รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ด้วยการมอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ 2,353.2 ไร่ของท่าเรือให้เกิดประโยชน์สูงสุด การประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่นี้จึงเกิดขึ้น โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน การพัฒนาครั้งนี้ตั้งเป้าเปลี่ยนท่าเรือคลองเตยให้กลายเป็น “Smart Port” เพื่อยกระดับท่าเรือและพื้นที่โดยรอบให้สอดคล้องกับยุคสมัยและการเติบโตของเมือง
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนา Smart Port จะรวมถึงการพัฒนาท่าเรือทางบก (Dry Port), การสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1), การพัฒนาเป็นท่าเรือกึ่งอัตโนมัติ และศูนย์การกระจายสินค้า การพัฒนาเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง แต่ยังเป็นการเสริมความเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสร้าง “Smart Community” ที่ยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
การพัฒนาชุมชนคลองเตย: ความหวังของผู้ด้อยโอกาส
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่กระทรวงคมนาคมต้องคำนึงถึงคือการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในเขตคลองเตย ที่ประชากรกว่า 26 ชุมชนอาศัยอยู่มานาน การประชุมครั้งนี้ได้วางแนวทางให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ศึกษาและแบ่งพื้นที่ 20% หรือกว่า 500 ไร่ สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับชุมชน โดยเบื้องต้น กทท. ได้เตรียมพื้นที่ไว้แล้ว 270 ไร่ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในรายละเอียดเพื่อให้การพัฒนานี้เกิดขึ้นจริง
ข้อเรียกร้องของชุมชนที่ต้องการให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาได้รับการตอบรับจากรัฐบาล โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีตัวแทนจากชุมชนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง นับเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบอนาคตของตนเองและพื้นที่ที่อาศัยอยู่
ย้ำความโปร่งใส: ไม่มีแผนพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์
การพัฒนาท่าเรือคลองเตยครั้งนี้มีความเข้าใจผิดบางประการที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ให้เป็น “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงชัดเจนว่า โครงการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยที่กำลังดำเนินการอยู่ การพัฒนาท่าเรือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การใช้ประโยชน์ด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนเท่านั้น
ตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด: กำหนดแนวทางพัฒนาอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่, คณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพชุมชนคลองเตย, คณะอนุกรรมการจัดระเบียบการจราจรและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าทุกมิติเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือคลองเตยจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งในด้านการใช้งานพื้นที่ การแก้ไขปัญหาจราจร และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ข้อสรุปที่คาดหวัง: การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนใน 1 ปีข้างหน้า
จากการประชุมและการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าว คาดว่าภายใน 1 ปีจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือคลองเตยและชุมชนโดยรอบ นี่จะเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สำคัญนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ทันสมัยและเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
การพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ แต่ยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน นับเป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่และเป็นการวางรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต