news-details
Business

CPN ทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท พลิกโฉมคอมมูนิตี้ มอลล์ ทั่วกทม. รีแบรนด์ “Market Place”ครั้งใหญ่ ตั้งเป้า 5 ปี ผุดอีก 5 สาขาใหม่ นำร่อง “Market Place เทพรักษ์” พร้อมเปิดตัว ม.ค. 68 นี้

ภายหลังจากที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN  ได้ลงนามข้อตกลง (MOU) เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นสามัญ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้า เช่น เมกา บางนา, เอสพลานาด, ลา วิลลา, เจ อเวนิว, ดิอเวนิว จากบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MAJOR”รวมจำนวนหุ้นสามัญที่ซื้อขายทั้งสิ้น 647,158,471 หุ้น หรือคิดเป็น 30.36% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ SF  เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้พอร์ตต่างๆมาอยู่ในมือกลุ่มเซ็นทรัลฯตั้งแต่นั้นมา

ล่าสุด นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Chief Operating Officer & Head of Community Mall Business บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า ในยุคที่ลูกค้ามีความต้องการที่ Fragmented มากขึ้นในแต่ละย่าน ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่สำคัญของเซ็นทรัลพัฒนา ด้วยโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ในเชิงลึกได้มากขึ้น สามารถนำเสนอร้านค้าบริการต่างๆ ที่ทันสมัย สดใหม่ และเข้าถึงชีวิตประจำวันทุกวันได้ ขณะที่การแข่งขันตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ ก็ยังมีสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ถึงกับโอเวอร์ซัพพลาย ผู้ประกอบการรายใดที่สามารถปรับตัวได้เร็ว ทีมงานดี สายป่านยาว ก็มีประโยชน์ ซึ่งในส่วนของ CPN นั้นถือว่าไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด เพราะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ และปัจจุบันจะให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก

“แม้ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่สิ่งที่ยังเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการคือ จะปรับตัวอย่างไรให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่มีความต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะเดียวกันคนที่ใช้ชีวิตในเมือง ส่วนใหญ่จะมีเวลาจำกัด ดังนั้นรูปแบบการให้บริการที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์จึงตอบโจทย์คนเมืองได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเปิดตัวได้ในย่านชุมชน”นายวุฒิเกียรติ กล่าว

นายวุฒิเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัทฯจึงได้ตั้งงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ในการเปิดตัวคอมมูนินี้มอลล์แบรนด์ “Market Place” (มาร์เก็ตเพลส) จำนวน 5 สาขา (ปีละ 1 สาขา) และปรับปรุงเพื่อรีแบรนด์ 15 สาขาเดิม โดยสาขาที่จะพัฒนาใหม่นั้นจะต่อท้ายด้วยโลเคชั่นนั้นๆ และจะใช้ที่ดินในการพัฒนาประมาณ 5-10 ไร่ ใช้งบลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท/สาขา ซึ่งจะทำให้ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า จะมีแบรนด์ “Market Place” รวม 20 สาขา จากปัจจุบันที่มีแล้ว 15 สาขา โดยทั้ง 5 สาขาใหม่นั้น จะมีทั้งที่ดินที่บริษัทฯซื้อเพื่อพัฒนาเอง และเป็นที่ดินที่เช่าระยะยาวประมาณ 30 ปี จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯทั้งหมด ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น ขณะนี้ยังไม่สนใจ แต่ถ้าหากมีโอกาสก็พร้อมที่จะเข้าไปเปิดสาขาเช่นกัน เช่น เชียงใหม่ เป็นต้น

“คอมมูนิตี้มอลล์ ปัจจุบันนี้จะมีความแตกต่างจากในอดีตโดยสิ้นเชิง โดยจะมีความแตกต่างที่ไม่มีในศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้า เพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว เช่น การนำร้านค้าสตรีทฟู้ดเข้ามาเช่าพื้นที่ในโครงการ เป็นต้น ซึ่งจะเสียต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำกว่าในศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า โดยจะเป็นที่ชื่นชอบของคู่ค้า และทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการมีทางเลือกที่หลากหลาย ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะมีให้เห็นในโซนราชพฤกษ์โซนใต้เต็มไปหมด แต่โซนราชพฤกษ์โซนเหนือยังไม่ค่อยมีให้เห็น ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem ให้เซ็นทรัลพัฒนา และนำเอาความเชี่ยวชาญในการพัฒนาพื้นที่และมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ มาช่วยพัฒนาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกแห่ง” นายวุฒิเกียรติ กล่าว

นายวุฒิเกียรติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ 15 สาขา ที่จะรีโนเวทนั้น จะใช้งบประมาณเฉลี่ยที่ 30-50 ล้านบาท/สาขา ซึ่งในปี 2568 จะเตรียมปรับโฉมอีก 5 สาขา พร้อมกับมีแผนเปิดตัวสาขาแรกจากแผน 5 ปี คือ “Market Place เทพรักษ์”ซึ่งเป็นสาขาที่ใช้พื้นที่มากถึง 15 ไร่ โดยเชื่อว่าหลังจากที่รีโนเวท 15 สาขา และเปิดตัว 5 สาขาใหม่แล้ว จะทำให้มีรายได้เพิ่มอีกประมาณ 3-5% ต่อปี จากเดิมที่มีรายได้ไม่ถึง 10% จากรายได้รวมของ CPN

“ปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวโครงการใหม่ ‘มาร์เช่ ทองหล่อ’ มิกซ์ยูสใจกลางทองหล่อ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี สำหรับ ปีนี้เราได้ทำ Rebranding ครั้งยิ่งใหญ่ โดยโฟกัสการพัฒนา Market Place ให้เป็น Core Brand ที่มีความแข็งแกร่ง การปรับภาพลักษณ์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยผนวก Community Mall เข้ากับ Urban Fresh Market มอบทั้งความสะดวกสบาย สินค้าและบริการมีความหลากหลายมากขึ้น เป็นพื้นที่ของทุกคนในครอบครัวที่มาใช้เวลาได้ทุกวัน ทั้งวัน”นายวุฒิเกียรติ กล่าว

 

ด้านนางสาวสุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Executive Project Director บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า “มาร์เก็ตเพลส เทพรักษ์” จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ใหญ่ที่สุด ใหม่ที่สุด ทันสมัยที่สุด เป็นศูนย์กลางของย่านเทพรักษ์ จากหลายปัจจัยได้แก่

1.เป็นทำเลดีที่สุด ตั้งอยู่ถูกทิศและถูกตำแหน่งของถนนเทพรักษ์ เป็นทำเลที่ผู้คนจะต้องผ่านเวลาขับรถกลับบ้านมาจากในเมือง

2.ย่านที่อยู่อาศัยเติบโตสูง ด้วยโอกาสทางธุรกิจและความต้องการของคนในย่านจากโซนหมู่บ้านต่างๆ ปัจจุบัน โครงการที่อยู่อาศัยมีจำนวนกว่า 174,000 ยูนิต มีอัตราการเพิ่มจำนวน 2.4% ต่อปี และมีจำนวนประชากรเกือบ 400,000 คน เจาะกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มครอบครัว ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ และต้องการความสะดวก

3.ครบครันและดีที่สุดในย่าน ประกอบด้วย พื้นที่ Community Mall ขนาด 5,800 ตร.ม. จำนวน 60 ร้านค้าและพื้นที่ Urban Fresh Market สะอาดทันสมัย ขนาด 1,500 ตร.ม. กว่า 300 ร้านค้า

4.Food Destination ร้านอาหารหลากหลายตั้งแต่ ร้านแนวเทรนดี้ ร้านอาหารครอบครัว ร้านนั่งชิล หลังเลิกงาน และ ตื่นตาตื่นใจไปกับร้านแนว street food ชื่อดัง

5.Urban Fresh Market ตลาดสดรุ่นใหม่ ใส่ใจคุณภาพ สะอาดปลอดภัย เพลิดเพลินกับการจับจ่าย ทั้งของสด อาหารทะเล อาหารออแกนิก และวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วโลก และมีร้านหลากหลายทั้ง Ready to Eat, Grab & Go, Take Home

6.Family & Co-creation space พื้นที่ผ่อนคลายและทำกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว, Kid playground และ พื้นที่ Pet-Friendly พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้

7.Health & Beauty: ครบครันกับร้านค้าและบริการด้านสุขภาพและความงาม

8.พื้นที่จัดงาน Events ทั้ง Tourism Event, Food Fair และ Health Fair เป็นต้น

9.ขนทัพแบรนด์และร้านค้าครบครัน ทั้ง Tops Supermarket ร้านอาหารดัง Street Food มากมาย อาทิ ร้านราดหน้ายอดผัก จากสาขาศาลเจ้าพ่อเสือ, กุ๊กขี้เมา จากบรรทัดทอง, เช็งซิมอี๊, หมูทอดเจ๊จง, เสือเบิร์นไฟ, ซั่งไห่ (ซาลาเปาและข้าวมันไก่), ผักบ้านต่าย ผักออร์แกนิก, ราดหน้าเฮียอ้วน เยาวราช, ผัดไทยรสชา, กงสี ทีบาร์, ร้านชาวเลซีฟู้ดส์ และร้านเต้าหู้ทอดสวัสดี แม่โอเล่ รวมถึงกลุ่มร้านบริการ เช่น AUTO 1 ศูนย์บริการรถยนต์ออโต้วัน ในเครือเซ็นทรัล และ PETClub ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าพรีเมียม สำหรับสัตว์เลี้ยงและบริการต่างๆ ครบวงจร

10.ดีไซน์ใหม่ด้วยตัวอาคาร Low-Rise ในบรรยากาศร่มรื่น Tropical Style พร้อมด้วยพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว, พื้นที่ Pet Friendly, และที่จอดรถสะดวกสบายกว่า 200 คัน

11.เดินทางสะดวก โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากถนนพหลโยธิน และใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีจากถนนวิภาวดี ใช้ทางด่วนฉลองรัช หรือเส้นทางถนนวัชรพล หรือโดยสารรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ใช้เวลาเพียง 7 นาทีจากสถานีสายหยุด

12.เปิดตัวงาน Grand Opening โครงการ Market Place เทพรักษ์ ในเดือนมกราคม ปี 2568 และHighlights พิเศษมากมาย ทั้งในเรื่องสีสันวันเปิดตัวที่จะนำความสุข สนุกมาสู่ชุมชน ในบรรยากาศต้อนรับเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ ครบทั้งจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว

 

เซ็นทรัลพัฒนา ชูกลยุทธ์ Life Connecting Hub พลิกโฉม Community Mall Landscape ได้แก่

1.Future-Fluent Development: สร้างสรรค์ “คอมมูนิตี้” ที่ตอบโจทย์กิจกรรมของคนทุกกลุ่มทุกวัย เพื่อเป็น Centre of the Neighbourhood อีกทั้งยังพัฒนา New Model ผสมผสาน Community Mall เข้ากับ Urban Fresh Market

2.Neighbourhood-Centric: ตอบโจทย์ Fragmented Demand ในแต่ละย่านที่แตกต่างกัน ให้ครบและลึกยิ่งขึ้น

-“ทุกความสะดวกสบาย” ด้วย Flexible Hours, และตอบโจทย์ Everyday Lifestyle ของทั้งลูกค้าชาวไทย และลูกค้า Expat ร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย ทั้งแบบ Dine-in, Grab & Go, Take Home มีร้านให้ Hang out นัดสังสรรค์หลังเลิกงาน

-โมเดลใหม่ Urban Fresh Market ที่ทันสมัย มีไลฟ์สไตล์ มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัย

-จัดงาน Event ที่ engage ชุมชน เช่น เปิดพื้นที่ outdoor / weekend market ให้ร้านค้าชุมชน พื้นที่จัดกิจกรรม Happening Events ต่างๆ กิจกรรมสำหรับ Pet-friendly community

3.Sustainable Community: ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในย่าน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการมุ่งสู่องค์กร Net Zero 2050 ของเซ็นทรัลพัฒนา

-Green Community Mall Development เน้นการใช้ Green Material ใส่ใจเรื่อง Energy Saving ใช้ Solar Cell และ ใช้หลอดไฟแบบ LED

-เป็น Hub ที่ส่งเสริม Sustainable Lifestyle ส่งเสริมให้ลูกค้าแยกขยะ – จับมือกับหน่วยงานต่างๆ กับกทม. / ร้านค้าจัดการ Food Waste / มี EV Charger Station เป็นต้น

 

อนึ่ง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินกลยุทธ์ The Ecosystem for All เป็นระบบที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อเติบโตไปกับทุกฝ่ายควบคู่ไปกับการเป็นพลังขับเคลื่อนหลักที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจและประเทศ โดยปี 2567 เซ็นทรัลพัฒนาจะมีโครงการศูนย์การค้า 42 โครงการ, คอมมูนิตี้ มอลล์ 15 โครงการ, ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ, และออฟฟิศ 10 โครงการ

 

You can share this post!