ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 33.28 บาท/ดอลลาร์ "แข็งค่าเล็กน้อย" กรุงไทยมองกรอบสัปดาห์นี้ 33.00-33.65 บาท/ดอลลาร์ ติดตามผลประชุม กนง. และผลประชุมECB พร้อมรอลุ้น รายงานผลประกอบการบจ.
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.28 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.34 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทโดยรวมยังคงเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.11-33.36 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการทยอยปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งยังคงได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทว่าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำก็เป็นไปอย่างจำกัด และราคาทองคำก็มีจังหวะย่อตัวลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างก็ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองคำและเงินดอลลาร์ดังกล่าว ก็มีส่วนทำให้เงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและเริ่มกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง ก่อนที่จะแกว่งตัวใกล้โซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ ที่ดูจะเป็นโซนแนวต้านแรกในช่วงระยะสั้นได้
สัปดาห์ที่ผ่านมา การอ่อนค่าของเงินบาทนั้นถูกชะลอลงด้วย แรงขายเงินดอลลาร์จากผู้ส่งออก การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ และจังหวะอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรรอติดตาม ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมั่นใจแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท ตราบใดที่เงินบาทไม่ได้แข็งค่าทะลุโซน 33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งต้องจับตาผลการประชุม กนง. ทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำกับน้ำมันดิบ) ทั้งนี้ เงินบาทอาจถูกกดดันจากแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอลงจากแรงขายเงินดอลลาร์และการปรับสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) ของผู้เล่นในตลาด ในช่วงนี้ได้
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาที่ดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะ “คง” ดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินยูโร หาก ECB ลดดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากบรรยากาศในตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงชัดเจน (Risk-On) ก็อาจช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้บ้าง
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.00-33.65 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.15-33.45 บาท/ดอลลาร์