน้ำผสานเสน่ห์แห่งเจริญนคร สู่การออกแบบที่เชื่อมต่อทุกจังหวะของชีวิตไว้อย่างลงตัว กับคอนโดมิเนียม High Rise สูง 28 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 461 ยูนิต ขนาดพื้นที่โครงการ 3 ไร่ ด้วยห้องพักหลายขนาดที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ขนาด 35-118 ตารางเมตร และยกระดับชีวิตให้เหนือกว่ากับห้อง Duplex Living 2-3 ห้องนอน 92-163.5 ตารางเมตร อีกทั้งครบครันด้วย Connecting Rooftop Facilities Floors ส่วนกลางชั้นบนสุดที่เชื่อมต่อกิจกรรมหลากหลาย ชมวิวแม่น้ำได้ 180 องศา อาทิ Tyme Sky Lounge & Pool, Rock Climbing, Kids Sand Pit และ Roof Garden ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ CBD เชื่อมต่อถนนสำคัญหลายสาย อาทิ  เจริญนคร, สาทร และพระราม 3

-ศุภาลัย บลู สาทร-ราชพฤกษ์ จากธีมการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆที่หลากหลาย สู่การดีไซน์จักรวาลที่ชอบให้โคจรรอบตัวคุณกับแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่โดดเด่นบนถนนราชพฤกษ์ สูง 32 ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) จำนวน 771 ยูนิต ขนาดพื้นที่โครงการ 4 ไร่กว่า พร้อมแบบห้องหลากหลาย ตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ขนาด 29-122.5 ตารางเมตร โล่ง โปร่ง สบาย ด้วยเพดานสูง 2.7 เมตรทุกห้อง รองรับการใช้ชีวิตกับดีไซน์แบบ Multifunction Living ที่ออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย พร้อมครัวปิดเป็นสัดส่วน หมดปัญหาสัมภาระล้นห้อง ด้วยห้องเก็บของส่วนตัวสำหรับยูนิตพิเศษ และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ด้วย Full Facilities จัดเต็มส่วนกลางที่มากถึงกว่า 20 รายการ อาทิ BLU Aqua Pool สระว่ายน้ำไซส์เท่าสระโอลิกปิก, Stella Lounge, Sky Jogging Track และ Galaxy Theater

-ศุภาลัย เซนส์ เขารัง ภูเก็ต คอนโดฯ ที่ใจดี กับทำเลที่ถูกต้อง ใจกลางเมืองภูเก็ต คอนโดมิเนียม Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของศุภาลัย! ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 2 อาคาร อาคาร A 9 ชั้น จำนวนห้องพัก 105 ยูนิต , อาคาร B สูง 8 ชั้น จำนวน 116 ยูนิต กับรูปแบบห้องพัก 1-2 ห้องนอน ขนาด 35–73 ตารางเมตร โดยการออกแบบอาคารได้แรงบันดาลใจมาจาก "Modern Mediterranean" ความโค้งมน ผสมกับเส้นสายของแนวคลื่นและหาดทราย โดยอาคาร A และอาคาร B เชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำ Infinity Edge Lap Pool ยาว 21 เมตร พร้อม Jacuzzi พักผ่อนสายตากับวิวเมืองและวิวธรรมชาติอันสวยงาม เอาใจทุกความต้องการด้วย Facilities ครบครัน อาทิ Lobby แบบแยกอาคาร พร้อมทั้งพื้นที่ Semi Outdoor, ชิลล์ให้สุดกับวิวสระ Shallow Pool ที่เตียงอาบแดดในสระน้ำตื้น, ใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัวที่ Roof Garden และ Sky Kids Zone ตอบโจทย์คนรักสัตว์ด้วย Pet Playground พื้นที่ Outdoor สำหรับสัตว์เลี้ยง ให้น้องๆได้ปลดปล่อยพลังและทำกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย

-ศุภาลัย คราม เขาเต่า สัมผัสความสุขและสงบในพื้นที่ส่วนตัวกับ Private คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 5 ชั้น  จำนวน 4 อาคาร สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 84 ยูนิตที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ ใกล้ชิดทะเลและอ่างเก็บน้ำเขาเต่า กับรูปแบบห้องพัก 2 ห้องนอนทั้งโครงการ ขนาด 53-82.5 ตารางเมตร ตกแต่งครบทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวให้พร้อมลากกระเป๋าเข้าอยู่ ให้ได้สัมผัส Beach Vibes ได้ทุกวันด้วยการออกแบบที่ได้รับ แรงบันดาลใจจากความงดงามของชายหาด ทุกพื้นที่ภายในคอนโดมิเนียมสะท้อนถึงความสดชื่นและการผ่อนคลายของชีวิตริมทะเล ด้านผังอาคาร จัดวางแบบล้อมพื้นที่สระว่ายน้ำ Freeform ขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัว และทุกอาคารจะได้ชม Pool View & Garden View พร้อมสดชื่นกับพื้นที่สีเขียวสวนพักผ่อนในสไตล์ Tropical ให้ความเย็นสบาย ร่มรื่นและ เขียวชอุ่ม

“ศุภาลัยมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน โดยมีการศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงมองหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และยึดมั่นในหลักการความยั่งยืนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกมิติ โดยมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับมาตรฐานและความยั่งยืนในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย” นายชัยจักร กล่าวในที่สุด

 

 

 

You can share this post!