ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกับ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจในการดำเนินโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระที่ต้องการขอสินเชื่อแต่ไม่สามารถแสดงเอกสารหรือแหล่งที่มาของรายได้และต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน-อาคาร ห้องชุด ภายใต้โครงการ “ LIVNEX เช่าออมบ้าน...เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ” ของเสนาฯ โดย ธอส. ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความรู้ทางการเงินผ่านโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการยื่นขอสินเชื่อในวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ MRR-3.75% ต่อปี (2.795% ต่อปี) เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.33% ต่อปี ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 5,200 บาท เท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ธอส. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน สนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ธอส. จึงเดินหน้าแนวทางดังกล่าว ด้วยการร่วมมือกับ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจในการดำเนินโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระที่ต้องการขอสินเชื่อแต่ไม่สามารถแสดงเอกสารหรือแหล่งที่มาของรายได้ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน-อาคาร ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ภายใต้โครงการ “LIVNEX เช่าออมบ้าน...เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ”
ของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยปัจจุบันต้องไม่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น โดยมีโอกาสได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 เท่ากับ MRR-3.75% ต่อปี (2.795% ต่อปี), ปีที่ 2 เท่ากับ MRR-3.15% ต่อปี (3.395% ต่อปี), ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-2.75% ต่อปี (3.795% ต่อปี) เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.33% ต่อปี ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 5,200 บาท เท่านั้น
“ธอส. ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความรู้ทางการเงินผ่านโครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567 x Developer เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. โดยพิจารณาความสามารถในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอผ่าน Application : GHB ALL GEN เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 12 เดือน และชำระค่าเช่าออมรายเดือนผ่าน LIVNEX เช่าออมบ้าน...เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ และสามารถนำหลักฐานการออมเงินดังกล่าวมาใช้สำหรับยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอนอน” นายกมลภพ กล่าว
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า ธอส. มีวิสัยทัศน์ในการทำให้คนไทยมีบ้าน ผ่านการสนับสนุนทางการเงิน และการเตรียมความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งตรงกับความตั้งใจของเสนาฯที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ซึ่งความร่วมมือนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ “โครงการ LIVNEX เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ" ด้วยการช่วยให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเงินสามารถเป็นเจ้าของบ้านคุณภาพ
ได้ง่ายขึ้น และการสร้างวินัยทางการเงินแก่ผู้ที่มีความฝันจะมีบ้านเป็นของตนเอง ด้วยการให้เช่าที่อยู่อาศัย พร้อมโอกาสในการออมและเตรียมความพร้อมสู่การขอสินเชื่อ และยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม ตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย ซึ่งอาจประสบปัญหาในการขอสินเชื่อหรือการซื้อบ้านโดยตรง
ความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจาก “โครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน ปี 2567" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการการเงินให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ เสนาจะมีบทบาทสำคัญในการแนะนำลูกค้าให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. พร้อมทั้งสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากช่วยให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืนแล้ว โครงการ LIVNEX เช่าออมบ้าน....เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเสนาในการนำแนวคิดด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มาใช้ในทุกกระบวนการ โครงการนี้เน้นการสร้างวินัยทางการเงิน ลดปัญหาหนี้เสีย ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย และเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตและที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมในระยะยาวอีกด้วย