ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 33.78 บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่าเล็กน้อย”กรุงไทย มองกรอบวันนี้ คาดจะอยู่ที่ 33.65-33.90 บาท/ดอลลาร์ จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ และรายงานดัชนี PMI เดือนตุลาคม
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.78 บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่าเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.72 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลง ในลักษณะ Sideways Up (กรอบการเคลื่อนไหว 33.64-33.79 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยรีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้า เงินดอลลาร์ได้ปรับตัวอ่อนค่าลง ตามการปรับลดโอกาสที่โดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการพักฐาน (Correction) โดยผู้เล่นในตลาดต่างยังคงต้องการถือทองคำ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะรู้ผลการเลือกตั้งอย่างเร็วสุดในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า การนับคะแนนการเลือกตั้งอาจใช้เวลานานหลายวัน จนกว่าจะรู้ผลการเลือกตั้งได้ เหมือนกับการเลือกตั้งปี 2020 ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) เดือนตุลาคม ซึ่งอาจยังคงสูงกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนว่าภาคการบริการของสหรัฐฯ (มีสัดส่วนเกิน 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ) ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนในฝั่งเอเชีย บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ต่างประเมินว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.35% จนกว่า RBA จะมั่นใจได้ว่า อัตราเงินเฟ้อจะสามารถชะลอลงต่อเนื่องจนกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2%-3%
นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะรู้ผลการเลือกตั้งได้อย่างเร็วสุด ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจน จนกว่าจะรู้ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ช่วงทยอยรับรู้รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ เนื่องจากสถิติในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัว +/-0.2% ในช่วง 30 นาที หลังตลาดรับรู้ข้อมูลดังกล่าว โดยอาจต้องระวังความเสี่ยงที่ เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นได้พอสมควร ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หากรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจปรับเพิ่มความคาดหวังการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟดได้
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงในตลาด ลักษณะ Two-Way Volatility ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงการปรับมุมมองต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางไปมา ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.90 บาท/ดอลลาร์